เผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ปี 2016 จาก PANERAI, PARMIGIANI และ RICHARD MILLE

 

ช่วงปลายปีเช่นนี้ นาฬิกาแบรนด์ต่างๆ บางแบรนด์ก็เริ่มทยอยเผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ที่จะออกวางจำหน่ายในปี 2016 กันบ้างแล้ว โดยเฉพาะแบรนด์ที่จะเข้าร่วมจัดแสดงในงาน SIHH 2016 ที่จะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2016 นี้อย่าง PANERAI, PARMIGIANI และ RICHARD MILLE ก็ได้เผยโฉมรุ่นใหม่บางรุ่นของตนมาให้ยลกันแล้ว และทางเราก็ไม่รอช้าที่จะนำมาให้ชมกัน

 

 

PANERAI RADIOMIR 1940 3 Days Automatic 42mm (PAM655) หน้าปัดสีขาว

 

 

panerai 1 940x520

 

 

และแล้ว PANERAI ก็ได้ฤกษ์นำหน้าปัดสีขาวมาใช้กับรุ่น Radiomir 1940 3 Days Automatic 42mm กันแล้ว หลังจากที่เปิดตัวนาฬิกา Radiomir 1940 3 Days Automatic ไซส์เล็กรุ่นใหม่นี้ในแบบหน้าปัดสีดำ (PAM620) ในงาน Watches & Wonders 2015 ที่ฮ่องกงซึ่งจัดขึ้นราวเดือนตุลาคม 2015 กันไปแล้ว สำหรับรุ่น PAM655 ที่เผยโฉมมาใหม่นี้น่าจะเป็น PAM รุ่นที่ถูกใจสาวๆ เป็นพิเศษเพราะนอกจากจะใช้ตัวเรือนสตีลขนาด 42 มม. กันน้ำได้ระดับ 100 เมตร ซึ่งถือว่าขนาดไม่ใหญ่เกินไปแล้ว หน้าปัดสีขาวพร้อมหลักชั่วโมงเลขอารบิกอย่างนี้ก็น่าจะถูกจริตกับสาวๆ จำนวนมาก เช่นเดียวกับ PAM เรือนเล็กหน้าปัดขาวรุ่นก่อนๆ ที่ยังคงเป็นที่นิยมของสาวๆ อยู่เสมอ ส่วนสำหรับหนุ่มๆ ที่ไม่ต้องการนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็สามารถเลือกใส่รุ่นนี้แทนรุ่นตัวเรือน 45 มม. ได้ แต่จะเลือกหน้าปัดสีขาวหรือสีดำก็คงต้องแล้วแต่ความชื่นชอบส่วนตัวเพราะก็ดูดีไปคนละแบบ

 

 

panerai 21

 

 

นาฬิกาหน้าปัดสีขาวรุ่นใหม่นี้ใช้กลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์ P.4000 กำลังสำรอง 3 วัน ซึ่งเป็นผลงานการผลิตของโรงงาน PANERAI เอง ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ขนาดเล็กที่จัดวางตำแหน่งเยื้องศูนย์กลางซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลัง แสดงชั่วโมงกับนาทีด้วยเข็มกลางสีดำ และแสดงวินาทีด้วยเข็มสีดำขนาดเล็ก ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา พิมพ์หลักชั่วโมงเลขอารบิกสีดำที่เน้นตำแหน่งหลัก 12, 3, 6 นาฬิกาให้มีขนาดใหญ่กว่าหลักชั่วโมงอื่นๆ ล้อมวงนอกสุดด้วยสเกลนาทีสีดำร่วมกับจุดหลักชั่วโมงเม็ดกลม แตกต่างจากรุ่นหน้าปัดสีดำที่มากับมาร์กเกอร์แบบขีดร่วมกับหลักชั่วโมงอารบิก ส่วนสารเรืองแสงบนจุดหลักชั่วโมงและเข็มทั้งสามนั้นใช้เป็นสีเบจที่ให้อารมณ์วินเทจได้ดี สวมคู่กับสายหนังผิวเรียบโทนสีน้ำตาลเดินตะเข็บด้ายสีเบจ

 

 

PARMIGIANI Tonda Métrographe หน้าปัดสีน้ำเงิน

 

PARMIGIANI เพิ่มเติมเวอร์ชั่นใหม่ให้กับนาฬิกาสไตล์สปอร์ตหรู Tonda Métrographe โดยคราวนี้มากับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินในเฉดที่เรียกว่า อะบิสส์ บลู (Abyss Blue) โดยเป็นการชุบสีหน้าปัดโลหะด้วยไฟฟ้า เสริมความโดดเด่นด้วยหลักชั่วโมงเคลือบโรเดียมติดตั้งบนพื้นหน้าปัดวงนอกที่เป็นลายสเนลด์ ขณะที่หน้าปัดวงในจะเป็นผิวโอปอลีน และยังคงมาพร้อมกับรูปแบบวงแหวนหน้าปัดจับเวลาชั่วโมงกับนาทีขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกันเป็นลักษณะของเลข 8 ซึ่งรุ่นนี้เด่นชัดด้วยการใช้พื้นวงแหวนโทนสีขาวสว่าง ส่วนวงหน้าปัดขนาดเล็กแสดงวินาทีนั้นเป็นวงบนพื้นสีน้ำเงินกลมกลืนกับพื้นหน้าปัดหลัก โดยยังคงแสดงชั่วโมงกับนาทีด้วยเข็มสีเงินที่เป็นรูปทรงเดลต้าเคลือบสารเรืองแสงตามแบบฉบับของแบรนด์ ส่วนการแสดงวันที่นั้นจะใช้ตัวเลขสีดำบนพื้นสีขาวแสดงผ่านช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ที่วางตำแหน่งกลมกลืนอยู่ในวงหน้าปัดจับเวลาชั่วโมง โดยจะมีทั้งเวอร์ชั่นสายสตีลขัดเงาสลับขัดด้านดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ และเวอร์ชั่นสายหนังผิวเรียบสีน้ำเงินเฉดเดียวกับหน้าปัดให้เลือกเป็นเจ้าของกัน

 

 

parmigiani

 

 

ด้านกลไกที่ใช้นั้นยังคงเป็น Calibre PF315 กลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์พร้อมฟังก์ชั่นโครโนกราฟ จับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง ให้กำลังสำรองได้ 42 ชั่วโมง เช่นเดียวกับ Tonda Métrographeเวอร์ชั่นอื่นๆ

 

 

RICHARD MILLE RM 67-01 Extra Flat ตอนโนเรือนบาง

 

RICHARD MILLE ตัดสินใจตามกระแสนาฬิกาเรือนบาง ที่กลับมาเป็นที่นิยมกันอีกครั้งในยุคนี้ด้วยการออกแบบตัวเรือนทรงตอนโนของตนให้มีความบางกว่าที่เคย โดยจำแลงนาฬิการุ่น RM010 Automatic มาเป็นนาฬิกาเรือนบาง และใช้ชื่อรุ่นว่า RM67-01 Extra Flat

 

 

richard mille 1

 

 

หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้มาในแบบโครงสเกเลตันดีไซน์ลายเส้นรางทำจากไทเทเนี่ยมติดตั้งบนตัวกลไกอัตโนมัติ CRMA6 ที่มีความหนาเพียง 3.6 มม. หลักชั่วโมงโลหะทำเป็นเลขอารบิกฟอนต์เหลี่ยมตามสไตล์ของ RICHARD MILLE เคลือบด้วยสารเรืองแสง แต่จุดแปลกตาก็คือ ตำแหน่ง 5 นาฬิกา ที่ไม่ได้เป็นเลข 5 แต่กลายเป็นกรอบหน้าต่างทรงเหลี่ยมแนวตั้งสำหรับแสดงตัวเลขวันที่แบบแนวตั้งซึ่งชวนมองเป็นอย่างยิ่ง โดยหลักชั่วโมงและกรอบหน้าต่างนี้จะถูกติดตั้งลงบนโครงสเกเลตัน และกลไกนี้ยังมาพร้อมเข็ม ณ ตำแหน่งระหว่าง 2-3 นาฬิกา ซึ่งจะเป็นการแสดงตำแหน่งการใช้งานของเม็ดมะยมระหว่าง ขึ้นลาน (W), ปรับวันที่ (D) และปรับตั้งเวลา (H) ให้ทราบด้วย

 

By: Viracharn T.