BANGKOK INDEPENDENT WATCHMAKING EXHIBITION 2019 Part I
หนึ่งในนาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์ที่น่าสนใจสำหรับงานในปีนี้ คงหนีไม่พ้น Ateliers deMonaco ที่มี Mr. Pim Koslag เป็นซีอีโอผู้กุมบังเหียนของแบรนด์มาตลอดในช่วงเวลากว่า 10 ปีของแบรนด์ จากความมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนาแนวทางของกลไกในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนรูปแบบการทำตลาดในแบบนาฬิการะดับสูง ที่ทำให้ Ateliers deMonaco กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์อินดิเพนเดนซ์ ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ในขณะเดียวกันก็ยอมรับ และทำความเข้าใจกับแนวทางของตลาดไปพร้อมๆ กันด้วย
Mr. Pim Koslag
“ผมคิดว่าการที่ Ateliers deMonaco ได้มาทำตลาดในประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คอลเลคเตอร์คนไทยได้เข้าใจถึงแบรนด์ของเรามากขึ้น เพราะนอกจากชาวไทยจะมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของนาฬิการะดับสูงอย่างมากแล้ว ยังชื่นชอบความเป็นศิลปะที่ซึ่ง Ateliers deMonaco มีอยู่อย่างครบถ้วน ทั้งในเรื่องของงานการแกะสลัก หรืองานด้านอีนาเมลลิ่ง และก็ทำให้ผมตัดสินใจสร้างนาฬิกาเรือนพิเศษสำหรับงานนี้ ซึ่งก็คือ Poinçon de Genève Wat Arun ขึ้นมา ซึ่งผมก็เชื่อว่าคอลเลคเตอร์ชาวไทย จะชื่นชอบกับนาฬิกาเรือนนี้เหมือนกันผม” Mr. Pim Koslag กล่าวถึงนาฬิกาเรือนพิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับงานนี้ โดย Mr. Pim Koslag ซีอีโอของแบรนด์ Ateliers deMonaco เคยมาเยือนประเทศไทยแล้ว 3 ครั้ง และทุกๆ ครั้งก็จะได้ประสบการณ์การพูดคุยกันอย่างได้อรรถรส จากคอลเลคเตอร์ชาวไทย ผู้ซึ่งชื่นชอบงานของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของกลไก งานศิลป์ รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆ ในแวดวงนาฬิกาโลก ที่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับทราบ และเป็นหนึ่งในตัวแปรของกลไกทางตลาด ในแง่ของแบรนด์นาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์
Wat Arun Ratchawararam Ratchawaramahawihan ภาพจาก dhammathai
“ผมอาจสรุปได้ว่า ข้อดีของ Ateliers deMonaco ก็คือการที่เรามีพื้นฐานทางด้านกลไกที่ดี เรามีกลไกอินเฮ้าส์ที่มีทั้งความพิเศษ การจดทะเบียนสิทธิบัตรต่างๆ มากมายสำหรับกลไกต่างๆ พร้อมๆ กันกับที่เราเปิดกว้าง ให้โลกของงานศิลป์ได้เข้ามาร่วมสรรค์สร้างในเรือนเวลาของเราสมบูรณ์แบบมากขึ้น” Mr. Pim Koslag กล่าวเสริมในเรื่องของแบรนด์ Ateliers deMonaco
“ที่สำคัญที่สุด ในทุกๆ ครั้งที่ผมไปเยือนประเทศไทย ผมจะได้เจอกับคอลเลคเตอร์ชาวไทย ที่แวะเวียนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่องของนาฬิกาอย่างได้อรรถรส ซึ่งนี่น่าจะเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุด ในการเก็บสะสมนาฬิกา เพราะนอกจากความชื่นชอบส่วนตัวของแต่ละท่านแล้ว คอลเลคเตอร์ทุกคนก็ยังได้เหตุผล และประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากแคตตาล็อค หรือเว็ปไซท์ไหนๆ มาทำให้เกิดความเข้าใจ และประทับใจได้อย่างถ่องแท้ ซึ่งนี่เองก็เป็นจุดที่ผมประทับใจเช่นเดียวกัน” Mr. Pim Koslag กล่าวถึงประสบการณ์ และสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจมาร่วมเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาของงาน Bangkok Independent Watchmaking Exhibition
นาฬิกาในคอลเลคชั่น Poinçon de Genève สำหรับงานนี้ภายใต้ชื่อต่อท้ายว่า Wat Arun ซึ่งก็คือวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อของวัดแจ้ง เป็นภาพลักษณ์สำคัญส่วนหนึ่งของความเป็นไทย ที่ Ateliers deMonaco เลือกมาผลิตเป็นหน้าปัดนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับงานนี้
“เราได้รับความร่วมมือจากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่นำเสนอภาพลักษณ์สำคัญต่างๆ ของประเทศไทยให้กับเราซึ่งเราเลือกภาพของวัดอรุณฯที่ซึ่งในสายตาของชาวต่างชาติอย่างผมภาพความงดงามของเจดีย์โบราณที่ทรงคุณค่าพร้อมผืนน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยานอกจากถือเป็นภาพงดงามที่คุ้นเคยดีอยู่แล้วยังบอกถึงความหมายของประเทศไทยได้เป็นอย่างดีในหลากหลายแง่มุมไม่ว่าจะในแง่ของประวัติศาสตร์โบราณคดีขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมและที่สำคัญที่สุดคือบ่งบอกได้ถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องการคำอธิบายใดๆมาพรรณนาอีกมากนัก”
โดยเทคนิคที่ใช้ในการผลิตหน้าปัดภาพวัดอรุณฯนี้ คือเทคนิคอีนาเมล ที่เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมการผลิตนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ รวมไปถึงภูมิปัญญาของผู้คนในอดีต ที่ต้องการภาพที่สามารถมองเห็นได้อย่างเป็นมิติ โดยมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในอดีตที่เลือกใช้เทคนิคนี้ในการผลิตสิ่งของต่างๆ อย่างเช่น จาน ชาม และแจกัน อย่างที่เราอาจเคยได้เห็นตามพิพิธภัณฑ์ระดับโลกต่างๆ โดยแต่ละชิ้น มักมีอายุระดับร้อยปีขึ้นไป ไปจนถึงหกร้อยปี ซึ่งสภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคนิคนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นอย่างสวยงามและคงทนจนถึงปัจจุบัน
สำหรับนาฬิกาเรือนนี้ จะมีราคารีเสริฟ์อยู่ที่ 2,310,000 บาท โดยจะมีการประมูลขึ้นในช่วงต้นของการจัดงาน ส่วนผลงานเรือนจริงจะสามารถชมได้ตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 8 กันยายน ที่ชั้น G เกษรวิลเลจ พร้อมกิจกรรมการแสดงการถอดและประกอบกลไกอินเฮ้าส์ของแบรนด์โดย Mr. Pim Koslag พร้อมพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้อย่างลึกซึ้ง กับช่างนาฬิการะดับโลกตัวจริงท่านนี้ในวันที่ 4-5 กันยายน 2019 ในงาน Bangkok Independent Watchmaking Exhibition