iamwatch

Twitter

ช่วงเวลาระหว่างการจัดแสดงงาน Baselworld 2013 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นอกจากแบรนด์ที่จัดแสดงอยู่ภายในฮอลล์ต่างๆ ของงานแล้ว ตามสถานที่ต่างๆ รอบๆ งาน ก็มีแบรนด์นาฬิกาหลายแบรนด์นำนาฬิการุ่นใหม่ของตนมาจัดแสดงให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมงานได้ชมกัน JUNGHANS จากเยอรมนีก็เป็นหนึ่งในนั้นที่นำนาฬิการุ่นล่าสุดของเขามาจัดแสดงด้วยซึ่งเราก็ไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมและสัมผัสเพื่อนำกลับมาให้ทุกท่านได้ชมกัน เพราะตั้งแต่ที่ทางตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ได้นำ JUNGHANS กลับเข้ามาสู่ตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปีที่แล้วก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีทั้งจากผู้ที่เคยรู้จักแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่อายุกว่า 150 ปีแบรนด์นี้อยู่แล้วและผู้ที่เพิ่งเริ่มทำความรู้จัก ต้องยอมรับว่าเขามีสเน่ห์เฉพาะตัวและมีตัวตนที่ชัดเจน ดังนั้นนาฬิการุ่นใหม่ๆ ของเขาก็ต้องเป็นที่สนใจของคนไทยอย่างแน่นอน มาชมกันเลยครับว่ารุ่นใหม่ๆ ของเขานั้นน่าสนใจอย่างไร

ในปี 2013 นี้ ทาง JUNGHANS เค้ายกให้ตระกูลคอลเลคชั่นนาฬิกาเดรสสไตล์คลาสสิก Meister ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นหลักของแบรนด์ที่สืบเชื้อสายทั้งชื่อและรูปแบบมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1930 เป็นพระเอกของแบรนด์ โดยได้ออกรุ่นใหม่มาเสริมทัพถึง 3 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่นฟังก์ชั่นคอมพลีทคาเลนดาร์พร้อมมูนเฟส รุ่นฟังก์ชั่นแสดงสัปดาห์ในรอบปี และรุ่นตัวเรือนขนาดเล็กสำหรับคุณผู้หญิง บวกกับเวอร์ชั่นลิมิเต็ดเอดิชั่น 99 เรือนของรุ่นกลไกอัตโนมัติความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์อีก 1 รุ่น ซึ่งมาในตัวเรือนทองคำโรสโกลด์หน้าปัดสีงาช้าง โดยทั้งหมดยังคงมีรูปลักษณ์ตามแบบฉบับแห่งนาฬิกาคลาสสิกสไตล์ดั้งเดิมของเยอรมันที่มีรูปแบบของแผ่นหน้าปัดที่ผายกว้างและปกคลุมด้วยเปล็กซีกลาสทรงโดมแผ่นใหญ่เช่นเดียวกับ Meister รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน หลายท่านอาจเกรงว่ากระจกเปล็กซีกลาสที่ใช้นี้อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายซึ่งทาง JUNGHANS ก็เข้าใจในความกังวลเหล่านี้ เปล็กซีกลาสของ JUNGHANS จึงได้รับการเคลือบสาร SICRALAN MRL UV ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและทนทานต่อปฏิกิริยาจากสารเคมีและแสงยูวีได้ดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Meister Calendar

นาฬิกา Meister รุ่นใหม่ที่เราประทับใจตั้งแต่แรกเห็นก็คือ Meister Calendar ซึ่งเป็นรุ่นที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับตระกูลด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นคอมพลีทคาเลนดาร์ซึ่งจะแสดงทั้งวัน วันที่ และเดือน บนหน้าปัดสีเงินขาว อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นแสดงมูนเฟสเพิ่มเข้ามาด้วย โดยเป็นการติดตั้งโมดูลของฟังก์ชั่นเหล่านี้เข้าไปบนกลไกอัตโนมัติ บรรจุอยู่ในตัวเรือนสตีลขนาด 40.4 มิลลิเมตร รับพอดีกับข้อมือมาตรฐานสากลของผู้ชาย 

การจัดวางตำแหน่งของการแสดงผลปฏิทินของ Meister Calendar นั้นดูลงตัวมากๆ ด้วยขนาดของช่องหน้าต่างแสดงวันกับเดือนที่ได้สัดส่วน ไม่ใหญ่ ไม่เล็กจนเกินไป และวางตำแหน่งได้อย่างที่เรียกว่ามองแล้วสบายตา แถมยังดูมีสเน่ห์ด้วยลูกเล่นในการเล่นระดับของกรอบหน้าต่างอีกต่างหาก ส่วนวงหน้าปัดวันที่ขนาดใหญ่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาที่ใช้เข็มชี้แสดงค่าก็มีการเล่นระดับเพื่อให้ดูมีมิติเช่นกันโดยส่วนบนของวงหน้าปัดนี้จะถูกเจาะเป็นช่องหน้าต่างแสดงทรงพัดคลี่เต็มเพราะเปิดไม่เต็มครึ่งวงกลมซึ่งใช้สำหรับแสดงมูนเฟสบนจานสีน้ำเงินเข้ม ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีหมู่ดาวต่างขนาดกันอยู่เคียงข้างดวงจันทร์ด้วยโดยดวงดาวนี้ก็ได้ทำเป็นรูปทรงเดียวกับสัญลักษณ์ดวงดาวที่อยู่บนโลโก้ของ JUNGHANS ซึ่งก็จะมีดวงใหญ่อยู่ดวงหนึ่งที่มีตัวอักษร J อยู่ภายในที่เหมือนกับสัญลักษณ์ดวงดาวบนโลโก้แบบเป้ะๆ อีกต่างหาก 

รอบหน้าปัดของ Meister Calendar ก็จะใช้รูปแบบเดียวกับ Meister รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน คือ ติดตั้งหลักชั่วโมงหลักแบบแท่งเรียวที่ตำแหน่ง 12, 3, 6 และ 9 นาฬิการ่วมกับการพิมพ์เส้นขีดเรียวบางของหลักอื่นๆ กับสเกลนาที ส่วนบนเข็มชั่วโมงกับนาทีทรงแหลมเรียวก็ติดตั้งสารเรืองแสงเพื่อให้มองเห็นในที่มืด ทั้งหมดนี้มองเผินๆ แล้วอาจดูง่ายๆ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าพินิจถึงรายละเอียดในแต่ละจุดแล้วต้องบอกว่าทุกองค์ประกอบบนหน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้ต่างถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันตามปรัชญามินิมัลลิสม์สไตล์เยอรมัน 

Meister Calendar มีให้เลือกทั้งในแบบตัวเรือนสตีลคู่กับสายหนังม้าสีน้ำตาลหรือสายสตีล, ตัวเรือนสตีลเคลือบเยลโลว์โกลด์คู่กับสายหนังม้าสีดำ และตัวเรือนสตีลเคลือบโรสโกลด์คู่กับสายหนังจระเข้หลุยส์เซียน่าสีดำ โดยจะใช้สีของเข็ม หลักชั่วโมง และดวงจันทร์กับดวงดาว ตามสีของตัวเรือน ฝาหลังกรุมิเนอรัลคริสตัลให้มองเห็นงานขัดแต่งลายโค้ตเดอเชอแนฟบนโรเตอร์กับบริดจ์ และลายเพอร์ลาจบนบาร์เรลกับวีลบริดจ์ และสกรูว์สีน้ำเงิน ของกลไกอัตโนมัติ Calibre J800.3 กำลังสำรอง 38 ชั่วโมง 25 จิวเวล 

Meister Agenda

Meister Agenda รุ่นนี้ มากับกลไกอัตโนมัติที่ติดตั้งโมดูลฟังก์ชั่นแสดงวัน, วันที่ และสัปดาห์ในรอบปี อันเป็นฟังก์ชั่นที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในนาฬิกาทั่วไป เป็นนาฬิกาเฉพาะอาชีพที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานโดยใช้เลขที่สัปดาห์เป็นหลักอ้างอิงของตารางงาน อาทิ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับไลน์การผลิต การติดต่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ หรือเกี่ยวกับการขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นต้น ผู้ที่มีอาชีพเหล่านี้จะตอบได้ดีว่าฟังก์ชั่นนี้มีประโยชน์เพียงใด 

JUNGHANS จัดวางตำแหน่งแสดงฟังก์ชั่นต่างๆ ของ Meister Agenda เอาไว้อย่างลงตัวไม่ทำให้หน้าปัดพื้นสีเงินขาวดูรกแต่อย่างใดทั้งที่ต้องแสดงทั้งวัน วันที่ สัปดาห์ และยังเพิ่มการแสดงกำลังสำรองเข้าไปอีกต่างหาก การแสดงวันกับวันที่นั้นจะบอกผ่านช่องหน้าต่างทรงเหลี่ยมพร้อมกรอบเล่นระดับ ณ ตำแหน่ง 9 กับ 3 นาฬิกา ส่วนการแสดงสัปดาห์จะแสดงด้วยเข็มบนหน้าปัดย่อยทรงชามอ่างเว้าลงไปจากพื้นหน้าปัด ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ได้บาลานซ์กับหน้าปัดย่อยลักษณะเดียวกัน ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาที่ใช้ในการแสดงกำลังสำรองด้วยเข็ม ซึ่งนับว่าเป็นตำแหน่งการจัดวางที่ได้สมดุลย์และอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างง่ายดายสุดๆ 

ตัวเรือนของ Meister Agenda มีขนาด 40.4 มิลลิเมตร โดยมีให้เลือกทั้งตัวเรือนสตีล และตัวเรือนสตีลเคลือบโรสโกลด์ ที่ใช้หลักชั่วโมงแบบแท่ง ณ ตำแหน่ง 3,6,9,12 นาฬิกา กับสีเข็มตามสีตัวเรือน ติดตั้งสารเรืองแสดงบนเข็มชั่วโมงกับนาที ฝาหลังกรุมิเนอรัลคริสตัลเพื่อให้มองเห็นงานขัดแต่งลายโค้ตเดอเชอแนฟบนโรเตอร์กับบริดจ์ และลายเพอร์ลาจบนบาร์เรลกับวีลบริดจ์ และสกรูว์สีน้ำเงิน ของกลไกอัตโนมัติ Calibre J810.5 จิวเวล 28 ชิ้น กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง สวมใส่คู่กับสายที่มีให้เลือกทั้งหนังจระเข้หลุยส์เซียน่าสีดำ สายหนังม้าสีน้ำตาล และสายสตี

Meister Damen

ในที่สุด JUNGHANS ก็ได้เวลาออกนาฬิกา Meister สำหรับคุณผู้หญิงเสียที แต่ก็ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ด้วยการย่อขนาดตัวเรือนลงมาเท่านั้น แต่ได้มีการออกแบบรายละเอียดของหน้าปัดเสียใหม่เพื่อให้ดูนุ่มนวลสง่างามเหมาะกับผู้หญิงด้วย หลักชั่วโมงที่ตำแหน่ง 12,3,6 และ 9 ของรุ่นนี้จะใช้เป็นเลขโรมันฟอนท์เรียวบาง ส่วนสีพื้นหน้าปัดก็จะใช้เป็นสีน้ำตาลมอคค่า หรือสีครีม ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทั้งยังมีในแบบหลักชั่วโมงแบบแท่ง ณ ตำแหน่ง 12, 3, 6, 9 นาฬิกา ตามรูปแบบนาฬิกา Meister รุ่นอื่นๆ และแบบหลักชั่วโมงประดับเพชรรวม 12 เม็ดที่ติดตั้งบนหลักชั่วโมงแบบแท่ง ณ ตำแหน่ง 12,3,6,9 นาฬิกา ร่วมกับหลักชั่วโมงแบบขีดแต่ไม่มีสเกลนาที ให้เลือกด้วย ทุกรุ่นจะบอกเวลาแบบ 3 เข็ม พร้อมแสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ซึ่งทำงานด้วยกลไกควอตซ์ 

ตัวเรือนของรุ่นสำหรับผู้หญิงนี้จะเป็นวัสดุสเตนเลสสตีลหรือสเตนเลสสตีลเคลือบเยลโลว์โกลด์ที่มาในขนาด 30.8 มิลลิเมตร รุ่นหน้าปัดสีครีมจะคู่กับสายหนังจระเข้สีครีมเฉดเดียวกับหลักชั่วโมง รุ่นหน้าปัดสีมอคค่าจะคู่กับสายหนังจระเข้สีน้ำตาล รุ่นตัวเรือนเคลือบเยลโลว์โกลด์ที่มาพร้อมเข็มสีทองกับหลักชั่วโมงแบบแท่งสีทองประดับเพชรจะคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ ส่วนรุ่นหน้าปัดสีเงินขาวที่ติดตั้งหลักชั่วโมงแบบแท่งหรือหลักชั่วโมงประดับเพชรจะมาคู่กับสายสตีล

Meister Chronometer Gold Limited Edition

Meister รุ่นพิเศษที่ผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น 99 เรือนรุ่นนี้ เป็นนาฬิกา Meister กลไกอัตโนมัติความเที่ยงตรงสูงระดับโครโนมิเตอร์ ที่ใช้ตัวเรือนโรสโกลด์ 18k คู่กับหน้าปัดสีงาช้างที่ใช้หลักชั่วโมงแบบแท่ง ณ ตำแหน่ง 12, 3, 6, 9 นาฬิกา และเข็ม เป็นสีโรสโกลด์เข้ากับตัวเรือนพร้อมติดตั้งสารเรืองแสงบนเข็มชั่วโมงกับนาที โดยมีหน้าต่างแสดงวันที่อยู่ที่ 3 นาฬิกา จุดสังเกตบนหน้าปัดที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ นอกจากสีแล้วก็จะมีขีดสเกลที่ละเอียดยิ่งขึ้น หลักชั่วโมงที่ 12 นาฬิกา แบบ 2 ชิ้นที่มีการติดตั้งสารเรืองแสง และมีข้อความ CHRONOMETER บนหน้าปัด อันเป็นรูปแบบมาตรฐานของรุ่น Meister Chronometer ซึ่งจะว่าไปแล้ว รุ่น Chronometer นั้นถือว่าเป็นตัวแทนที่บอกถึงความเป็นตัวตนของนาฬิกา Meister ได้ดีที่สุด เพราะเมื่อยุคทศวรรษที่ 1950 นั้น JUNGHANS นั้น ถือว่าเป็นผู้ผลิตนาฬิกาความเที่ยงตรงสูงระดับโครโนมิเตอร์ออกมามากเป็นอันดับที่สามของโลกเลยทีเดียว และนาฬิการุ่น Meister ของ JUNGHANS ก็เคยมีการผลิตรุ่นที่ใช้กลไกความเที่ยงตรงสูงระดับโครโนมิเตอร์มาแล้วในระหว่างปี 1951-1960

รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นในตัวเรือนโรสโกลด์ที่ออกมาในปีนี้ถือเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นรุ่นที่ 4 ของตระกูล Meister ในปัจจุบัน นับจากที่เคยออก Meister Chronometer Anniversary Model ในตัวเรือนเคลือบเยลโลว์โกลด์ ผลิต 150 เรือน กับ Meister Chronoscope Anniversary Model กลไกโครโนกราฟในตัวเรือนเคลือบเยลโลว์โกลด์ ผลิต 1,500 เรือน มาในปี 2011 และต่อด้วย Meister Chronoscope Limited Edition กลไกโครโนกราฟในตัวเรือนโรสโกลด์ 18k ผลิต 151 เรือนมาในปี 2012

กลไกอัตโนมัติ Calibre J820.1 ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ที่ใช้ในนาฬิการุ่นนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้แฮร์สปริง Nivarox สีน้ำเงินที่ Carl Hass ผลิตให้เป็นพิเศษสำหรับ JUNGHANS โดยเฉพาะ สามารถมองเห็นงานขัดแต่งลายโค้ตเดอเชอแนฟของโรเตอร์ และสกรูว์สีน้ำเงินที่ใช้ได้ผ่านทางกระจกไมเนอรัลที่กรุบนฝาหลังของตัวเรือนขนาด 38.4 มิลลิเมตรที่มาคู่กับสายหนังจระเข้หลุยส์เซียน่าสีดำพร้อมบัคเกิ้ลโรสโกลด์ 

เห็นรุ่นใหม่จากตระกูล Meister แต่ละรุ่นแล้ว เชื่อว่าลูกค้าชาวไทยน่าจะให้การต้อนรับเป็นอย่างดีจริงมั้ยครับ อีกไม่นานแต่ละรุ่นก็คงมีจำหน่ายในบ้านเราแล้ว

By: Viracharn T.