ROGER DUBUIS Excalibur Diabolus in Machina
ROGER DUBUIS แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความพิเศษของแบรนด์ กับความมุ่งมั่นที่ท้าทายกฎเกณฑ์ จากการแสดงออกอย่างเด็ดเดี่ยวในขณะเดียวกันก็ยังคงความร่วมสมัย ซึ่งเป็นผลมาจากช่างนาฬิกาที่มีวิสัยทัศน์ ในการผสมผสานความเชี่ยวชาญอันแรงกล้า ให้กับการออกแบบและสร้างอนาคตของโลกแห่งเครื่องบอกเวลา ที่ ROGER DUBUIS นำเสนอสุนทรียศาสตร์เหล่านี้ ผ่านทักษะทางเทคนิคที่พลิกโฉมประเพณีการผลิตนาฬิกา โดยการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ออกไปในทุกทิศทาง เท่าที่ความคิดสร้างสรรค์จะสามารถเดินทางไปถึงได้
โดยในปี 2021 นี้ ROGER DUBUIS ตีความหมายใหม่ของโครงสร้างด้านความคิดเชิงวิศวกรรม พร้อมกับความคิดสร้างสรรค์ที่ฉีกกฎและกลายมาเป็นนาฬิการุ่น Excalibur Diabolus in Machina ที่มีขนาดตัวเรือน 45 มิลลิเมตร กลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติมินิทรีพีทเตอร์ตูร์บิยอง ที่ขึ้นลานด้วยไมโครโรเตอร์แบบคู่ ให้พลังสำรองลานที่นานถึง 60 ชั่วโมงพร้อมเสียงของก็องในแบบทริโทน ที่พิเศษและแตกต่างอย่างมีชั้นเชิง
กับหน้าปัดในแบบกึ่งสเกเลตัน ที่แสดงความเคลื่อนไหวทุกอย่างของกลไก ให้ปรากฏขึ้นได้บนหน้าปัด พร้อมทั้งแสดงความกลมกลืนของชุดกลไก กับโครงสร้างที่มีเส้นสายในแบบฉบับของตัวเอง ทำให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่ขึ้น แต่ยังคงความสมดุลเอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความกลมกลืนกัน ของสิ่งตรงข้ามอย่างเช่น รูปทรงเลขาคณิตกับความราบเรียบ ของเส้นสายลายมาร์กเกอร์บริเวณด้านบนของหน้าปัด ที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความน่าตื่นเต้นตลอดในทุกช่วงเวลา
จากแนวคิดของช่างนาฬิกาในอดีต ที่ต้องการให้ผู้คนรู้ได้ถึงเวลา แม้กระทั่งในเวลามืดมิด โดยกลไกระดับสูงเช่นนี้จะต้องใช้ช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์เท่านั้น จึงจะสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งนอกจากช่างนาฬิกาเหล่านี้ ต้องมีทักษะเชิงช่างในระดับสูงสุดแล้ว ยังต้องมีสุนทรียศาสตร์ด้านการดนตรีไปพร้อมๆ กันอีกด้วย เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเสียงระฆังนั้น จะเป็นเสียงในโทนตามอุดมคติ ที่จะสามารถปรับแต่งด้วยฝีมือได้ต่อไปให้สมบูรณ์แบบได้อีกด้วย
และเช่นเดียวกับเครื่องดนตรี ความซับซ้อนทางเสียงนี้เป็นส่วนสำคัญของมรดกตกทอดที่มาจาก Mr. Roger Dubuis ผู้ก่อตั้งแบรนด์ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ทายาทของเขา จะนำเสนอเวอร์ชั่นระดับสูงนี้ออกสู่ผู้คน เพื่อเป็นเกียรติแก่ปรมาจารย์ผู้ริเริ่มสรรค์สร้างกลไกในเรือนเวลาเหล่านี้ขึ้น