ปลดปล่อยแนวคิด เพื่ออิสรภาพ และความต้องการที่แท้จริง ตอนที่ 4.1
วงการนาฬิกาก็เหมือนกับวงการอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องการปิดกั้นทางความคิด ในการที่จะทำให้เกิดผลงานสุดวิเศษ ออกมาในภาพของความเป็นศิลปะ ที่ซึ่งหลายต่อหลายคนยังตั้งคำถามอยู่เรื่อยๆ ว่า นาฬิกาจัดเป็นงานศิลปะได้อย่างไร แม้จะมีประเด็นเรื่องราคาเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ค่าตัวของนาฬิกาบางรุ่นบางแบรนด์พุ่งสูงลิบลิ่ว เกินการคาดเดาของตลาดและของโลก จนไม่น่าจะมีใครตอบได้ ถึงราคาสูงสุดในวันใดวันหนึ่งที่จะเป็นไปได้ในอนาคต
Mr. Philippe Dufour ช่างนาฬิกา ผู้มีฝีมืออันดับต้นๆ ของโลกในปัจจุบัน
ดังนั้นจึงขอเกริ่นนำในเรื่องของศิลปะก่อน เพราะโดยความจริงแล้ว วัตถุทุกชนิดก็สามารถจัดเป็นศิลปะได้ เพราะศิลปะคือมุมมองต่อวัตถุ ที่มีรูปลักษณ์และรูปแบบที่สอดคล้องกับความสวยงาม ตามแต่ใครจะตีความ พร้อมทั้งส่งต่อความหมายนั้นๆ ให้กับผู้คนต่อๆ ไปได้ ซึ่งศิลปะต่างๆ เหล่านี้ อาจมีรูปแบบการก่อกำเนิดทั้งในแบบที่เป็นความตั้งใจให้เป็น และในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นตั้งแต่แรกก็เป็นได้
นาฬิกา PHILIPPE DUFOUR รุ่น Simplicity นาฬิการุ่นเบสิคจากแบรนด์ แต่ยังเต็มไปด้วยดีเอ็นเอจากมือช่างผู้ผลิต ที่ทำให้มีผู้คนจำนวนมาก หลงใหล และอยากได้นาฬิการุ่นนี้มาครอบครอง จนทำให้ราคาในตลาดสูงเกินกว่าที่เป็นจากราคาขาย
และในความเป็นงานศิลปะในรูปแบบของนาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาฬิกาข้อมือ อย่างที่ในยุคปัจจุบันสามารถจับต้องและมองเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด จะมาจากความคิดสร้างสรรค์เชิงบวก ของนักคิดทั้งหลายที่ต่อยอดเรื่องราวต่างๆ มาจากยุคอดีต ที่ซึ่งรวมไปถึงบริบทต่างๆ จากนาฬิกาในยุคเริ่มต้น ตั้งแต่ในรูปแบบนาฬิกาตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น แขวนผนัง รวมไปถึงนาฬิกาแบบทาวเวอร์ ที่ต้องนับว่ามาจากมันสมองของมนุษย์ในยุคก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น
ดังนั้นจึงนับได้ว่า ศิลปะบนนาฬิกาข้อมืออย่างที่สามารถพบเห็นได้ในปัจจุบันนั้น มาจากการต่อยอดความคิดดั้งเดิมในอดีต รวมทั้งพัฒนาให้เกิดสิ่งที่ดียิ่งขึ้น โดยไม่ละทิ้งแนวความคิดแบบดั้งเดิมในอดีต อันเป็นรากเหง้าของความเป็นมนุษย์ไป ซึ่งกลุ่มนาฬิกาแบบเมคานิคอลทั้งหลาย น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีได้ อย่างเช่นนาฬิกากลไกเพอเพทชวลคาเลนดาร์ ที่สามารถแสดงเวลาได้ละเอียดถึงระดับปีได้
Mr. Romain Gauthier และ Mr. Philippe Dufour
แต่ถ้ายังนึกไม่ออก คงต้องยกตัวอย่างงานระดับเทพอย่าง Philippe Dufour กับสไตล์นาฬิกาแบบเรียบหรู ในฟังก์ชั่นการทำงานแบบง่ายๆ และเน้นการขัดแต่งระดับสูงอย่างที่ Mr. Dufour ตัดสินใจสร้างชื่อไว้กับโลกของนาฬิกาตั้งแต่หลายปีก่อน ที่ซึ่งปัจจุบันนี้ผลงานนาฬิกาของเขามีราคาที่สูงลิบลิ่วในตลาด ต่างจากเมื่อตอนที่ออกจำหน่ายเมื่อช่วงเกือบ 20 ปีที่แล้วเป็นเท่าตัวจากความนิยมในปัจจุบันของนักสะสมทั่วโลก
นาฬิกา ROMAIN GAUTHIER รุ่น Prestige HM & HMS ที่มีสไตล์การขัดแต่งแท่นเครื่องอย่างประณีตบรรจง จากการที่ Mr. Romain Gauthier ได้รับคำแนะนำ และแรงบันดาลใจมาจาก Mr. Philippe Dufour
โดยมีว็อชเมกเกอร์อีกหลายคน ที่เดินตามรอยเท้าของ Mr. Philippe Dufour อย่างเช่น Mr. Romain Gauthier เจ้าของนาฬิกาแบรนด์ชื่อเดียวกัน ที่เริ่มงานครั้งแรกในปี 1999 จนสำเร็จและนำเสนอสู่ตลาดในชื่อรุ่น Prestige ในปี 2006 กับความสามารถด้านเอ็นจิเนียริ่งในการผลิตชิ้นส่วน บวกความรักในเรื่องของนาฬิการะดับสูง และอยากสร้างนาฬิกาที่ดีที่สุดตามแนวคิดของตัวเอง โดยได้รับคำแนะนำจาก Mr. Philippe Dufour ซึ่งแม้ว่าคำแนะนำอย่างเช่น ต้องสร้างกลไกใหม่ทั้งหมด จากการออกแบบของตัวเองเท่านั้น จะถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแบรนด์นาฬิกาหน้าใหม่ในตอนนั้น แต่ในปัจจุบัน Mr. Romain Gauthier ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาได้ และได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นแบรนด์นาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์ ที่มีการขัดแต่งที่สวยที่สุดแบรนด์หนึ่งในโลกเลยทีเดียว
นาฬิกา ROLEX Cosmograph Daytona ‘Paul Newman’ Ref. 6239 เป็นนาฬิกาที่ผลิตขึ้นในปี 1968 ซึ่งเป็นเรือนที่ Paul Newman นักแสดงชื่อดังเป็นเจ้าของ โดยเป็นของขวัญที่ได้รับจาก Joanne Woodward ภรรยาของเขา โดยเธอสั่งให้สลักข้อความแทนความรักและห่วงใยของเธอไว้ว่า “DRIVE CAREFULLY ME” บนฝาหลังของนาฬิกาด้วย (ภาพจาก Phillips สำนักงานการประมูลที่เป็นผู้จัดการประมูลนาฬิกาเรือนนี้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 ที่นิวยอร์ก ซึ่งเคาะราคาปิดประมูลไปได้ถึง $15.5 ล้าน ซึ่งเมื่อรวมค่าธรรมเนียมแล้ว จะกลายเป็นเงินเป็นจำนวนถึง $17.75 ล้าน)
หรือภาพของว็อชเมกเกอร์ อาจทำให้ประเด็นของความเป็นศิลปะชัดเจนมากเกินไป ซึ่งถ้าอย่างนั้น ขอลองหยิบยกนาฬิกายอดนิยมอย่าง ROLEX รุ่น Daytona ‘Paul Newman’ มาเป็นตัวอย่าง ซึ่งในความเป็นจริงอย่างที่นักสะสมรู้กันดี ว่าหลายสิ่งอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่ ROLEX คาดและคิดให้เป็นถึงได้ในระดับนี้ แต่ตลาดโดยรวมตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน กลับมีสาวกที่คลั่งไคล้นาฬิการุ่นนี้เป็นจำนวนมาก จนสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านราคาในระดับร้อยเท่า ในช่วงเวลา 40 กว่าปีที่ผ่านมา โดยในเรื่องนี้ หากจะถามถึงความงดงามของนาฬิการุ่นนี้ในมุมมองสาวก ROLEX แล้ว ก็คงไม่มีคำไหนจะอธิบายไปได้ดี กว่าความสวยงามและความเป็นศิลป์ของผู้คนที่หลงรักปักใจจำนวนมากในโลก ซึ่งอาจตรงข้ามกับบางกลุ่ม ที่รักนาฬิกาเหมือนกัน แต่มีมุมมองในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่ง ณ ที่นี้คงไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครถูกหรือผิด
นาฬิกา ROLEX Cosmograph Daytona ในยุคปัจจุบันใน Ref. 116500LN ที่เป็นอีกหนึ่งในนาฬิการุ่นยอดนิยมในตลาด และสามารถทำราคานอกตลาดได้สูงอีกกว่าครึ่งเท่าตัวจากราคาขาย
