iamwatch

AUDEMARS PIGUET พัฒนาเพื่อความก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการสร้าง 2 สถาปัตยกรรมใหม่แบบโมดูลาร์ ในสไตล์ร่วมสมัยที่สามารถดัดแปลงการใช้งาน ได้ตามความต้องการของแบรนด์ในอนาคต โดยสถาปัตยกรรมแรก ภายใต้ชื่อ “Manufacture des Saignoles” ในเมืองเลอ ล็อกค์ (Le Locle) หลังจากที่ใช้เวลาก่อสร้างถึง 3 ปี ส่วนสถาปัตยกรรมอีกแห่ง ภายใต้ชื่อ “Arc” ที่เพิ่งได้มีการวางศิลาเพื่อเริ่มต้นงานก่อสร้างเช่นกัน โดยอาคารนี้ถูกตั้งอยู่ติดกันกับ “Manufacture des Forges” ในเมืองเลอบราซูส์ โดยโปรเจคสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ทั้งสองนี้ สะท้อนถึงแนวคิดที่ยั่งยืนและวัฒนธรรมการทำงาน ของแบรนด์ที่ยืดหยุ่นและเป็นอิสระมากขึ้น ทั้งยังตอกย้ำถึงความทุ่มเทของแบรนด์ในด้านสถาปัตยกรรม ที่พัฒนานวัตกรรมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

โดยสถาปัตยกรรม Manufacture des Saignoles ตั้งอยู่ในเมืองเลอ ล็อกค์ และเป็นสถานที่ตั้งของเวิร์คช็อป AUDEMARS PIGUET Le Locle หรือที่ก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ “เรอโนด์ &ปาปี (Renaud & Papi)” ซึ่งเป็นเวิร์คช็อปที่เชี่ยวชาญด้านกลไกนาฬิกาคอมพลิเคชั่น โดยสถาปัตยกรรมแห่งใหม่นี้เริ่มมีแผนการปรับปรุงและการก่อสร้างในปี 2018 จนเสร็จสิ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2021 ด้วยตัวอาคารชั้นเดียวที่มีพื้นที่ 10,400 ตารางเมตร มีการกระจายระดับของอาคารให้ตอบรับกับสภาพภูมิประเทศ และการทำงานของสายการผลิต โดยออกแบบให้กลมกลืนกับสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นหุบเขาได้อย่างลงตัว พร้อมนำทุ่งหญ้า ที่ลุ่ม และป่าไม้โดยรอบมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ซึ่งโปรเจคนี้ถูกดีไซน์โดยบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรม สัญชาติสวิสอย่าง “คูนิค เดอ มอร์ซิเออร์ (Kuník de Morsier)” โดยงานออกแบบครั้งนี้คำนึงถึงสภาพความเป็นอยู่และความสะดวกสบายของพนักงานในอาคาร ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการใช้แสงธรรมชาติและเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกด้วย

ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของ Manufacture des Saignoles ก็คือหน้าต่างบานใหญ่ที่ผลิตจากกระจกเซจกลาส (SageGlass®) ซึ่งเป็นกระจกปรับเปลี่ยนสีจากปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี (Electrochromic glass) ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามแสงธรรมชาติ พร้อมยังช่วยประหยัดพลังงาน ที่นอกจากจะช่วยให้แสงส่องผ่านเข้ามาในแต่ละเวิร์คช็อปได้อย่างทั่วถึง โดยกระจกประเภทนี้ยังช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ตลอดทั้งปี ทั้งยังมอบทัศนียภาพโดยรอบได้อย่างเต็มตา และสถาปัตยกรรมที่ใช้งานแสงธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยมแห่งนี้ ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นร่วมกันกับMarilyne Andersen ศาสตราจารย์ด้านเทคนิคการก่อสร้างที่ยั่งยืน จากสถาบันเทคโนโลยีโลซานแห่งสมาพันธรัฐสวิส (Swiss Federal Institute of Technology Lausanne, EPFL) ผู้ความเชี่ยวชาญด้านการใช้แสงธรรมชาติเพื่อความเป็นอยู่ โดยนำมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่การทำงานให้ตอบโจทย์งานแต่ละประเภทโดยเฉพาะ

ส่วนสถาปัตยกรรม “Arc” ในเมืองเลอ บราซูส์ ดีไซน์โดย “เดอ จูลี เอ ปอร์ติเยร์ อาร์คิเต็ก (De Giuli & Portier Architectes)” บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมสัญชาติสวิส ที่ได้รับมอบหมายโดยบริษัทสไตน์เนอร์ (Steiner SA) ก่อสร้างเป็นอาคารรูปตัวยูแห่งใหม่ที่มีพื้นที่รวม 17,000 ตารางเมตร ถูกแบ่งเป็น 3 ชั้นพร้อมทั้งชั้นใต้ดินซึ่งเป็นส่วนของห้องเทคนิค โดยสถาปัตยกรรมแห่งนี้เชื่อมต่อกับ Manufacture des Forges ที่เปิดดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน และเมื่อ Arc ก่อสร้างเสร็จสิ้น อาคารทั้ง 2 แห่งจะถูกรวมกันเป็นหนึ่ง พร้อมให้กลายเป็นศูนย์รวมในการผลิตทั้งหมดของ AUDEMARS PIGUET ที่ปัจจุบันกระจายอยู่ทั่ววัลเลย์เดอฌูซ์โดยการก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นแล้วในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา และยังมีแผนว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025 ซึ่งระหว่างการก่อสร้างโปรเจคท์นี้ยังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยโครงสร้างแบบโมดูลาร์ที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับการใช้งานให้ตอบรับความต้องการในอนาคตของบริษัทได้ ทั้งยังนำเสนอเทคโนโลยีระดับแนวหน้าด้วยการใช้แสงธรรมชาติเป็นหลักจากกระจกเซจกลาส ทั้งนี้สถาปัตยกรรม Arc ชิ้นนี้ยิ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ ในการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์อาว็อง-การ์ดที่ยังใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย