BLANCPAIN Fifty Fathoms MILSPEC

 

หากอยากจะเข้าใจถึงจิตวิญญาณของนักดำน้ำและนาฬิกาคู่ใจได้ดี ก็ควรต้องเริ่มต้นจากการทำความรู้จักกับอุปกรณ์สำคัญ ในการควบคุมระยะเวลาต่างๆ ในการดำน้ำให้ได้อย่างแม่นยำ และ BLANCPAIN Fifty Fathoms ก็คือจุดเริ่มต้นของนาฬิกาดำน้ำทั้งมวลในโลก โดยมีทั้งที่มาและประวัติศาสตร์สำคัญ บันทึกอยู่อย่างชัดเจนในตลอดช่วงเวลาที่โลกรู้จักกับอุปกรณ์ชิ้นนี้

 

maxresdefault

 

จากที่มาทางการทหาร ที่ทำให้ Fifty Fathoms ถือกำเนิดขึ้น และถูกนำไปใช้ทางการทหารอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ ประเทศอิสราเอล ประเทศเยอร์มันนี และประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1953 เป็นต้นมา จากความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพของการใช้งานและแสดงเวลา รวมไปถึงรูปแบบต่างๆ ที่กลายเป็นต้นแบบและภาพลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำ ที่แบรนด์ต่างๆ ในปัจจุบันยังคงนำไปปรับใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้

 

Cover

 

ดังนั้นการที่นาฬิกาในฝันของใครหลายคนยุคปัจจุบัน ที่มักจะเป็นนาฬิการุ่นยอดนิยม และผู้คนทั่วไปรู้จักกันดี จึงอาจไม่ใช่นาฬิกาตัวจริงในตำนานอย่างที่เข้าใจกัน แต่กลับเป็นนาฬิกาอีกหลายรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาฬิกาที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากนักสำหรับผู้คนทั่วไป และก็ยังสามารถเป็นนาฬิกายอดนิยม สำหรับกลุ่มคนที่รู้จักคุณค่าได้อย่างลึกซึ้งเช่นกัน

 

Lot 652

นาฬิกาล็อทที่ 652 BLANCPAIN Fifty Fathoms MILSPEC I No. 3065 จากปี 1960 พร้อมใบรับประกันจากโรงงาน

 

อย่างที่ BLANCPAIN Fifty Fathoms MILSPEC ที่เป็นหนึ่งในนาฬิกาเรือนที่เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนจำนวนมากที่รู้จักนาฬิการุ่นนี้ดี พิสูจน์จากการทำราคาในตลาดการประมูลได้สูงกว่าราคาประเมินในหลายคครั้ง โดยครั้งล่าสุดสามารถปิดราคาไปได้ถึง 40,300 ยูโร สูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ จากการประมูลของ Artcurial สำนักการประมูลของฝรั่งเศส ในการประมูลประจำวันที่ 18 กรกฏาคม ที่ผ่านมา

 

IMG 2015 Edit

 

นาฬิกา Fifty Fathoms MILSPEC (โดยคำว่า MILSPEC มาจากคำย่อของ Military Specification) มีความโดดเด่นบนบริเวณหน้าปัดเหนือ 6 นาฬิกาที่จะมีแถบกลมแสดงค่าความชื้น ที่ถือเป็นนวัตกรรมที่พิเศษและแตกต่างจากที่เคยมีมาในตลาด รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นอุปกรณ์ในการใช้งานใต้น้ำ ในระดับโปรเฟสชันนัลของ MILSPEC ที่เหนือกว่านาฬิกาดำน้ำทั่วๆ ไปในตลาด

 

Blancpain Tribute to FiftyFathoms Mil Spec FI

 

ส่วนในยุคปัจจุบัน BLANCPAIN มีการนำ Fifty Fathoms MILSPEC กลับสู่สายการผลิตอีกครั้ง พร้อมการปรับปรุงหลายส่วนให้เหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน โดยตัวเรือนยังคงผลิตจากสตีลขนาด 40.30 มิลลิเมตร หนา 13 มิลลิเมตร กันน้ำได้ลึก 30 บาร์ ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 1151 ความถี่ 3 เฮริท์ซ พลังสำรองลานนาน 100 ชั่วโมง โดยมีทางเลือกทั้งสายสตีล (Ref. 5008 1130 71S) สายเซล-แคนวาส (Ref. 5008 1130 B52A) และสายผ้าแบบนาโต้ (Ref. 5008 1130 NABA) พร้อมการผลิตแบบจำนวนจำกัดแบบละ 500 เรือนทั่วโลก

 

552 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Pendulum สาขาสยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิร์ล, PMT The Hour Glass สาขา เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า