BLANCPAIN - Métiers d'Art Collection, Ref. 6124-1919-55B
BLANCPAIN อวดโฉมนาฬิกาหน้าปัดพอร์ซเลนเรือนแรก อันเป็นผลงานหัตถ์ศิลป์ที่รังสรรค์โดยช่างฝีมือแห่ง Métiers d'Art ในทุกขั้นตอน เรือนเวลารุ่นพิเศษนี้มีเพียง 8 เรือนทั่วโลกเท่นั้น โดยแต่ละเรือนถือเป็นสุดยอดงานศิลป์ชิ้นเอก ซึ่งนับเป็นการเผยโฉมเรือนเวลาที่รังสรรค์จากงานหัตถศิลป์แบบจีนโบราณที่เดอะแมนูแฟคเจอร์ ณ เลอบราซูส์ สร้างสรรค์ขึ้นในทุกกระบวนการ
เหล่าสุดยอดช่างฝีมือของ BLANCPAIN คือศิลปินผู้รังสรรค์ศิลปะแห่งเรือนเวลา ที่มีความเชี่ยวชาญในศิลปะหลากหลายแขนง รวมถึงเป็นผู้สืบทอดงานหัตถ์ศิลป์ต่างๆ อันเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นเดอะแมนูแฟคเจอร์ หรือสำนักรังสรรค์นวัตกรรมเรือนเวลาของ BLANCPAIN ในเลอบราซูส์ จึงเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางแห่งศิลปะบนเรือนเวลาอย่างแท้จริง
นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ BLANCPAIN ได้มีโอกาสรังสรรค์และพัฒนาศิลปะรูปแบบใหม่ๆอยู่เสมอและถึงแม้ช่างฝีมือของ BLANCPAIN จะมีความเชี่ยวชาญชั้นครูอยู่แล้ว BLANCPAIN ก็ยังต้องทุ่มเทเวลากว่าหนึ่งปีในการพัฒนาและตรวจสอบก่อนจะเผยโฉมนาฬิกาหน้าปัดพอร์ซเลนเรือนแรกที่ออกแบบและรังสรรค์ขึ้นเองโดย BLANCPAIN ในทุกกระบวนการ
กรรมวิธีสร้างสรรค์หน้าปัดพอร์ซเลนมีความซับซ้อนหลายขั้นตอน ตั้งแต่ต้องรอเวลาให้เนื้อพอร์ซเลนแห้ง และยังต้องผ่านกระบวนการเผาอีกหลายรอบ ซึ่งต้องอาศัยทั้งฝีมือ ความเชี่ยวชาญ และความตั้งใจสูง โดยเริ่มจากการผสมผงแร่ควอทซ์ ผงเฟลด์สปาร์ และดินคาโอลิน เนื้อละเอียดเข้าด้วยกัน จากนั้นจึงนำมาผสมน้ำให้ข้น แล้วคัดกรองเพื่อแยกสิ่งสกปรกหรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจปะปนอยู่ออกก่อน
ต่อด้วยการนำมาขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์รูปหน้าปัดนาฬิกา โดยเมื่อถอดออกจากแม่พิมพ์แล้ว ยังต้องทิ้งไว้ให้แห้งนานกว่า 24 ชั่วโมง ก่อนนำไปเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิ 1,000 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอีก 24 ชั่วโมงเช่นกัน การเผาครั้งแรกจะช่วยให้เนื้อพอร์ซเลนแข็งตัว เพื่อรองรับการลงสีและเคลือบลงยาในขึ้นตอนถัดไป หน้าปัดนาฬิกาทุกชิ้นจะผ่านการการเคลือบลงยาด้วยมือ ก่อนจะนำไปเผารอบที่สอง ณ อุณหภูมิ 1,300 องศา เพื่อให้เนื้อพอร์ซเลนมีความวาว โปร่งแสง และแข็งแรงทนทาน
เรือนเวลาพอร์ซเลนรุ่นพิเศษนี้ จึงถือเป็นการหลอมรวมศิลปะการทำพอร์ซเลน กับศิลปะการเคลือบลงยาเข้าไว้ด้วยกัน รังสรรค์ขึ้นพิเศษเพื่อฉลองปีชวดซึ่งมีเพียง 8 เรือนในโลก แต่ละเรือนจะปรากฏรูปหนูอยู่บนหน้าปัด โดยลวดลายต่างๆ จะถูกวาดและลงสีด้วยมือแบบฟรีแฮนด์ จากการใช้พู่กันปลายขนาดจิ๋ว และเมื่อนำไปเผา ณ อุณหภูมิ 1,200 องศา เป็นระยะเวลานานก็จะยิ่งช่วยให้สี ที่ลงบนเนื้อพอร์ซเลนนั้นติดทนนาน
ซึ่งสำหรับการลงสีและเคลือบลงยาบนหน้าปัดที่ผลิตจากทองคำนั้น โดยปกติแล้วจะไม่สามารถนำไปเผาในอุณภูมิที่สูงขนาดนี้ได้ ดังนั้นหน้าปัดพอร์ซเลนที่สามารถทนความร้อนในอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้ได้นั้น จึงเปรียบเสมือนการเปิดโลกแห่งศิลปะแขนงใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังให้ผลลัพธ์เป็นสีสันอันสวยสดงดงามและเด่นชัดอีกด้วย
นาฬิกาหน้าปัดพอร์ซเลนรุ่นพิเศษนี้ มาพร้อมตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 33 มิลลิเมตร ขอบหน้าปัดประดับเพชรเจียระไนทรงกลมรวม 48 เม็ด ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 1154 ซึ่งขัดแต่งอย่างประณีตและงดงาม อวดโฉมผ่านกระจกแซฟไฟร์ที่กรุอยู่ด้านหลังตัวเรือน จับคู่กับสายหนังจระเข้ที่ส่งให้นาฬิกาอันทรงคุณค่าเรือนนี้ยิ่งงดงามขึ้นไปอีกขั้น