First RADO Boutique in Thailand

เพื่อเอาใจเหล่าคนรักนาฬิกาและนักสะสม ให้มีโอกาสได้เลือกสรรเรือนเวลาหรูสัญชาติสวิส ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี อันลํ้าสมัยเข้ากับดีไซน์ที่งดงาม รวมถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้วัสดุอย่าง “ไฮเทค เซรามิค” RADO จึงเปิดตัวบูติคนาฬิกาแห่งแรกในประเทศไทย อย่างเป็นทางการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ ด้วยคอนเซ็ปท์การตกแต่งร้านที่เน้นความสง่างามไร้กาลเวลา เพื่อนำเสนอสุดยอดเรือนเวลาของ RADO กว่า 250 รุ่นให้ชาวเชียงใหม่ได้เลือกสรรกันอย่างครบครัน

 

Rado ศนยการคา เซนทรล เชยงใหม 4

 

กับเชียงใหม่ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก ที่นับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยว และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเชียงใหม่ จะเป็นเมืองที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับ RADO จากการที่แบรนด์มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ ในนาฬิกาที่มีดีไซน์ทันสมัยเสมอมา พร้อมความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ ที่บุกเบิกนวัตกรรมทางด้านเซรามิค พร้อมการตกแต่งในสไตล์หรูหรา สวยงาม ไร้กาลเวลา

 

Rado ศนยการคา เซนทรล เชยงใหม 3

 

และสร้างประสบการณ์ในการเลือกชม นาฬิกาอย่างเหนือระดับให้กับทุกคน นอกจากนี้เนื่องในโอกาสการฉลองเปิดตัวบูติคแห่งนี้ RADO จึงภูมิใจนำเสนอนาฬิการุ่นไอคอนิคอย่าง Anatom ใน Ref. R10204712 ซึ่งเป็นนาฬิกายอดนิยมพร้อมการประดับเพชร พร้อมความพิเศษของนาฬิการุ่นพิเศษนี้ โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกและวางจำหน่ายเฉพาะที่บูติคแห่งนี้ เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ณ บูติคนาฬิกา RADO แห่งแรกในประเทศไทยที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ด้วยขนาดพื้นที่ 75 ตารางเมตร

 

Rado ศนยการคา เซนทรล เชยงใหม 2

 

พร้อมการออกแบบให้มีความโปร่งและโล่งสบาย ผนวกเข้ากับการตกแต่งที่หรูหรา สง่างาม และไร้กาลเวลา โดยเน้นลายเส้นที่ดูเรียบง่ายและสะอาดตากับพื้นผิวที่แวววาว นอกจากนี้ยังมีการใช้สีบรอนซ์ ในโทนอบอุ่นช่วงบริเวณบานประตู พร้อมมีการจัดแสงไฟให้ส่องสว่างอย่างละมุนสายตา เพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศที่จะสร้างประสบการณ์ ในการเลือกสรรเรือนเวลาได้อย่างผ่อนคลายและเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับ ผนังแบบอินเตอร์แอคทีฟที่จะช่วยให้สามารถ

 

Centrix Open Heart Super Jubilé 3

 

ได้สัมผัสกับวัสดุอันเลื่องชื่ออย่าง “ไฮเทค เซรามิค” ที่เป็นเอกลักษณ์ของ RADO ได้อย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส และค้นพบความหลากหลายของสีสันที่มีให้เลือกอย่างเต็มที่ ส่วนบริเวณด้านหลังจะมีเลาจ์นอันแสนอบอุ่น ที่จะมอบบรรยากาศเป็นกันเอง โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการจัดแสดงนาฬิการุ่น Anatom ใหม่ จากนาฬิการุ่นไอคอนิกที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1983 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของดีไซน์ อันสุดล้ำที่เขย่าวงการพร้อมการสวมใส่ที่สบายที่สุด

 

Captain Cook 4

 

ซึ่งกลับมาอีกครั้งในดีไซน์อันโดดเด่นและสะดุดตา ด้วยเอกลักษณ์ของกระจกแซฟไฟร์ ที่ผ่านการเคลือบโลหะทรงกระบอกที่ทำมุมเอียงทั้งสองด้าน และเชื่อมตัวเรือนเข้ากับสายไฮเทคเซรามิคได้อย่างแนบเนียน ทำให้เกิดรูปทรงที่กลมกลืนและสอดผสานตัวเรือน เข้ากับสายได้อย่างแยบยลพร้อมการประดับเพชรแบบฟูลคัทในระดับ Top Wesselton จำนวน 162 เม็ดโดยมีบานพับล็อค 3 ทบที่ผลิตจากสตีลแบบปัดเงาอย่างพิถีพิถัน ส่วนหน้าปัดจะผ่านการเคลือบแลคเกอร์ในโทนสีดำ

 

Anatom รน R10204712 2

 

ที่เผยให้เห็นมาร์กเกอร์แสดงค่าเวลาได้อย่างชัดเจน ผนวกกับการประดับเพชรฟูลคัทในระดับTop Wesselton อีก 3 เม็ดและเข็มนาฬิกาที่ผ่านการเคลือบโรเดียม และสารเรืองแสงซุปเปอร์-ลูมิโนว่า®สีขาว ที่ดูตัดกับความลุ่มลึกของหน้าปัดได้อย่างเจิดจรัส โดยมีรูปสมอที่สามารถเคลื่อนที่ได้ อันเป็นเอกลักษณ์ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา พร้อมเสริมความงดงามด้วยหน้าต่างแสดงค่าวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มาพร้อมการทำงานของกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ R766 ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

Captain Cook 5

 

ผ่านทางฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ ที่กรุอยู่บนฝาหลังนาฬิกา จากการผ่านการทดสอบในห้าตำแหน่ง อย่างละเอียดและมาพร้อมชุดแฮร์สปริงนิวาครอง (Nivachron™) ที่มาพร้อมคุณสมบัติในด้านการแสดงค่าเวลาอย่างแม่นยำ เพื่อให้พลังสำรองลานได้อย่างยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่น ที่จะรังสรรค์นาฬิกาที่สมบูรณ์แบบสำหรับ RADO ไม่ใช่เพียงแค่ความงามภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นความงามภายในพร้อมกับความสามารถ ในการแสดงค่าเวลาได้อย่างเที่ยงตรงอีกด้วย