The Visit to GRAND SEIKO Studio Shizukuishi
ถือเป็นโอกาสอันดีที่ iamwatch.net ได้มีโอกาสได้เข้าชมหน้าประวัติศาสตร์ของช่วงเวลากว่า60 ปีสำหรับ GRAND SEIKO ที่สตูดิโอหรือโรงงานแห่งใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ในชื่อ GRAND SEIKO Studio Shizukuishi ที่เป็นบ้านของช่างฝีมือทั้งชายและหญิง พร้อมทำหน้าที่ประกอบชิ้นส่วนและปรับแต่ง ชุดกลไกนาฬิกาแบบจักรกลของ GRAND SEIKO ทุกเรือนที่ผลิตจากสตูดิโอแห่งนี้โดย GRAND SEIKO Studio Shizukuishi ประกาศเปิดทำการเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2020 และออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Mr. Kengo Kuma
และอย่างที่ Mr. Shinji Hattori กล่าวไว้ว่า “สตูดิโอแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างเหมาะสม สำหรับช่างฝีมือทั้งชายและหญิง เพื่อที่จะทำให้นาฬิกาจักรกลของ GRAND SEIKO มีชีวิตพร้อมทั้งรวบรวมปรัชญาของ “ธรรมชาติแห่งเวลา” (Nature of Time) ของ GRAND SEIKO เอาไว้เพื่อยืนยันกับชาวโลกถึงการอุทิศตน ในการประดิษฐ์นาฬิกาจักรกล” ที่ ณ สถานที่แห่งนี้ ทั้งด้านความทันสมัย ความสวยงาม เทคโนโลยีที่เพียบพร้อม และการดูแลซึ่งธรรมชาติ อันเป็นส่วนหนึ่งในปรัชญาของ GRAND SEIKO ได้ถูกจัดวางไว้อย่างพร้อมเพรียง
จากงานการออกแบบของสตูดิโอแห่งนี้ จากมุมมองของ GRAND SEIKO เกี่ยวกับความสำคัญของธรรมชาติ ที่สามารถสะท้อนให้เห็นได้ในทุกมุมของสตูดิโอ ที่โดยรวมจะประกอบไปด้วยไม้ที่มีสีสันความสะอาดตา พร้อมการจัดวางพื้นที่ต่างๆ อย่างครบถ้วนตั้งแต่เข้าถึงในพื้นที่ ตั้งแต่โถงต้อนรับ มุมนั่งพัก มุมแสดงวีดิทัศน์ และมุมจัดแสดงที่ทำให้เห็นได้ถึงความสำคัญ ในองค์ประกอบของนาฬิกาทุกเรือนจาก GRAND SEIKO ที่นาฬิกาจะต้องมีทั้งความแม่นยำ การแสดงถึงธรรมชาติ และเทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิต
โดยสตูดิโอแห่งนี้มีพื้นที่ใช้สอยรวม 2,244 ตารางเมตร ที่ไม่เพียงสร้างบรรยากาศการทำงาน ที่ดียิ่งกว่าให้กับเหล่าช่างนาฬิกาของ GRAND SEIKO เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้กับการผลิตสิ่งใหม่ๆ ในอนาคตอีกด้วย อย่างเช่นนาฬิกา GRAND SEIKO กลไกแบบไฮ-บีท 36,000 ที่ให้พลังสำรองลานนานถึง 80 ชั่วโมง ที่เป็นการสร้างสรรค์ใหม่ครั้งแรก พร้อมการผลิตขึ้นสำหรับจำหน่ายในตลาด ในนามของกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 9SA5 ที่ผลิตขึ้นจากสตูดิโอแห่งใหม่ในชิสึคุอิชินี้
ซึ่งหัวใจสำคัญของสตูดิโอแห่งนี้คือห้องแบบคลีนรูม ที่ซึ่งนาฬิกาทุกเรือนจะได้รับการประกอบ และลดปัญหาของฝุ่นที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีกระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่พาดยาวตามโถงทางเดิน เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถมองเห็นกระบวนการผลิตในขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างจุใจ ซึ่งรวมไปถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ที่จะทำให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของนาฬิกา GRAND SEIKO ได้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีการรวมการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชม สามารถลองประกอบชิ้นส่วนนาฬิกาบางจุดได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีห้องรับรองบนชั้นสอง ที่สามารถมองออกไปเห็นภูเขาอิวาเตะ ซึ่งเป็นภูเขาที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบนาฬิกา GRAND SEIKO ในหลากหลายแง่มุม รวมทั้งบรรยากาศโดยรอบสตูดิโอ ที่มีการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ต่างๆ ไว้ และยังมีการอนุรักษ์นกพันธุ์หายากของแถบอิวาเตะ โดยการช่วยสร้างบ้านนกเอาไว้รอบๆ สตูดิโอ ซึ่งในหลายๆ โอกาส ผู้คนในสตูดิโอยังมีโอกาสได้พบกับสัตว์ต่างๆ ที่โดยมากมักไม่เข้าสู่พื้นที่ตัวเมืองมากนัก อันจะเห็นได้ถึงแนวคิดของสตูดิโอตามแบบฉบับของธรรมชาติแห่งเวลาอย่างแท้จริง