SIHH 2012 - New pieces from ROGER DUBUIS
ROGER DUBUIS เป็นแบรนด์นาฬิกาเปี่ยมเอกลักษณ์ที่อยู่ในใจของใครหลายคน ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่แตกต่างทั้งในรายละเอียดของตัวเรือนและดีไซน์ของหน้าปัด ณ วันนี้ ROGER DUBUIS ได้วางคอนเซ็ปต์ในการออกแบบนาฬิกาของตนเอาไว้ 4 ธีมด้วยกัน 2 ธีมแรกได้แก่โลกแห่ง Player กับ Warrior หรือนักเล่นกับนักรบ ซึ่งออกมาให้เห็นกันก่อนหน้านี้แล้วในปีก่อนด้วยคอลเลคชั่น La Monegasque ในคอนเซ็ปต์นักเล่น และ Excalibur ในคอนเซ็ปต์นักรบ และปี 2012 นี้ก็ถึงเวลาที่จะเผยโฉมอีก 2 คอนเซ็ปต์ที่เหลือ ซึ่งก็คือโลกแห่ง Venturer กับ Diva หรือนักผจญภัยกับเทพธิดานั่นเอง โดยนาฬิกาสำหรับนักผจญภัยซึ่งใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัดถูกตีความออกมาเป็นคอลเลคชั่น Pulsion ส่วนสำหรับเทพธิดาแสนงามสง่านั้นถูกแทนด้วยคอลเลคชั่น Velvet
มาชมกันเลยดีกว่าครับว่านาฬิกาจากคอลเลคชั่น Pulsion กับ Velvet ที่เปิดตัวในงาน SIHH 2012 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้มีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง ตลอดจน Excalibur Automatic สำหรับคุณผู้ชายที่ออกมาใหม่ในปีนี้ รวมถึง Excalibur ในเวอร์ชั่นพิเศษ Skeleton Double Flying Tourbillon และ La Monegasque ในเวอร์ชั่นพิเศษ Flying Tourbillon ซึ่งถูกผลิตขึ้นแบบจำกัดจำนวนทั้งคู่
Pulsion Collection
คอลเลคชั่น Pulsion ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจในโลกแห่ง Venturer หรือนักผจญภัยจึงมีรูปลักษณ์ที่แข็งแรงและดูดิบถ่ายทอดผ่านเส้นสายที่ชัดเจน ทำงานด้วยเครื่องจักรกลที่ได้รับการรับรองคุณภาพการทำงาน จะต้องผลิตด้วยมือ ประกอบและปรับตั้งในเจนีวา ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดล่าสุดจาก Poincon de Geneve ซึ่งออกโดย Canton of Geneva ให้กับผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายเท่านั้น โดย ROGER DUBUIS ยังเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่เครื่องทั้งหมดที่ผลิตขึ้นนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของ Poincon de Geneve แบบ 100% และ 2 รุ่นแรกของคอลเลคชั่น Pulsion ที่เปิดตัวมาใหม่นี้ ก็คือ Pulsion Skeleton Flying Tourbillon และ Pulsion Chronograph ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ
Pulsion Skeleton Flying Tourbillon
มาในตัวเรือนไทเทเนียมขัดซาตินสลับขัดเงาขนาด 44 มิลลิเมตร ด้านหน้าใช้กระจกแซฟไฟร์คริสตัลยึดติดกับตัวเรือนด้วยสกรูว์แผ่ปกคลุมกว้างไปถึงขอบตัวเรือนที่มีตัวเลขนาทีเคลือบสารเรืองแสงสีขาวสลักไว้อยู่ด้านใน ขอบวงหน้าปัดสีดำพร้อมสเกลนาทีและหลักชั่วโมงสีขาว เปิดส่วนกลางให้เห็นเครื่องไขลานอินเฮ้าส์ทำสเกเลตัน Calibre RD505SQ ที่ใช้เพลทเคลือบโรเดียมแอนทราไซต์ขัดลายเซอร์คูล่าเกรนกันแบบเต็มๆ เครื่องสุดพิเศษนี้มี 19 จิวเวล ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วน 165 ชิ้น ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง มีกำลังสำรอง 60 ชั่วโมง และมีฟลายอิ้งตูร์บิยองติดตั้งอยู่ ณ ตำแหน่ง 7.30 นาฬิกา สวมใส่คู่กับสายยางสีดำ
Pulsion Chronograph
ตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 44 มิลลิเมตรทำดีแอลซีดำขัดซาตินสลับขัดด้าน กันน้ำได้ลึกในระดับ 100 เมตร มาคู่กับสายยางสีดำ ด้านหน้าดูเด่นด้วยการใช้กระจกแซฟไฟร์คริสตัลยึดติดกับตัวเรือนด้วยสกรูว์แผ่ปกคลุมกว้างไปถึงขอบตัวเรือนที่มีตัวเลขนาทีเคลือบสารเรืองแสงสีขาวสลักไว้อยู่ด้านใน ทำงานด้วยเครื่องอินเฮ้าส์โครโนกราฟแบบคอลัมน์วีล Calibre RD680 เครื่องรุ่นนี้ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง 42 จิวเวล มีกำลังสำรอง 52 ชั่วโมง ขึ้นลานแบบอัตโนมัติด้วยไมโครโรเตอร์ ประกอบด้วยชิ้นส่วน 261 ชิ้น หน้าปัดมาในแบบกึ่งโอเพ่นเวิร์คเปิดให้เห็นเพลทขัดลายโค้ตเดอเชอแนฟตรงส่วนกลาง โดยมีงานแผ่นหน้าปัดสีดำขัดแต่งลายโค้ตเดอเชอแนฟติดตั้งอยู่ที่ขอบหน้าปัดร่วมกับตัวเลข 6 กับ 12 สีดำบนเส้นโค้งบางๆ ที่ถูกยึดด้วยสกรูว์ด้านละ 2 ตัวลงบนเพลทของเครื่อง ให้ความแปลกตาและน่าสนใจเป็นอย่างมาก พื้นหน้าปัดย่อยทั้งสองซึ่งทำหน้าที่บอกนาทีจับเวลาและบอกวินาทีทำจากแผ่นกระจกแซฟไฟร์รมดำ หลักชั่วโมงทำจากไวท์โกลด์ ส่วนขอบหน้าปัดวงนอกสุดยังมีสเกลทาคีมิเตอร์สีขาวบนพื้นดำติดตั้งไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีรุ่นตัวเรือนไทเทเนียมที่ใช้หน้าปัดโทนสีเงิน หลักชั่วโมงดำ และตัวเรือนพิงค์โกลด์ซึ่งมากับหน้าปัดสีดำ หลักชั่วโมงพิงค์โกลด์ เข็ม และสกรูว์บนขอบหน้าปัดสีพิงค์โกลด์ ให้เลือกด้วย
Pulsion Chronograph ตัวเรือนไทเทเนียม
Pulsion Chronograph ตัวเรือนพิงค์โกลด์
Velvet Collection
มาถึงคอลเลคชั่นที่ผลิตขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์โลกแห่ง Diva กันบ้าง มองชื่อก็รู้แล้วว่านาฬิกาในคอนเซ็ปต์เทพธิดานี้จะต้องทำออกมาสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยมีโจทย์ที่จะต้องมีดีไซน์เฉพาะตัวซึ่งถึงพร้อมด้วยความงามสง่าและดึงดูดใจ และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเรือนทรงรีรูปไข่ที่ไม่เหมือนใคร โดยจะมีหลากหลายเวอร์ชั่นในรูปแบบของการตกแต่งและสีสันที่แตกต่างกันให้เลือกเป็นเจ้าของ ได้แก่ Velvet Amethysts and Spinels, Velvet Diamonds, Velvet Jewellery และ Velvet Fine Jewellery
Velvet Amethysts and Spinels
นาฬิการุ่นนี้เล่นกับสีสันได้อย่างแปลกตาและน่าดู ให้ความรู้สึกลึกลับและแข็งแกร่งอยู่ในทีด้วยการตกแต่งอเมทิสต์ 46 เม็ด น้ำหนักรวม 0.74 กะรัตบนขอบตัวเรือนกับพลอย 40 เม็ด น้ำหนักรวม 0.5 กะรัต ลงบนขาของตัวเรือนขนาด 36 มิลลิเมตรซึ่งทำจากวัสดุไทเทเนียมทำดีแอลซีดำ ผลิตในจำนวนจำกัด 188 เรือน เสริมความลึกลับด้วยหน้าปัดสีดำปัดลายตรงส่วนกลางที่อยู่ระดับลึกลงไป ส่วนบริเวณรอบนอกปัดลายซันเรย์ เลขโรมัน 10 กับ 12 นาฬิกาทำดีแอลซีดำ เสริมความเด่นด้วยขอบสีม่วงของหลักชั่วโมงโรมันสีดำ สวมใส่คู่กับสายซาตินสีดำ เดินด้วยเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติอินเฮ้าส์ RD821 มี 33 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง
Velvet Diamonds
ตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับเพชร 100 เม็ดบนตัวเรือน ขาตัวเรือน กับบัคเกิ้ลน้ำหนักรวม 1.77 กะรัต หน้าปัดสีเงิน หลักชั่วโมงโรมันสีดำ ส่วนที่ตำแหน่ง 6 กับ 12 นาฬิกาเป็นไวท์โกลด์ มาพร้อมสายซาตินสีดำ
Velvet Jewellery
ตัวเรือนพิงค์โกลด์ประดับเพชรบนขอบตัวเรือนพร้อมสายพิงค์โกลด์ประดับเพชร รวมทั้งหมด 262 เม็ด นำหนักรวม 2.98 กะรัต หน้าปัดสีเงิน หลักชั่วโมงโรมันสีดำ เลขโรมันที่ตำแหน่ง 6 กับ 12 นาฬิกาทำจากพิงค์โกลด์
Velvet Fine Jewellery
ตัวเรือนไวท์โกลด์ปูเพชรเต็มระยิบระยับแทบทุกอณูท้งหน้าปัด ขอบและข้างตัวเรือนตลอดจนขาตัวเรือน และบนสายไวท์โกลด์ จำนวนรวมทั้งหมด 1,300 เม็ด น้ำหนักรวม 9 กะรัต หลักชั่วโมงโรมันทำจากกระจกแซฟไฟร์เคลือบโลหะ
Excalibur Collection
ปี 2012 นี้ ROGER DUBUIS ได้เพิ่มเติมทางเลือกให้กับแฟนๆ ด้วยการบรรจุเครื่องอัตโนมัติให้กับคอลเลคชั่น Excalibur สำหรับสุภาพบุรุษหลังจากที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามมาแล้วกับ Excalibur Lady เครื่องอัตโนมัติซึ่งออกมาเมื่อปี 2011 และในคราวนี้ยังได้ออกรุ่นพิเศษลิมิเต็ดเอดิชั่น Excalibur Skeleton Double Flying Tourbillon ซึ่งจะผลิตขึ้นเพียง 88 เรือนด้วย นับเป็นการเติมความขลังให้กับนาฬิกานักรบคอลเลคชั่นนี้ได้เป็นอย่างดี
Excalibur Automatic
ตัวเรือนพิงค์โกลด์ขนาด 42 มิลลิเมตร หน้าปัดสีเงินขัดซาตินปัดลายซันเรย์ ใช้หลักชั่วโมงเลขโรมันขนาดใหญ่ตามสไตล์ของแบรนด์ เข็มชั่วโมงกับนาทีทรงดอฟีน มีเคาน์เตอร์วินาทีขนาดใหญ่อยู่ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ติดตั้งหลักชั่วโมงพิงค์โกลด์ทรงเหลี่ยมบนวงนาทีตรงขอบหน้าปัด เข็มพิงค์โกลด์ ทำงานด้วยเครื่องอัตโนมัติอินเฮ้าส์ Calibre RD620 ที่ขึ้นลานด้วยไมโครโรเตอร์ ซึ่งมองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังกรุแซฟไฟร์คริสตัล เครื่องนี้ประกอบขึ้นด้วยชิ้นส่วนทั้งหมด 184 ชิ้น 35 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และมีกำลังสำรอง 52 ชั่วโมง มาพร้อมสายหนังจระเข้สีดำ โดยตัวเรือนพิงค์โกลด์นี้ยังมีหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์ซึ่งใช้หลักชั่วโมงสีเทาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาล และตัวเรือนสตีลหน้าปัดสีเงินพร้อมสายหนังจระเข้สีดำให้เลือกด้วย
เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ Calibre RD620 ขึ้นลานด้วยไมโครโรเตอร์ที่ใช้ใน Excalibur Automatic
Excalibur Automatic ตัวเรือนพิงค์โกลด์ หน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์ และ Excalibur Automatic ตัวเรือนสตีล
Excalibur Skeleton Double Flying Tourbillon
นาฬิกาสุดพิเศษผลิตจำกัด 88 เรือนรุ่นนี้ มาในตัวเรือนแบล็กไทเทเนียมขนาด 45 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 50 เมตร ขอบหน้าปัดสีเทาพร้อมหลักนาทีที่แทนด้วยจุดสีแดงและหลักชั่วโมงที่แทนด้วยสกรูว์สีดำซึ่งทำหน้าที่ยึดเพลทสเกเลตันชุบโรเดียมสีเทาแอนทราไซต์ขัดลายเซอร์คูล่าเกรนของเครื่องอินเฮ้าส์ไขลานดับเบิ้ลฟลายอิ้งตูร์บิยอง Calibre RD01SQ ประกอบด้วยชิ้นส่วน 319 ชิ้น มี 28 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง มาคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ
La Monegasque Collection
La Monegasque Flying Tourbillon
ปิดท้ายผลงานใหม่ปี 2012 ของ ROGER DUBUIS กันด้วยนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นรุ่นพิเศษผลิตจำกัด 188 เรือนจากคอลเลคชั่น La Monegasque ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นสำหรับผู้นิยมการเสี่ยงโชคในรุ่น Flying Tourbillon ตัวเรือนพิงค์โกลด์ขนาด 44 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 50 เมตร ที่มากับเครื่องไขลานฟลายอิ้งตูร์บิยองอินเฮ้าส์ Calibre RD540 ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วน 293 ชิ้น ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 60 ชั่วโมง ที่มองเห็นกรงตูร์บิยองได้ผ่านทางช่องบนหน้าปัด ณ ตำแหน่ง 7.30 นาฬิกา โดยมีมาตรแสดงกำลังสำรองบนพื้นสีเงินขัดลายก้นหอยอยู่ที่ตำแหน่ง 4.30 นาฬิกา เสริมความเด่นตรงส่วนกลางของหน้าปัดด้วยแผ่นสีเงินขัดซาตินปัดลายซันเรย์เจาะช่องหน้าต่างบอกวันที่ขนาดใหญ่แบบ 2 หลัก ส่วนวงขอบต่างๆ รวมถึงเข็มและตัวเลขหลักชั่วโมงเป็นพิงค์โกลด์ วงชั้นถัดมาเคลือบโรเดียมปัดลายซันเรย์และตัดขอบหลักชั่วโมงสีขาวด้วยขอบเส้นสีดำ วงของหลักชั่วโมงซึ่งเป็นชั้นถัดมาใช้สีเทาแอนทราไซต์ขัดซาตินปัดลายเซอร์คูล่าและตัดขอบช่องตัวเลขชั่วโมงโรมันด้วยเส้นสีดำ ส่วนวงนอกสุดเป็นสีขาวพร้อมแทร็คนาทีและตัวเลขสีดำ สวมใส่คู่กับสายหนังจระเข้สีดำ
By: Viracharn T.