In the world of design from Giorgio Grimoldi
“ผมอยากบอกว่านาฬิกาของเราอาจดูเหมือนแฟชั่น แต่ไม่นะ เราเพียงแค่ปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่มีแต่รูปแบบที่คลาสสิค อย่างที่ช่วงนี้แต่ละแบรนด์ก็นำเสนอกันเป็นอย่างมาก อีกเรื่องหนึ่งของความคลาสสิคที่ว่ากันนี้ ก็เป็นเรื่องที่มาจากสิ่งที่เป็นแนวแฟชั่นในยุคๆ นึง จนผ่านกาลเวลาที่พิสูจน์ถึงสไตล์และคุณค่าของแนวนั้นๆ แล้ว และก็กลายมาเป็นความคลาสสิค เรื่องนี้เป็นสัจธรรมของโลกในความคิดผม”
“แต่ก็นั่นอีก การจะเป็นนาฬิกาที่มีแนวแฟชั่นที่ดีได้ นอกจากมีความแตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังควรจะต้องมีการตีความและความหมายถึงการเป็นตัวตนอย่างที่ว่าได้ด้วย ไม่ใช่ว่าอยากจะนำเสนออะไรก็ได้โดยไม่มีแนวทางหรือความหมายมาสนับสนุน ซึ่งนั่นอาจกลายเป็นความล่องลอย และกลายเป็นความหมายของนาฬิกาแฟชั่นจริงๆ อย่างที่คิดกัน คือมาแล้วก็ไปแค่นั้น”
“ผมรู้สึกว่า การเป็นแฟชั่นแล้วสามารถเปลี่ยนโลกได้ จนกลายเป็นไอคอน นี่แหละคือความยิ่งใหญ่ คือเรื่องราวที่ถูกสร้างมาและเป็นที่ยอมรับ ผมเป็นคนอิตาลี ขอเปรียบเทียบว่าการนำเสนออะไรที่จืดๆ ที่อาจบอกว่าคลาสสิคก็ได้ ก็จะเหมือนกับเส้นพาสต้าที่ต้มสุก แต่ไม่มีรสชาดอะไรเลย ขาดการปรุงแต่ง ขาดการเติมรส แค่ได้เป็นพาสต้าให้คนเรียกกันว่าพาสต้าๆ แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกของความเป็นพาสต้าที่ดีและจริงจังเลย ซึ่งนี่จะไม่ใช่แฟชั่นที่จะได้รับการยอมรับเมื่อเวลาผ่านไป”
“รูปแบบซึ่งหลักๆ ก็คือรูปทรงของ GRIMOLDI ในรุ่น Borgonovo ที่ได้รับการออกแบบมากว่า 20 ปีแล้ว และกลายเป็นรูปแบบของเรามาโดยตลอด โดยมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับตลาดในแต่ละช่วงมาโดยตลอด ซึ่งก็รวมมาถึงนาฬิการุ่น G.T.O. ด้วย ที่มีการเลือกใช้องค์ประกอบต่างๆ ของรถสปอร์ตในฝันของคนทั้งโลก FERRARI 250 GTO มาเลือกใช้มากมายเกือบทั้งเรือน โดยจัดวางกับรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ GRIMOLDI และกลายเป็นนาฬิกา GRIMOLDI รุ่น GTO นี้”
“ตอนเด็กๆ ผมเคยมีรถโมเดล FERRARI 250 GTO ของ Burago และผมหลงไหลรถคันนี้มาก ด้วยรูปทรง เออร์โกโนมิคดีไซน์ แล้วก็รายละเอียดต่างๆ ที่พลิ้วไหวไปด้วยกันแทบทั้งคัน จนเมื่อมีโอกาสเหมาะในการออกแบบนาฬิการุ่นใหม่ของ GRIMOLDI ผมจึงตัดสินใจนำแนวคิดมาประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งผลออกมาก็เป็นที่น่าประทับใจมาก และผมยังได้รับรู้ว่ามีผู้คนอีกเป็นจำนวนมากที่หลงรักรถรุ่นนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าก็จะรักนาฬิการุ่น G.T.O. ของ GRIMOLDI ด้วยเช่นกัน”
“การที่ GRIMOLDI ได้มีโอกาสเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยถือเป็นเรื่องน่าสนใจมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ที่ให้ความสนใจในเรื่องนาฬิกาสูง ซึ่งผมเองก็เคยร่วมงานกันกับบริษัทในประเทศไทยมาก่อน อย่างไรก็ตามการทำความรู้จักกัน และการนำเสนอแบรนด์ให้เกิดความประทับใจ เป็นจุดประสงค์แรกที่ GRIMOLDI และผมเองอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งผมก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผลตอบรับที่ดีในอนาคตก็จะเกิดขึ้นตามมาเองเป็นลำดับไป”