House of Gold

เพื่อเติมเต็มทั้งจิตวิญญาณ ความอบอุ่น และความรู้สึกเย้ายวนใจให้กับชิ้นส่วนแต่ละชิ้น ด้วยปรัชญาที่หล่อหลอมจิตวิญญาณของ PIAGET มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1874 สู่การสานต่อมรดกชิ้นสำคัญ หรือที่รู้จักกันในชื่อ House of Gold กับแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องทักษะการทำทองด้วยมือ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1950 จากแหล่งบ่มเพาะเหล่าช่างฝีมือชั้นเลิศ ที่สะท้อนถึงสายสัมพันธ์มากมายระหว่าง PIAGET และ ทองคำที่เชื่อมโยงกันมาอย่างยาวนาน ทั้งในอุตสาหกรรมนาฬิกาไปจนถึงจิวเวลรี่

และเพื่อฉลองสายสัมพันธ์เหนือกาลเวลานี้ PIAGET จึงเตรียมเผยเรื่องราวบทใหม่ของPossession อีกครั้งด้วยแนวคิดที่ว่า สำหรับ PIAGET แล้ว "ทองคำ" ถือเป็นมากกว่าวัสดุ แต่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ที่ย้อนกลับไปได้ในปี 1957 หลังจากที่ PIAGET ได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการปฏิวัติเรือนเวลา ด้วยการเปิดตัวกลไกคาลิเบอร์ 9P พร้อมดีไซน์อันบางเฉียบได้สำเร็จ ก็พร้อมริเริ่มบรรทัดฐานใหม่ในการสร้างสรรค์อีกครั้ง ในช่วงที่โลกกำลังก้าวสู่ทศวรรษ 1960 ด้วยการผสานศาสตร์แห่งเรือนเวลา

ให้เข้ากับเครื่องประดับชั้นสูง โดยมีทองคำเป็นหัวใจหลักในการนำเสนอ จากวิสัยทัศน์ที่ไม่ตามใครสู่นาฬิกาสไตล์จิวเวลรี่เรือนแรก ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในปี 1963 ก่อนพัฒนาต่อยอดด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่นแห่งศตวรรษที่ 21 ที่เต็มไปด้วยความล้ำสมัยที่ BASEL Fair ในปี 1969 ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาทรงกำไล ไปจนถึงนาฬิกาที่มาในดีไซน์สร้อยเส้นยาว ซึ่งล้วนถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ PIAGET และอุตสาหกรรมเรือนเวลา ในขณะที่คอลเลคชั่น Possession ไฟน์จิวเวลรี่คอลเลคชั่นแรกจาก PIAGET

ที่เปิดตัวในปี 1990 กับดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกวัน โดยทุกสไตล์มาพร้อมซิกเนเจอร์ของวงแหวนหมุนได้ ที่ทำให้ปลดปล่อยความคิดไปได้อย่างอิสระ และสนุกไปกับทุกจังหวะของชีวิต ทั้งยังแฝงความสง่างามตามแบบฉบับของ PIAGET เอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม เพราะ Possession ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ แต่เปรียบเสมือนเครื่องรางติดตัว ที่เปี่ยมไปด้วยสัญลักษณ์และความหมาย ซึ่งดีไซน์ในแต่ละซีรีส์ แม้จะผ่านการตีความด้วยจิตวิญญาณร่วมสมัย แต่ยังคงรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น

ถ่ายทอดมุมมองผ่านจี้ สร้อยข้อมือ และต่างหู ที่แต่ละชิ้นแม้จะดูเรียบง่าย แต่กลับสะท้อนความเป็นตัวเองได้หลากสไตล์ที่โดดเด่น อีกทั้งยังมอบอิสระให้กับผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะใส่แบบเลเยอร์หลายไอเท็มเข้าด้วยกัน หรือเลือกใส่แบบเดี่ยวๆ ขณะที่มรดกสำคัญของแบรนด์อย่างศาสตร์แห่งการทำทองด้วยมือ ก็ถูกหยิบมาสอดแทรกลงบนชิ้นงานอย่างพิถีพิถัน ซึ่งรวมไปถึงความเชี่ยวชาญในการฝังอัญมณี ไม่ว่าจะเป็นเพชรหรืออัญมณีหลากชนิดในเฉดสีรุ้ง หรือการคอนทราสต์กับหินสีล้ำค่าซึ่งหนึ่งในเทคนิค

ของการทำทองที่โดดเด่นที่สุดก็คือ การสร้างลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยหัตถศิลป์เก่าแก่ที่อยู่คู่แบรนด์มาตั้งแต่ปี 1961 และได้แรงบันดาลใจมาจากการแกะสลักแบบกิโยเช่ ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมนาฬิกา เพื่อเปลี่ยนทองคำให้เป็นดั่งศิลปะบนผืนผ้าใบ ที่เต็มไปด้วยความวิจิตรที่แต่ละเส้นสาย จะสะท้อนถึงห้วงอารมณ์และลายเซ็นของช่างฝีมือ ที่บรรจงสร้างสรรค์ไว้ได้เป็นอย่างดี จากเทคนิคที่ถูกนำมาใช้กับคอลเลคชั่น Possession ครั้งแรกในปี 2022 และยังคงเป็นหัวใจหลักในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน

ที่ในปี 2025 นี้จะมาพร้อมการตีความใหม่ กับดีไซน์ทรงกลมแบนอันสง่างาม ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปทรงที่สะท้อนถึงรากเหง้าของ PIAGET ทางด้านเรือนเวลาได้อย่างน่าสนใจ และมีให้เลือกทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ที่ปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผลงานการสร้างสรรค์อันทรงเสน่ห์เหล่านี้ เปรียบดั่งสัญลักษณ์แห่งความเจิดจรัส ความรู้สึกอันลึกซึ้ง และความกล้าที่จะเป็นตัวเองในแบบไม่ตามใคร ซึ่งนับเป็นการเปิดบทใหม่ที่หาญกล้า ทั้งยังสะท้อนถึงตำนานที่ไม่เคยหยุดนิ่งของแบรนด์อีกด้วย



