He Said …
By: Non Phongprapat
เป็นเช้าอีกวันที่ผมต้องส่งลูกไปโรงเรียน อะไรก็ไม่รู้ดลใจให้ผมบอกภรรยาที่นั่งข้างๆ ว่า ช่วยเขียนบทความเกี่ยวกับนาฬิกาให้หน่อย อาจจะเกี่ยวกับความรู้สึกกับนาฬิกาเรือนแรก หรือนาฬิกาเรือนที่ห้าสิบห้าของสามีก็ได้ และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องชีวิตรักของเราสองคนที่มีนาฬิกาเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นครั้งคราวแต่ถี่ๆ
ทีแรกผมไม่คิดหรอกครับว่าเธอจะตั้งใจเขียนบทความนี้จริงๆ เพราะลำพังหาเรื่องมาบ่นผมเรื่องซื้อนาฬิกาก็หมดวันไปแล้ว ดีที่ตอนนี้มีลูกสาวมาช่วยกันแบ่งรับภาระอันหนักหน่วงนี้ไปครึ่งหนึ่งก็เลยทำให้ชีวิตผมสบายขึ้น ส่วนหนึ่งผมคิดว่าการที่หากิจกรรมให้เธอทำอย่างบทความนี้ก็อาจจะเบนความสนใจของเธอที่มีต่อนาฬิกาเรือนใหม่ที่ผมเพิ่งซื้อมาแต่ไม่ได้บอกไปได้บ้าง หรืออาจจะเป็นก้าวแรกที่ทำให้เธอเป็นแบบผมคือ ลุ่มหลงในนาฬิกาจนโงหัวไม่ขึ้น ซึ่งจะได้ผลหรือเปล่าก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป
พื้นเพที่บ้านของภรรยาผมเป็นครอบครัวใหญ่และอบอุ่น มีพี่น้องมากมาย โดยที่ภรรยาผมเป็นน้องสาวคนสุดท้องเลยได้รับข้าวของเครื่องใช้ของพี่เป็นมรดกตกทอด นี่อาจจะเป็นจิดใต้สำนึกในสมัยเด็กที่ว่าข้าวของได้มาอย่างไม่ต้องซื้อหา เลยพาลจะไม่ให้สามีซื้อนาฬิกานั่นเอง ผมว่า Sigmund Freud คงเห็นด้วยกับผมแน่นอนในเรื่องนี้ ครั้นพอเธอโตขึ้นเวลาอยากได้นาฬิกาเรือนไหนก็จะขอพี่คนโตทีหนึ่งถัดมาอีกวันก็ขอพี่คนต่อมา สถานการณ์ก็ไม่เปลี่ยนจากเดิม แต่เปลี่ยนจากการที่ได้รับของตกทอดแบบเลือกไม่ได้ มาเป็นนโยบายการขอตรงแบบเลือกได้เอง นี่ถือว่าเป็นวิวัฒนาการที่ชาญฉลาดของภรรยาผม ที่เธอว่าสะสมเงินเก็บออมไว้นี่เรื่องจริงครับ แต่ที่ว่าออมไว้เพื่อซื้อนาฬิกาที่ชอบนี่ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอนครับ เพราะภรรยาผมเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องการออมและมัธยัสถ์แบบน้ำทะเลยังจืดไปเลย
นาฬิกาที่เธอเก็บสมัยก่อนที่จะเจอผมส่วนใหญ่ก็เป็นนาฬิกาประเภทแฟชั่นตามสมัยวัยรุ่นในตอนนั้น โดยมี Benetton ที่เพียรพยายามจะให้ผมเปลี่ยนถ่านให้อยู่ตลอดโดยหารู้ไม่ว่ากลไกควอตซ์ที่เธอไม่ได้เปลี่ยนหรือถอดถ่านนานกว่า 2 ปีนั้นเสียหายใช้การไม่ได้แล้วเพราะกรดในแบตเตอรี่ที่เสื่อมและไหลออกมากัดแผงวงจรกลไกจนเสียหาย นี่เองที่เค้าเรียกว่าผู้หญิงนี่ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ บางเรื่องบอกความจริงไปก็ไม่เชื่อ บางเรื่องโกหกกลับเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ตามมาด้วย Swatch หลากสีสัน หากจะบอกว่าในยุคนั้นภรรยาผมเป็นผู้นิยมในแสงสีเสียงก็คงไม่ใช่แต่ดูจากหน้าตาผมเผ้าในสมัยก่อนยุค Renaissance แล้วสรุปได้ว่าเป็นเด็กบ้านๆ คืออยู่แต่ในบ้าน หรืออาจจะเป็นเหตุผลเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกในสมัยวัยรุ่นที่คุณแม่ภรรยาผมสอนมาอย่างดีว่าให้อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนโดยไม่ได้ออกไปเจอแสงสีเสียง จนฝังใจเป็นความชอบในเรื่องของสีสันบนหน้าปัดนาฬิกาไป
ต่อมาในวัยทำงานเธอก็ได้ไปเรียนดำน้ำและออกทริป แน่นอนก็ต้องขอนาฬิกาจากพี่สาวผู้โชคดีคนหนึ่ง นาฬิกาเรือนที่เธอใช้ไปสอบก็คือ TAG Heuer นาฬิกายอดนิยมสำหรับหญิงสาวและแน่นอนหนีไม่พ้นกลไกควอตซ์ที่ใช้ถ่านเหมือนเดิม ตอนนั้นเธอบอกผมว่าเธอเก็บเงิน 9,500 บาทมาซื้อให้ตัวเอง ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่เชื่อ แต่ก็แอบชื่นชมเธอที่ได้มีโอกาสใช้ฟังก์ชั่นจากขอบหมุนบนหน้าปัดของนาฬิกาดำน้ำเพื่อวัดเวลาที่เหลืออยู่กับปริมาณของอ็อกซิเจนในถังและระดับไนโตรเจนที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย
นาฬิกาเรือนถัดไปของเธอ เรียกว่าเป็นขวัญใจของสาวๆ ในสมัยนั้นและคิดไปเองว่าเป็นแบรนด์สุดยอดของนาฬิกาทั้งมวล ซึ่งก็ได้แก่ Rolex Datejust เรื่องนี้ผมก็ไม่ปฎิเสธเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่บูมจริงๆ ผมเองในตอนนั้นก็ยังได้ Rolex ขนาดบอยไซส์หน้าปัดลายที่เค้าเรียกกันว่าทักซิโด้เรือนสองกษัตริย์มาเรือนหนึ่งเหมือนกันซึ่งเป็นเวลาก่อนที่เราจะได้มารู้จักกันไม่นาน หรือนี่เองที่เค้าเรียกกันว่า บุพเพสันนิวาสทางนาฬิกา แน่นอน Rolex ขนาดเลดี้ไซส์สองกษัตริย์หน้าปัดลายคอมพิวเตอร์ของเธอย่อมไม่ได้ซื้อเองอย่างแน่นอนแต่เป็นคุณพ่อและคุณแม่เป็นผู้ซื้อให้ ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 ท่านก็ได้จากเราไปแล้ว นาฬิกาเรือนนี้จึงเหมือนเป็นสิ่งที่ระลึกถึงทั้ง 2 ท่านตลอดมาแม้ว่าภรรยาผมจะไม่ค่อยหยิบมาใส่แล้วก็ตาม Rolex เรือนนี้นับว่าเป็นนาฬิกากลไกอัตโนมัติเรือนแรกในชีวิตของภรรยาผมที่ถึงบัดนี้เธอยังสับสนอยู่เลยว่าเรือนไหนใส่ถ่านและเรือนไหนเป็นกลไก ผมต้องยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของผมเองที่เป็นสามีแล้วไม่รู้จักสั่งสอนเมื่อผมได้รู้จักกับเธอ พบรักกับเธอ และมาถึงวันที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ในวันแต่งงานนั้นเองเราก็ได้รับของขวัญชิ้นหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจมากนั่นก็คือ นาฬิกาแพ็คคู่ของ Christian Dior จากพี่สาวสุดที่รักของเธอ ดูเหมือนนาฬิกาจะเป็นอะไรที่วนเวียนไปกับชีวิตของเราอย่างน่าประหลาด และในเวลาต่อมาเราก็ได้ลูกสาว 1 คน และนั่นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผมเริ่มสนใจในสิ่งที่ภรรยาผมตั้งชื่อให้ว่าภรรยาน้อย ซึ่งก็คือนาฬิกา
ในช่วงแรกที่ผมอยู่คนเดียวนั้นชีวิตผมต้องเรียกว่าค่อนข้างสะดวกสบาย เงินเดือนมีใช้ไม่ต้องส่งมอบเหมือนกับตอนที่แต่งงานไปแล้ว นับว่าเป็นการวางแผนการเงินที่ผิดพลาด นาฬิกาเรือนแรกที่ผมเริ่มศึกษาและซื้อก็คือ IWC Pilot Reference 3706 ซึ่งเป็นนาฬิกานักบินหน้าหล่อที่มาพร้อมกับสายหนัง แต่นั่นก็เป็นแค่ก้าวเล็กๆ สำหรับผม เพราะการเก็บสะสมตามลำพังก็เหมือนไม่มีแรงผลักดันอะไรเท่าไหร่ จนเมื่อผมมาเจอ siamnaliga.com ซึ่งถ้าให้เปรียบก็คงเหมือนสรวงสวรรค์ของคนรักนาฬิกา ทำให้เราได้เจอคนที่มีความรู้สึกเดียวกัน คิดคล้ายๆ กัน และมีภรรยาเป็นฝ่ายค้านเหมือนๆ กัน ซึ่งไม่รู้จะค้านไปทำไม เงินหามาได้ก็ต้องใช้บ้างเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและโลกของการสะสมนาฬิกาก็เหมือนเป็นการกระจายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อีกรูปแบบหนึ่ง และการที่เราอยู่บ้านแล้วเปิดกล่องนาฬิกาหยิบออกมาจับ มาเช็ด มาถู ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ผิดแบบต้องลงโทษโดยไม่ต้องลงอาญากัน ใช่ว่าเราออกไปตะลอนเปิดกล่องเช็ดถูนาฬิกาทดสอบการกันน้ำของนาฬิกาแถวรัชดาซะที่ไหน เปรียบได้ว่าถ้าภรรยาเหมือนกับเสื้อแดง นาฬิกาก็ต้องเป็นเสื้อเหลือง ยากจะปรองดองกันได้ ทำให้ประชาชนธรรมดาตาดำๆ อย่างผมต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างแล้วเพื่อแสดงให้รู้ว่าเราเบื่อแบบนิ่มนวลและแยบยล
ตอนนั้นเองในหัวสมองที่ชาญฉลาดของผมก็เริ่มคิดแผนการระยะยาวที่จะทำให้เธอยินยอมพร้อมใจให้เราซื้อนาฬิกาอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เริ่มด้วยการค่อยๆ ซึมซาบความรักในนาฬิกาให้เธออย่างช้าๆ โดยจัดให้เธอเดือนละเรือน เอ่ยอ้างสรรพคุณเกี่ยวกับความสวยงามของนาฬิกา ดาราคนไหนใส่นาฬิกาแบรนด์ใดรุ่นไหน เปิดหน้าโฆษณานาฬิกาในหนังสือแม็กกาซีนผู้หญิงที่เธออ่านค้างไว้ รวมไปถึงยกแม่น้ำทั้งห้ามาสนับสนุนเหตุผลเรื่องการลงทุนและเรื่องกำไรซึ่งแท้จริงแล้วหาไม่ได้ในนาฬิกาเรือนไหนที่เคยสะสม เพราะการสะสมต้องเริ่มจากความรัก ความชอบ ส่วนกำไรนั้นเปรียบเหมือนกิ๊กที่ถึงอยากมีแต่ก็ไม่เคยเจอ ฉันใดฉันนั้น จนในที่สุดจำนวนนาฬิกาที่เธอเก็บสะสมในทุกวันนี้ก็มีปริมาณมากกว่าจำนวนนาฬิกาและตัวเลขในบัญชีธนาคารของผมไปแล้ว
ปัญหาต่อมาก็คือ เมื่อนาฬิกามีจำนวนมากขึ้น ก็ย่อมมีการสลับสับเปลี่ยนการใส่เพิ่มขึ้น เช่นวันนี้เธออยากเหมือนอั้ม ก็หยิบ Daytona มาใส่ อีกวันอยากเหมือนชมพู่ ก็หยิบ Luce ขึ้นมาใช้ แล้วใครล่ะครับที่ต้องมีหน้าที่จัดการตั้งเวลาเปลี่ยนวันที่ถ้าไม่ใช่ผม มันก็ไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่หรอกครับเพราะผมเองก็ชอบ แต่บางทีผมก็อยากจะให้เธอหัดตั้งเวลาและวันที่เองเป็นบ้าง แต่ก็ได้แต่หวังครับ เพราะทุกครั้งที่ผมจะเริ่มต้นสอน แม่คุณก็จะเฉไฉทำเป็นเด็กไร้เดียงสาปัญญาอ่อนขึ้นมาทันที จนในที่สุดก็เหมือนทุกครั้งที่ผมเป็นฝ่ายต้องยอม เรื่องนี้สำคัญนะครับ รักชีวิต รักอนาคต อย่าซ่ากับภรรยา (เด็ดขาด) แต่บางทีก็อดไม่ได้ที่จะแอบไม่ตั้งวันที่ให้ เพราะผมว่าตั้งไปก็ไม่เห็นหรอกอายุปูนนี้แล้ว
เรื่องเหตุผลในการเลือกซื้อนาฬิกาก็เหมือนกัน เรื่องไม่น่าเป็นปัญหาบางเรื่องก็กลายมาเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ตัดสินใจไม่ได้ อย่างเช่น ยกเอาเรื่องสีของหน้าปัดมาเป็นเหตุผล ซึ่งผมก็เข้าใจดีเรื่องแสงสีที่เป็นปัญหาทางจิตของเธอในวัยเด็ก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่เลยถ้าหน้าปัดนาฬิกาเรือนนั้นไม่ใช่แบรนด์ Audemars Piguet เพราะถ้าเป็น Swatch หรือ Casio ผมจะไม่ว่าสักคำ ขออภัยต้องเป็นไม่พูดสักคำ เพราะในชีวิตไม่เคยคิดจะว่าเมียอยู่แล้ว เพราะมันเหมือนเป็นหนึ่งในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ผมคงไม่แปลกใจเลยถ้าในอนาคตเธอจะเลือกซื้อนาฬิกาจากทรงของเม็ดมะยมหรือสีของเข็มวินาทีหรือแม้กระทั่งว่าจ้างซินแสมาดูโหงวเฮ้งนาฬิกาก่อนตัดสินใจซื้อ คิดในแง่ดีก็คือ เธอจะมีเหตุผลข้างๆ คูๆ มาเซอร์ไพร้ส์เราอยู่เสมอ
ต่อมาก็เป็นเรื่องการใช้นาฬิกาที่ผมเห็นสภาพแต่ละเรือนของเธอแล้วท้อ เพราะเธอใช้ Patek Philippe Twenty Four เหมือนใส่ G-Shock ริ้วรอยบนตัวเรือนเหมือนรอยมีดที่เฉือนบนห้องหัวใจฝั่งล่างซ้ายของผมทุกครั้งที่หยิบนาฬิกามาตั้งเวลา หรือว่านี่จะเป็นการแก้แค้นเมียน้อยของเธอตามสัญชาตญาณเจ้าคิดเจ้าแค้นของภรรยาที่ดีที่ไม่ว่าเหตุการณ์จะผ่านมานานแค่ไหนก็ไม่มีวันลืมและนำมาบ่นซ้ำได้อีกโดยไม่มีวันหมดอายุ อืมม์.. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งคล้อยตาม เพราะแต่ละเรือนของเธอ มีรอยแบบเสมอภาคกันทุกเรือนโดยไม่แบ่งแยกแบรนด์ สัญชาติ หรือศาสนา เรียกว่ามีรอยแบบจัดเต็มทุกเรือน เหมือนเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับนาฬิกาของเธอเอง เรียกว่าเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นแบบเรือนเดียวในโลกของเธอก็คงไม่ผิดและก็คงไม่น่าจะมีใครคิดที่จะทำตามด้วยใช่ว่าชีวิตคู่กับนาฬิกาจะมีแต่เรื่องระหองระแหงกัน มุมหวานเราก็มี เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Rolex Detona ใช่ครับตอนแรกเธอพิมพ์อย่างนี้จริงๆ เรื่องนี้ผมว่าถ้าเราตั้งข้อสอบโดยให้ภรรยาสะกดชื่อแบรนด์ของนาฬิกาให้ถูกต้อง ไม่ว่าเธอจะมีเรือนนั้นในครอบครองกี่เรือนก็เชื่อได้เลยว่าจะต้องได้ F แน่นอน ถ้ามีท่านใดได้ A ก็คงต้องเช็คประวัติเธอก่อนแล้วครับว่าก่อนหน้าที่จะมารู้จักกับเรา เธอใช้คำว่า “นาย” นำหน้าอยู่หรือเปล่า เธอซื้อ Rolex Daytona เรือนสองกษัตริย์ให้ผมในวันเกิดปีแรกที่เราได้แต่งงานกัน แน่นอนว่าผมเป็นผู้ชี้นำโดยใช้แผนเดิมด้วยการเปิดหน้าโฆษณาแผ่หราเอาไว้ให้เธอเห็น Daytona ในสมัยนั้นถือว่าเป็นรุ่นที่หายากมาก แต่ที่หายากมากกว่าก็คือเรือนเหล็กล้วน ซึ่งก็กลายเป็นของขวัญในวันเกิดปีถัดมา โดยผมเสนอให้เธออัพเกรดจากเรือนเดิมที่มีอยู่ไปเป็นเรือนเหล็กที่หายาก ส่วนเรือนเดิมก็ได้ถูกขายทอดตลาดไปให้กับหลานของภรรยาซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องและประหยัดเพราะเป็นนาฬิกาแบรนด์เดียวกัน รุ่นเดียวกัน ผมจะเก็บไว้ทำพิพิธภัณฑ์ Rolex ทำไม แต่ถึงเวลาจะผ่านไปผมก็ยังรู้สึกได้ว่าชีวิตผมยังหนีไม่พ้น Rolex Daytona อยู่ดี จากการที่ต่อมาได้ซื้อรุ่นหน้าปัดสีขาวเรือนทองคำสายหนังมาใส่โดยที่ยังไม่ได้บอกให้ภรรยารู้ แล้วจึงเอารูปมาให้เธอดูเพื่อขอความเห็นโดยบอกว่าสลับกันใส่ได้เพราะเปลี่ยนสายหนังสีขาวก็ดูสวยบนข้อมือสาวๆ แล้ว ซื้อเรือนเดียวได้ใส่กัน 2 คน ซึ่งเธอก็เห็นด้วย ผมจึงนำนาฬิกาออกมาจากที่ซ่อนแล้วเปลี่ยนสายให้เธอลองใส่ดู แล้วเชื่อมั้ยครับว่า ตั้งแต่วันที่ผมเปลี่ยนสายใหม่ให้เธอแล้วผมก็ไม่เคยเห็นนาฬิกาเรือนนั้นบนข้อมือของผมอีกเลย
แบรนด์ต่อไปที่เป็นขวัญใจของภรรยาผมก็คือ Jaeger-LeCoultre ซึ่งผมชอบเป็นการส่วนตัวและได้ชักชวนให้เธอเข้าร่วมโดยซื้อรุ่น Reverso Duetto ที่สามารถกลับด้านหน้าปัดได้ระหว่างหน้าปัดสีดำที่มีขอบเพชรเพื่อใส่ไปงานและหน้าปัดสีขาวสำหรับใช้ประจำวัน ซึ่งทุกอย่างลงตัวหมดสำหรับนาฬิกาสตรีที่พึงจะหาได้ ยกเว้นเรื่องกลไกที่จำเป็นต้องไขลาน แน่นอนว่านอกจากต้องซื้อให้แล้วยังต้องไขลานตั้งเวลาให้ทุกครั้งด้วย ที่เธอเขียนน่ะ อย่าเชื่อนะครับว่าเธอไขลานเองจริง เพราะตอนเธอพิมพ์บทความอยู่เธอยังเพิ่งตะโกนถามผมอยู่เลย อีกเรื่องก็คือมือเธอหนักมากซึ่งเรื่องนี้ผมยืนยันได้ สมัยเด็กๆ เธอเคยไขลานจนลานขาดเลยไม่กล้าไขเอง ซึ่งก็เป็นข้ออ้างอีกข้อนึงที่ยืนยันได้ว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ได้เป็นคนไขเอง สำหรับ Jaeger เองผมเคยซื้อเรือนทองคำในรุ่น Reverso Shadow ที่มาพร้อมสายหนังนกกระจอกเทศสีน้ำตาลสวยพร้อมนำไปสลักลายตัวย่อของชื่ออย่างวิจิตรบรรจงเพื่อที่จะใส่คู่กันกับ Reverso เรือนของผมซึ่งได้นำไปสลักพร้อมกัน แต่เธอดันไม่ชอบซะนี่ ติว่าใส่แล้วดูมีอายุมาก ซึ่งผมก็ว่าสมวัยอาซิ้มอาซ้อดีอยู่แล้ว ที Rolex Daytona เรือนทองคำเธอยังเอาไปใส่จนไม่ยอมคืน ไม่เคยบ่นสักคำว่าแก่.. ชริ
แอบไปอ่านของภรรยามา สังเกตมั้ยครับว่าเธอใช้คำว่าครอบครัวสำหรับนาฬิกา นับเป็นนิมิตที่ดีมากสำหรับผม ครับครอบครัวก็ครอบครัว และถ้าหากนับเป็นครอบครัวแล้ว แบรนด์นี้ก็น่าจะเป็นประมาณลูกสาวคนเล็กที่ภรรยาผมรักมากและค่าเทอมก็แพงมากด้วย ถูกต้องแล้วครับ แบรนด์สุดท้ายนี้ก็คือ Patek Philippe และเช่นเคยครับ ในบทความของภรรยาผมคงจะพิมพ์แค่ Patek เท่านั้น จะว่าเธอความจำสั้นก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเรื่องที่ผมทำผิดอะไรไว้สมัยไหนนี่จำได้หมด เอาเป็นว่า Patek Philippe เรือนแรกของเธอคือ รุ่น Twenty Four ผมยังจำสีหน้าของเธอตอนผมยื่นนาฬิกาเรือนนี้ให้ได้ติดตา ถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ แต่ต่างกันที่ว่าเรือนนี้น่าจะซื้อของเล่นใหม่ให้กับเด็กได้มากกว่า 2,000 คนอย่างแน่นอนครับ
Patek Philippe เรือนต่อมาที่ผมได้ประเคนให้เธอก็คือรุ่น Aquanaut ใน Reference 5065 หรือที่เธอเรียกว่าช็อกโกแลต เหตุเนื่องจากกระแสนาฬิการุ่น Luce กำลังมาแรง ครั้นผมจะซื้อ Luce ให้เธอมันก็ขัดเจตนารมณ์ผมเพราะเป็นกลไกควอตซ์ การที่ต้องจ่ายเงินจำนวนเท่ากันเพื่อซื้อนาฬิกาหน้าตาคล้ายๆ กันแต่ต่างกันที่มีเพชรและใช้กลไกควอตซ์นั้นสำหรับผมแล้วถือเป็นเรื่องใช้จ่ายแบบไร้เหตุผล การซื้อนาฬิกาสักเรือนนั้นหัวใจอยู่ที่กลไก หน้าตาภายนอกเป็นสิ่งฉาบฉวย ถ้าอยากได้เพชรก็ไปซื้อแหวนเพชร ถ้าอยากได้กลไกควอตซ์ก็ไปซื้อ Casio Baby-G ก็ได้ บางทีมันก็เป็นเรื่องยากที่จะคุยเหตุผลกับเธอ แต่สำหรับเรื่องนี้ผมก็เอาตัวรอดได้ด้วยการอธิบายต่อเนื่องยาวกว่าครึ่งชั่วโมงจนเธอซึมซาบความขลังของกลไกโดยเฉพาะจากค่าย Patek Philippe นี้เรือนสุดท้ายที่มีมูลค่าสูงที่สุด เพราะเป็นนาฬิกากลไกไขลาน หน้าปัดแกะลายกิโยเช่ ในตัวเรือนที่ล้อมเพชรหรูหรา และมาพร้อมกับฟังก์ชั่นพระจันทร์ที่ผมชอบ ซึ่งเหมาะกับสาวที่มีสามีรักนาฬิกาเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับกลายเป็นเรือนที่ดูเธอจะเฉยกับมันมากที่สุด ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหตุผลเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องดี การจ่ายเงินหลายแสนเพื่อใส่นาฬิกาที่หน้าตาเหมือนกัน คุณว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องรึเปล่าล่ะ
การที่ผมเปลี่ยนนาฬิกาทุกวันก็เหมือนกับเปลี่ยนกางเกงในที่ต้องซัก เหตุผลของผมก็คือ เพื่อให้สายไม่ว่าจะเป็นหนังหรือเหล็กได้พักผ่อน และเป็นการกระตุ้นกลไกเรือนอื่นให้ทำงานกันบ้าง ซึ่งเธอก็คงไม่เข้าใจแถมยังหมั่นไส้ผมซะอีก แต่อย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยคิดจะเปลี่ยนก็คือ ภรรยา เพราะถึงแม้เธอจะด่าว่าหรือบ่นทุกครั้งที่รู้ว่าผมซื้อนาฬิกาใหม่ แต่ลึกๆ ผมก็รู้ดีว่าเธอก็มีความสุขเช่นกันที่ได้เห็นผมสุข เหมือนที่ผมมีความสุขในการจัดนาฬิกาให้เธอและดีใจที่ซื้อนาฬิกาเรือนใหม่ซึ่งสร้างความสุขให้กับเธอ.. เพราะนั่นก็หมายถึงนาฬิกาเรือนใหม่สำหรับผมอีกเช่นกัน