iamwatch

Twitter

นาฬิกาเรือนนี้เน้นแสดงเวลาเฉพาะชั่วโมง นาที และวินาที โดยทำงานด้วยกลไกไขลานคาลิเบอร์ 2206 HMS ที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด และพิถีพิถัน ดังที่จะเห็นได้จากความสวยงามของการตกแต่งกลไกด้านหลังตัวเรือน ผลิตแบบจำนวนจำกัด 10 เรือนทั่วโลก โดยความโดดเด่นพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้ จะอยู่ที่หน้าปัดหินอุกกาบาต ที่ถูกค้นพบในปี 1931 บริเวณปากปล่องภูเขาไฟเฮนบูรี ทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบจากหินอุกกาบาตมากที่สุดในโลกตั้งแต่ครั้งอดีตกาล โดยหินอุกกาบาตเหล่านี้ จะดูเหมือนก้อนโลหะสีเทาธรรมดาๆ จนกระทั่งผ่านกระบวนการบำบัดด้วยกรดไนตริค ซึ่งจะเผยให้เห็นแถบของผลึกนิกเกิลที่ฝังอยู่ในเนื้อ ที่มองด้วยตาเปล่าจะดูเหมือนโครงสร้างของเส้นใยภายใน อันเกิดจากความเย็นที่ฝังตัวอยู่ในเนื้อหินอุกกาบาตเป็นระยะเวลานาน

โดยขั้นตอนในการผลิตหน้าปัดจากหินอุกกาบาตนั้น จะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการขึ้นรูป และตัดด้วยกระแสไฟฟ้า เพื่อสร้างเป็นแผ่นกลมๆ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 33 มิลลิเมตร และหนา 0.8 มิลลิเมตร ซึ่งชิ้นงานจากหินอุกกาบาตเหล่านี้ มีความโดดเด่นในเรื่องความหยาบของแถบคริสตัลนิกเกิลภายใน อันเป็นจุดเด่นที่ทำให้ดูสะดุดตา เมื่อมองหน้าปัดในมุมมองต่างๆ และทำให้เกิดแสงระยิบระยับจำนวนมากที่เปล่งประกายตามทิศทางที่เปลี่ยนไป

Romain รู้จักกับหินอุกกาบาตเหล่านี้มาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเขาเองก็เติบโตขึ้นในบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยหิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่พ่อของเขาเก็บรวบรวมและสะสมไว้ “พ่อของผม มักจะพาไปที่งานแสดงสินค้าแร่และอัญมณี ตั้งแต่ผมยังเด็ก จึงไม่น่าแปลกใจที่ผมเองจะหลงเสน่ห์วัตถุเหล่านี้ เพราะทั้งรูปแบบ สี และรูปร่างที่น่าทึ่งของหินเหล่านี้ ต่างก็เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ และทันทีที่ผมเห็นหินอุกกาบาตเหล่านี้ครั้งล่าสุด ผมก็ผุดไอเดียขึ้นทันทีว่า ผมจะใช้สร้างเป็นนาฬิการุ่นพิเศษได้ยังไงดี” และสุดท้าย Romain จึงคิดว่าตัวเรือนสตีลควรจะเหมาะกับหน้าปัดหินอุกกาบาตมากที่สุด

กับขนาดตัวเรือนเส้นผ่าศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตร และเม็ดมะยมที่แบนราบไปกับฝาหลังของตัวเรือน ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของนาฬิการุ่น Prestige HMS ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการม้วนเมนสปริง เนื่องจากเป็นการส่งพลังงานในแนวราบเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีลูกปืนเซรามิคที่ช่วยลดการสึกหรอ รวมทั้งแรงเสียดทาน และซีลโอริงยาง ที่นอกจากจะช่วยป้องกันการรั่วซึมแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการผ่อนแรงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

Technical Specifications

Edition

Stainless steel case featuring dial made from rare Henbury meteorite – 10-piece limited edition

Features and indications

Hours, minutes and seconds

Entire dial made from rare Henbury octahedrite meteorite

Stainless steel case

Flat crown on caseback for ergonomic winding

Finely hand-finished, in-house movement visible through display back

Dial and hands

Off-centre hour-minute subdial at 12 o’clock

Small seconds at 5 o’clock

Super-LumiNova-filled hour and minute hands in blackened steel

Small second hand in blackened steel

Super-LumiNova-filled white gold applique hour markers

Meteorite details 

Discovered at: Henbury Meteorites Conservation Reserve, Northern Territory, Australia

Year of discovery: 1931

Classification: Octahedrite

Movement and finishing 

In-house movement Calibre 2206 HMS

Dimensions: 34mm x 5.5mm

Power reserve: 60 hours

Number of jewels: 22

Number of components: 128 

Balance frequency: 28,800 vph / 4Hz 

Finishing: Highest-level haute horlogerie hand-finishing

Treatment: Black NAC-treated bridges and rhodium-treated gears

Case

Material: Stainless steel

Dimensions: 43mm x 12.1mm

Water resistance: 10m/1atm/30ft

Flat crown on caseback for ergonomic winding, pulled out for time-setting

Sapphire crystal with interior anti-reflection coating, front and display back

Strap and buckle 

Black alligator leather with satin-finished stainless steel pin buckle