The Review of RADO Captain Cook Automatic Bronze
RADO แบรนด์นาฬิกาที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ ที่มีแนวทางในการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาจากแบบดั้งเดิมสู่ยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นผู้นำในด้านการผลิตนาฬิกา ด้วยการนำเอาทั้งไฮเทคเซรามิค ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ทั้งยังมีสีสันที่สดใส รวมไปถึงวัสดุพิเศษอย่างเซรามอสTM มาใช้ก่อนใคร
นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นเรื่องการออกแบบที่ RADO เป็นผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำมาโดยตลอด ทั้งในเรื่องการสร้างมาตรฐานและการยกระดับมาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ที่รับประกันด้วยรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติมากมาย ในอุตสาหกรรมของโลกนาฬิกาในยุคปัจจุบัน
อย่างเช่นนาฬิกา RADO รุ่น Captain Cook Automatic Bronze ที่มาจากผลงานดีไซน์แบบดั้งเดิมจากปี 1962 ที่ถูกนำมาชุบชีวิตใหม่อีกครั้ง และได้รับการพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับศตวรรษที่ 21 ด้วยรายละเอียดสไตล์วินเทจพร้อมรูปแบบที่ถ่ายทอดจากนาฬิการุ่นดั้งเดิมมาอย่างครบถ้วน
ด้วยคุณลักษณะที่ทันสมัยเพื่อให้เหมาะกับผู้สวมใส่ในยุคปัจจุบัน นาฬิการุ่น Captain Cook จึงถือเป็นนาฬิกาที่ออกแบบมา เพื่อมอบความสวยงามสไตล์คลาสสิคที่อยู่เหนือกาลเวลา โดยนาฬิกาในซีรี่ส์นี้มีตัวเรือนที่ผลิตจากบรองซ์ ที่ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวสำหรับยุคอดีตและปัจจุบัน
ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร หนา 12.5 มิลลิเมตร พร้อมความสามารถในการกันน้ำที่ 300 เมตร จากเม็ดมะยมและฝาหลังแบบขันเกลียว โดยมีกระจกแซฟไฟร์ที่ผ่านการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนไว้ ประกอบกับขอบเบเซิลบรองซ์ผนวกกับไฮเทคเซรามิคสีน้ำเงิน
กับกลไกอัตโนมัติ แสดงเวลาชั่วโมง นาที และวันที่แบบหน้าต่าง ให้พลังสำรองลานนาน 80 ชั่วโมง เข้าคู่กันกับสายหนังที่มีรูปแบบการเย็บด้วยด้ายสีขาวสไตล์วินเทจ และหัวเข็มขัดที่ผลิตจากบรองซ์เข้าคู่กันกับตัวเรือน พร้อมกับปุ่มปลดสายออกจากตัวเรือน เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนสาย
จากการทดลองใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไม่ต่อเนื่องในทุกวัน ทุกๆ วันที่ใช้จะรู้สึกได้ถึงความสะดวกสบาย อย่างที่ไม่อาจจะได้จากนาฬิกาทุกเรือน สายหนังและตัวเรือนมีผิวสัมผัสกับข้อมือที่ดี ไม่รู้สึกระคายเคืองแต่อย่างใด นอกจากนี้วัสดุบรองซ์ยังมีขั้นตอนการผลิต ที่ทำให้ไม่เกิดกลิ่นตามปกติของวัสดุชนิดนี้
หน้าปัดมีรายละเอียดที่ดีตามสไตล์ของนาฬิการุ่น Captain Cook ในแบบนูนบริเวณกลางหน้าปัด เพื่อยกทำให้จุดกึ่งกลางของหน้าปัดดูโดดเด่น พร้อมมาร์กเกอร์และเข็มทั้งสามขนาดใหญ่ที่เห็นได้เด่นชัด รวมทั้งฟอนท์ RADO และ Captain Cook 300m / 1000ft ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความวินเทจ
นอกจากนี้ยังมีวงขอบแทร็ควินาทีด้านในหน้าปัด ที่ช่วยเติมให้รอบนอกหน้าปัดมองดูเต็ม รวมทั้งไม่ทำให้นาฬิกาในขนาด 42 มิลลิเมตรดูมีขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่นิยมนาฬิกาในขนาดที่กำลังพอดีกับข้อมือคนเอเชีย แม้จะมีขอบเบเซิลที่ดูจะมีขนาดใหญ่รวมกันอยู่ด้วยก็ตาม
ท้ายสุดคือจุดเด่นที่ยังคงมีอยู่มาโดยตลอด นั่นคือตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ RADO รูปสมอ ที่ฝังตัวอยู่ในเบ้าซึ่งฝังลึกลงไปถึงชุดกลไก ที่แสดงถึงประสิทธิภาพการทำงานของกลไกในช่วงเวลานั้นๆ ว่าต้องการขั้นตอนการล้างชุดกลไกเมื่อไหร่ ซึ่งถ้ายังหมุนได้คล่องอยู่ก็แสดงถึงกลไกที่ยังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
RADO Captain Cook Automatic Bronze ถือเป็นอีกหนึ่งในความประทับใจเมื่อผ่านการใช้งานจริง และถือเป็นการพลิกความคาดหมายที่มีมาแต่ก่อน ทั้งยังถือว่าเป็นนาฬิกาในรูปแบบที่ครบถ้วน ทั้งสไตล์แบบดั้งเดิม ผนวกกับการปรับปรุงให้สามารถใช้งานในยุคปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม
ทั้งยังสามารถใช้งานได้ง่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงสไตล์การแต่งตัวแบบเรียบหรู แต่จะเหมาะที่สุดกับการแต่งตัวในแบบไม่เป็นทางการนัก รวมทั้งสีสันของตัวเรือนที่แม้จะออกเป็นสีทอง แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกด้านความหรูหรามากนัก แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยสไตล์ลุควินเทจมากกว่า