F.P. JOURNE Participate in INDIANAPOLIS 500
Dany Bahar ซีอีโอของโลตัสกรุ๊ป ประกาศการเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตนาฬิกา F.P. Journe จากสวิตเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการ สำหรับรายการ Indianapolis 500 หรือ Indy 500 ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์รายการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอเมริกา การแข่งขันประจำปี 2012 ได้ถูกจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2012 ที่ผ่านมา ณ สนาม Indianapolis Motor Speedway โดยมีนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันชื่อดังของโลกชาวฝรั่งเศสในยุคทศวรรษที่ 90 Jean Alesi เข้าร่วมลงแข่งในรายการนี้เป็นครั้งแรกและเป็นผู้สวมใส่นาฬิการุ่น Centigraphe Sport บนข้อมือของเขาหลังพวงมาลัยรถแข่งโลตัสสีดำ-ทอง ที่มีโลโก้และภาพของนาฬิกา F.P.Journe ติดอยู่ข้างรถ
Jean Alesi กับนาฬิกา F.P.Journe Centigraphe Sport บนข้อมือ
F.P.Journe เข้าร่วมสนับสนุนทีม Lotus Fan Force United เพื่อต้องการที่จะประชาสัมพันธ์และแนะนำนาฬิกาสปอร์ตซึ่งเป็นไลน์ใหม่ของตนที่มีชื่อตรงตัวว่า lineSport ซึ่งรุ่น Centigraphe Sport ที่ Alesi สวมใส่นี้เป็นนาฬิกาข้อมือแบบแรกที่ทำด้วยวัสดุอลูมิเนียมทั้งเรือนโดยมีน้ำหนักเพียง 55 กรัมเท่านั้น ซึ่งตรงกับปรัชญายนตรกรรมน้ำหนักเบาของโลตัสและยังเป็นวัสดุลักษณะเดียวกับที่ใช้ในแชสซีส์ของรถโลตัสด้วย ดังนั้นชื่อเต็มๆ ของทีมก็ได้ถูกเพิ่มชื่อแบรนด์ต่อท้ายเข้าไปเป็น Lotus Fan Force United F.P.Journe
Centigraphe Sport
Centigraphe Sport นาฬิการุ่นแรกในไลน์ lineSport ของ F.P.Journe เป็นนาฬิกาแบบแรกในโลกที่ใช้ตัวเรือน สาย และเครื่อง ซึ่งทำจากไฮเทคอลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบาทั้งหมดโดยเป็นวัสดุเดียวกับที่ใช้กันในอุตสาหกรรมการบิน เครื่องโครโนกราฟที่ใช้ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วนั้นเป็นกลไกแบบไขลาน มีวงหน้าปัดย่อย 3 วง สามารถจับเวลาได้ละเอียดจนถึงระดับ 1/100 ของวินาที ซึ่งจะชี้บอกในหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา โดยเข็มจะหมุนวินาทีละ 1 รอบ หน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกาจะหมุนครบ 1 รอบในทุก 20 วินาทีเพื่อบอกวินาที ส่วนหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกานั้นจะบอกนาทีจับเวลาซึ่งจะบอกได้สูงสุดที่ 10 นาที มีกำลังสำรอง 100 ชั่วโมงยามเดินปกติ และ 24 ชั่วโมงเมื่อให้กลไกโครโนกราฟทำงาน การจับเวลานั้นจะสั่งการให้เริ่ม หยุด และรีเซ็ท ผ่านทางปุ่มสั่งการณ์ทรงคันโยกดีไซน์เฉพาะ ณ ตำแหน่ง 2 นาฬิกาซึ่งจดสิทธิบัตรแล้วเช่นกัน ส่วนวัสดุสีดำที่เห็นอยู่บนสาย ข้างตัวเรือน และเม็ดมะยมนั้นถูกทำจากยางหรือเคลือบด้วยยางเพื่อทำหน้าที่กันกระแทก บานพับสายเป็นอลูมิเนียมเคลือบยางมีระบบปรับขยายความยาวได้ประมาณ 4 มิลลิเมตร
ทาง Francois-Paul Journe ได้ให้ Christie’s นำนาฬิกาเรือนแรกหมายเลข 001 ของนาฬิการุ่นนี้ออกประมูลในงานประมูลที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2011 ซึ่งปิดราคาไปได้ถึง HKD 3,620,000 (รวมพรีเมียมแล้ว) หรือเท่ากับราว 10 เท่าของราคาประเมิน โดยนำรายได้นี้ไปช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิผ่านทาง Franco-Japanese Foundation de Fere, องค์กร Doctors of the World Japan และสนับสนุนการสร้างศูนย์ชุมชนใน Ishinomaki ใกล้ๆ กับ Sendai เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย นอกจากนี้กำไรจากการขายนาฬิกา Centigraphe Sport จำนวน 30% ของแต่ละเรือนจะถูกนำไปสนับสนุนการวิจัยทางการแพทย์ของ ICM ซึ่งเป็นสถาบันสมองและเส้นประสาทในกรุงปารีสด้วย
รายละเอียดทางเทคนิคของ Centigraphe Sport
ตัวเรือน: อลูมิเนียมอัลลอยแซมด้วยยาง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร หนา 11.6 มิลลิเมตร เม็ดมะยมทำจากไทเทเนียมเคลือบยาง สาย: อลูมิเนียมอัลลอยแซมด้วยยาง บานพับแบบปรับได้ทำจากอลูมิเนียมเคลือบยาง
หน้าปัด: อลูมิเนียมอัลลอย พื้นวงหน้าปัดย่อยเป็นกระจกแซฟไฟร์
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟสั่งการด้วยปุ่มทรงคันโยกชิ้นเดียว แสดงค่าจับเวลาได้ในระดับ 1/100 ของวินาที
เครื่อง: ไขลานโครโนกราฟ Calibre 1506 ทำจากอลูมิเนียมอัลลอย ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 100 ชั่วโมงในยามปกติ และ 24 ชั่วโมงในยามโครโนกราฟทำงาน บริดจ์ขัดแต่งลายเซอร์คูล่าสไตรพ์ เบสเพลทขัดแต่งลายเซอร์คูล่าเกรน ชิ้นส่วนสตีลขัดแต่งลายเสตรทเกรน
น้ำหนักรวมทั้งหมด: 55 กรัม, น้ำหนักเครื่องอย่างเดียว: 12 กรัม
เกี่ยวกับ Indy 500: การแข่งขัน Indianapolis 500 เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1911 ณ สนามที่มีชื่อว่า Indianapolis Motor Speedway ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเส้นทางเป็นวงรีความยาว 2.5 ไมล์ต่อรอบ โดยแข่งขันกันเป็นระยะทางรวม 500 ไมล์ จากนั้นก็ได้ถูกจัดขึ้นทุกปี และกลายมาเป็นการแข่งขันรถยนต์ในสนามที่ใช้ความเร็วกันสูงที่สุดถึง 400 กม./ชม. ท่ามกลางสายตาผู้ชม 400,000 คู่รอบสนามบวกกับผู้ชมทางโทรทัศน์อีกจำนวนมหาศาล
เกี่ยวกับรถแข่งโลตัส: รถแข่งจากโลตัสเคยสร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขัน Indianapolis 500 อย่างยิ่งใหญ่มาแล้วเมื่อปี ค.ศ.1965 เมื่อนักแข่งชื่อ Jim Clark เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งด้วยรถแข่งโลตัสเครื่องยนต์วางกลางลำซึ่งเป็นรถแข่งเครื่องวางกลางรุ่นแรกและได้กลายเป็นบรรทัดฐานให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ทำตาม ปัจจุบันโลตัสได้กลับเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้อีกครั้งเมื่อปี 2011 และในปี 2012 นี้ก็พัฒนาไปอีกขีดขั้นหนึ่งโดยการใช้เครื่องยนต์ของตนเองอีกด้วย
เกี่ยวกับ Jean Alesi: Jean Alesi เป็นอดีตนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันชาวฝรั่งเศสซึ่งเคยยืนโพเดียมในการแข่งฟอร์มูล่าวันมาแล้ว 32 ครั้งในช่วงปี ค.ศ.1989 - 2001 ในปี 2012 นี้ Alesi ในวัย 47 ปีกลับเข้าสู่วงการแข่งขันรถยนต์อีกครั้งโดยขับให้กับทีมโลตัสในรายการ Indianapolis 500 ครั้งนี้
By: Viracharn T.