RICHARD MILLE RM11-04 Roberto Mancini
Roberto Mancini เป็นหนึ่งในผู้ใกล้ชิดกับ Mr. Richard Mille มาตั้งแต่ปี 2013 เขาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลแห่งชาติอิตาลี และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทีมในหลายครั้ง และนั่นก็ทำให้นาฬิการุ่น RM11-04 นี้มีธีมสีสันของ Squadra Azzurra ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลแห่งชาติของอิตาลี
Roberto Mancini มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาฬิการุ่นนี้ ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 กับรหัสรุ่น RM11-01 ซึ่งเกิดจากบทสนทนาระหว่างผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวอิตาลีและ Mr. Richard Mille เกี่ยวกับวิธีจัดการกับปัญหาที่โค้ชเผชิญเมื่ออยู่ในสนาม ว่าเวลาการเล่นในแม็ทช์นั้นๆ ยังเหลืออยู่อีกเท่าไหร่ เพราะเวลาจะเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ที่ทีมจะมี รวมทั้งเป็นความจริงเชิงปริมาณในการตัดสินใจด้านกลยุทธ์ที่จะใช้ในเวลานั้นๆ พร้อมทั้งยังสามารถสร้างความเครียดให้กับทั้งทีมได้อย่างมาก ในสนามการแข่งขันของเกมส์กีฬาชนิดนี้ไปพร้อมกันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Mr. Richard Mille ก็ได้สร้างนาฬิกาตามแนวคิดการจับเวลารูปแบบกลไก สำหรับการเฝ้าติดตามช่วงครึ่งเวลาการแข่งขัน ช่วงต่อเวลา และช่วงทดเวลา ซึ่งได้กลไกแบบฟลายแบ็คมาผนวกใช้ และทำให้นาฬิการุ่น RM11 ที่มีความโดดเด่นอยู่แล้ว ยิ่งโดดเด่นยิ่งขึ้นจากฟังก์ชั่นนี้ ทั้งยังส่งผลทำให้ Mr. Roberto Mancini สามารถคำนวณค่าเวลาต่างๆ ในสนามการแข่งขันแม็ทช์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
นาฬิกาเรือนนี้มีตัวเรือนผลิตจากคาร์บอน TPT® ที่มีเฉดออกเป็นสีดำพร้อมลายในตัววัสดุ พร้อมตัดกับความแรงของสีประจำทีม Squadra Azzura ที่เป็นเฉดสีน้ำเงิน/ฟ้า ทั้งสาย ขอบเม็ดมะยม และขอบตัวเรือนด้านใน ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์โครโนกราฟอัตโนมัติคาลิเบอร์ RMAC3 แบบสเกเลตันความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง แสดงค่าชั่วโมง นาที วินาที บิ๊กเดท เดือน ค่าการจับเวลาพร้อมกลไกฟลายแบ็ค สำรองพลังงานนาน 55 ชั่วโมง (+/-10) หรือ 45 ชั่วโมงขณะใช้งานการจับเวลา
ความโดดเด่นของนาฬิกาเรือนนี้อีกส่วนหนึ่งมาจากความเบา ทั้งจากตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอน TPT® แท่นกลไกและบริจด์ที่ผลิตจากไทเทเนียมเกรด 5 และชิ้นส่วนต่างๆ ที่โดยรวมจะผลิตจากอัลลอยที่มีส่วนผสมกว่า 90% เป็นไทเทเนียมเกรด 5 เช่นกัน ผสมกับ 6% ของอลูมินัม และ 4% ของวานาเดียม ซึ่งแทบทั้งหมดจะเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติเบา แต่แข็งแกร่งที่ยากจะหาวัสดุใดที่จะมีคุณสมบัติเทียบเท่าความเบาและแข็งแกร่งได้เช่นเดียวกันนี้ โดยวัสดุลักษณะนี้มักจะใช้สำหรับอุปกรณ์ในยานอวกาศเท่านั้น