Speak with LOUIS ERARD, Mr. Manuel Emch
“มากกว่าแค่เป็นเพียงชื่อ และมากกว่าแค่เป็นแบรนด์ แต่เป็นวัฒนธรรมอย่างที่เราเป็น ทั้งการเคลื่อนไหว วิธีคิด และการใช้ชีวิต เพราะเราแสวงหาความยิ่งใหญ่ที่เกินกว่าคำบรรยาย และเราส่งเสริมชุมชนของช่างนาฬิกา ที่มีความกล้าหาญที่มาทำงานร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยค่านิยมที่เหมือนกัน ดังนั้นจึงบอกได้ว่าที่ LOUIS ERARD เราจะฉลองให้กับความกล้าหาญ ความเป็นผู้บุกเบิก เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ และเป็นผู้ที่มีความบ้าคลั่งในโลกแห่งเครื่องบอกเวลา”
นี่เป็นคำบรรยายของ Mr. Manuel Emch แห่งแบรนด์นาฬิกา LOUIS ERARD ที่บอกถึงความเป็นแบรนด์ จากคำถามของเราที่ว่า LOUIS ERARD บ่งบอกอะไรในตัวตนแห่งความเป็นเครื่องบอกเวลา? ซึ่งหลังจากคำตอบข้างต้นที่ดูเหมือนว่า เค้ากำลังจะพยายามเค้นคำตอบอะไรออกมา เจ้าตัวก็รีบบอกถึงประโยคต่อไปพร้อมแนวคำถามที่ว่า แต่จริงๆ คนที่ชอบก็ไม่ได้มองอะไรลึกซึ้งขนาดนั้นหรอกนะ ฉะนั้นคำตอบสวยหรูพวกนี้ก็น่าจะไม่ใช่คำตอบที่จริงเท่าไหร่หรอก!
ถ้าอย่างนั้นเอาใหม่อีกรอบ ขอคำถามแบบตรงๆ ชัดๆ เลยที่จะทำให้คนอ่านได้รู้ว่าแต่ละคำถามคืออะไรบ้าง แบบนี้น่าจะดีกว่าไหม ซึ่ง Mr. Emch ก็รีบบอกเลยว่าดีกว่านะ ดังนั้นชุดคำถามจึงพรั่งพรูออกมาโดยเริ่มต้นจากที่ว่า ชื่อแบรนด์ LOUIS ERARD ในปัจจุบันที่เค้านั่งคุมบังเหียนอยู่นี้ ทำไมต้องเป็น LOUIS ERARD และคำตอบจาก Mr. Emch ก็คือ “ทำไมจะไม่หละ LOUIS ERARD เป็นแบรนด์ที่ดีมีประวัติมายาวนาน การสร้างอะไรใหม่ๆ ในแนวทางเดิมแต่ปรับปรุงเพิ่ม ถือว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว”
Mr. Emch ตอบได้ตรงใจมาก เพราะ LOUIS ERARD ในยุคปัจจุบันของเค้า ยังคงรูปแบบการแสดงเวลาแบบเรกกูเลเตอร์ ตามแบบฉบับดั้งเดิมตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตอยู่ แต่เพิ่มเติมสไตล์ของยุคปัจจุบันเข้าไป นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแนวทางการใช้ชุดกลไกที่ดี สามารถเชื่อถือได้และไม่ซับซ้อน เพื่อไม่ให้ต้นทุนในการผลิตสูงเกินไป รวมทั้งยังสามารถซ่อมแซมได้อย่างง่ายดายเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งนั่นก็จะยิ่งทำให้นาฬิกามีมูลค่าในตลาดสูงยิ่งขึ้นไปอีกได้ในอนาคต
และนี่เองที่ถือเป็นวัฒนธรรมยุคใหม่ในแบบของ LOUIS ERARD ในปัจจุบันพร้อมแนวคิดในการนำเสนอ ที่พร้อมจะให้นาฬิกาทุกเรือนอยู่บนข้อมือทุกคนได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งยังสามารถใช้งานได้ ในชีวิตประจำวันอย่างสะดวกสบายอีกด้วย อ่อ.. แล้วเรื่องของการทำงานร่วมกันกับช่างนาฬิกาทั้งหลายหละ Mr. Emch มีแนวคิดยังไงในการเลือกสรรแต่ละคน จากความสามารถด้านใด แล้วช่างนาฬิกาหรือองค์กรนั้น ต้องมีสไตล์หรือรูปแบบอะไรเป็นองค์ประกอบ?
“คุณถามแบบนี้อีกแล้ว” Mr. Emch ย้อนถามเชิงการบอกเล่า “ฟังนะ.. เราไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อนมากมายขนาดนั้น ช่างนาฬิกาแต่ละคนหรือองค์กรต่างๆ ที่เราทำงานด้วย จะมีวัฒนธรรมหรือเรียกว่าสไตล์ก็ได้ ในแบบที่เหมือนกันกับเราเสมอ แน่นอนว่าเรามองหาสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา และเราก็ทำความรู้จักกับผู้คนรวมทั้งองค์กรต่างๆ มากมายอยู่ทุกวัน ที่สุดท้ายเราจะเจอคนที่ใช่และองค์กรที่ชอบ ที่คุยกันกับเรารู้เรื่องและมีสไตล์เหมือนกับเรา เพราะถ้าไม่.. ก็ทางใครทางมัน”
น่าสนใจเรื่องนี้มาก เรื่องที่มาจากความจริงที่ว่า หากทำงานด้วยกันได้แล้วคลิ๊ก ก็แปลว่ามีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่งในตัวเองทันที ว่าจะทำงานร่วมกันแค่ไหน ในระดับใด และแน่นอนว่าต้องยอมรับได้ ทำให้เกิดแนวคิดในการสนับสนุนชุมชนผู้ผลิต ซึ่งในที่นี้โดยรวมจะเป็นช่างนาฬิการะดับแนวหน้า รวมไปถึงองค์กรที่มีความโดดเด่นในการนำเสนอ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งของนาฬิกา ที่จะช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ที่ล้วนแล้วแต่น่าสนใจสู่โลกแห่งเครื่องบอกเวลา
แล้วตรงไหนที่ LOUIS ERARD เป็นผู้บุกเบิกและมีวิสัยทัศน์ที่เห็นได้ชัดเจนบ้าง “ถ้าคอนเซ็ปท์ที่เห็นชัดๆ ก็อย่างการทำงานร่วมกันกับองค์กรอื่นๆ และช่างนาฬิกาต่างๆ ที่เราเปิดโอกาสให้มีภาพลักษณ์ขององค์กร หรือสไตล์ของช่างนาฬิกาคนนั้นให้เห็นได้อย่างชัดเจน แต่ยังคงคอนเซ็ปท์หลักในความเป็นตัวเราเองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนหรือสไตล์ของฟังก์ชั่นการแสดงเวลา และที่สำคัญที่สุดคือสไตล์การนำเสนอในจำนวนน้อย ที่ถือว่าเหนื่อยในการปั้นแต่ละรุ่น แต่เป็นความยินดีที่ได้ทำ” Mr. Emch กล่าว
สุดท้ายกับความบ้าคลั่งหละ “ต้องบอกจริงๆ ว่าขอบคุณทุกคนที่ชอบ LOUIS ERARD ทั้งได้ซื้อหรือยังไม่ได้ซื้อ แต่แอบบอกก่อนว่าถ้าแอบมองนี่ซักวันต้องมีโดนแน่ และต้องยอมรับว่าคนซื้อ LOUIS ERARD ของผมเนี่ยบ้าจริงแน่ ก็นะ.. ดูอย่าง Time Eater สิ หน้าตาของนาฬิกาที่ใครเดินผ่านต้องมองหน้าคนใส่ด้วยแน่ๆ ก็เพราะเป็นความบ้าไง บ้าในสไตล์ ในรูปแบบที่แตกต่าง ขอโทษเถอะ.. สิ่งนี้อยู่ในใจคนแหละ มีบ้าง ไม่เยอะมากแต่มีจริง” Mr. Emch ยังคงกล่าวตอกย้ำเรื่องนี้อย่างจริงจัง
กับคำถามท้ายสุดกว่าอีกนิดที่ว่าทำไมต้องสนใจตลาดไทยขนาดนี้ “คอลเลคเตอร์คนไทยชอบนาฬิกา LOUIS ERARD ในยุคของเราและให้การตอบรับที่ดีมาตั้งแต่ต้น และเราอยากให้นาฬิกาของเราไปอยู่กับพวกเค้าจริงๆ เราไม่ได้ชอบใจเท่าไหร่หรอกที่ขายนาฬิกาได้เยอะๆ แล้วไปกองรวมกันอยู่หน้าร้านค้าทั้งหมด เพราะคนที่ได้ใส่และได้ใช้จริงๆ เท่านั้นที่จะเข้าใจในความเป็น LOUIS ERARD ที่เราจะต้องค่อยๆ สร้างประสบการณ์เหล่านี้ โดยให้ความสำคัญกับคนที่รักเราก่อนตั้งแต่แรก”
คำถามท้ายสุดจริงๆ ที่อยากให้ Mr. Emch ตอบ ต่อไปจะมีทำงานกับช่างนาฬิกาคนไหน? “เร็วมากกว่าที่คิด ต้นเดือนกันยายนจะมีการเปิดตัวการทำงานกับช่างนาฬิกาอิสระ อายุไม่เยอะมากแต่ฝีมือสูงและผู้คนให้ความสนใจกันมากเลย และนาฬิกาของเค้าก็ไม่ได้มีให้ซื้อได้ง่ายๆ จากฝีมือและสไตล์ของนาฬิกาเค้า ที่ทั้งมินิมัลและคลาสสิค แค่นี้พอแล้วต้องรออีกนิดก็จะได้รู้กันแล้ว” Mr. Emch กล่าวทิ้งท้ายถึงโปรเจ็คท์ที่พร้อมจะนำเสนอสู่ตลาดในเร็ววันนี้ โดยประเทศไทยน่าจะได้รู้ข่าวก่อนใครเช่นเคย