Sixtie by PIAGET

PIAGET เผยโฉมนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ในตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่มีดีไซน์สะท้อนถึงความกล้าหาญในการนำเสนอ ทั้งยังเป็นผลงานที่ย้อนกลับ สู่รากเหง้าของเมซงได้อย่างไร้ที่ติกับ Sixtie เรือนเวลาที่เปี่ยมด้วยความท้าทายและล้ำสมัย เพื่อถ่ายทอดแนวคิดของเมซงในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ที่มุ่งมั่นในการทลายขีดจำกัด และธรรมเนียมการผลิตนาฬิกาแบบเดิมๆ สู่นิยามใหม่ของเรือนเวลาที่ไม่มีใครเทียบได้ จากปี 1969 ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของทั้งแบรนด์และอุตสาหกรรมนาฬิกาโลก
 

Screenshot 2568 04 21 at 12.51.54

 

เมื่อเมซงเดินตามปรัญญา “Do what has never been done before” ที่ยึดถืออย่างแน่วแน่ ด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่นแห่งศตวรรษที่ 21 อันเต็มไปด้วยความล้ำสมัยที่งานนาฬิกาในบาเซิล โดนผลงานการออกแบบที่น่าตื่นตาในครั้งนั้น ได้กลายเป็นบรรทัดฐานในการสร้างสรรค์เรือนเวลา ที่หล่อหลอมชั้นเชิงงานศิลป์ของจิวเวลรี่ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้การนำของ Valentin Piaget หลานชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์ ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์และเข้าใจ ถึงความเปลี่ยนแปลงของแนวคิดทางสังคมและวัฒนธรรมยุคใหม่

 

Screenshot 2568 04 21 at 12.36.22

 

ทั้งยังเป็นผู้คิดค้นกลไกที่สร้างชื่อให้เมซงจนถึงทุกวันนี้ โดยทำงานร่วมกับ Jean-Claude Gueit นักออกแบบนาฬิการุ่นบุกเบิกแห่งยุค เพื่อให้แต่ละชิ้นงานออกจากกรอบแนวคิดเดิมและเป็นที่น่าจดจำโดย Valentin ยังได้ส่งนักออกแบบนาฬิกาของเมซงไปยังปารีส เพื่อร่วมชมการแสดงแฟชั่นโชว์ โดยเชื่อว่าเหล่านักออกแบบจะนำเอาความคิดสร้างสรรค์ จากโลกแฟชั่นมาเป็นไอเดียในการออกแบบนาฬิกา และเครื่องประดับที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ความสำเร็จจากคอลเลคชั่นแห่งศตวรรษที่ 21

 

Screenshot 2568 04 21 at 12.35.48

 

จากจุดเริ่มต้นแห่งพลังความสร้างสรรค์ สู่การเป็นแบรนด์แนวหน้าที่ปฏิวัติ วัฒนธรรมของเรือนเวลา จนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของช่วง 60s และ 70s พร้อมทั้งทำให้ผู้คนที่คุ้นชินกับนาฬิกาที่มีตัวเรือนและหน้าปัดรูปทรงกลม ได้เข้าถึงชิ้นงานที่มีดีไซน์อย่างที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน ทั้งยังส่งมอบอิสระในการสวมใส่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาทรงกำไลไปจนถึง นาฬิกาที่มาในดีไซน์สร้อยเส้นยาว โดยรูปทรงที่สะดุดตาและสร้างความประทับใจอย่างตราตรึงคงหนีไม่พ้น Jewellery Watch ในตัวเรือนสี่เหลี่ยมคางหมู

 

Screenshot 2568 04 21 at 12.35.59

 

เพราะนอกจากจะเป็นผลงานที่ “เล่นกับรูปทรง” ได้อย่างสร้างสรรค์แล้ว ยังสะท้อนถึงความกล้าหาญในการนำเสนอ ทั้งในแง่ของนวัตกรรม ความเชี่ยวชาญ และแนวคิดอันล้ำสมัยของ “House of Gold” แห่งนี้ พร้อมทั้งยังสื่อถึงชุดทรงสี่เหลี่ยมคางหมูอันโด่งดังของ YVES SAINT LAURENT อีกด้วยโดยในเกือบอีก 60 ปีต่อมา PIAGET ก็เดินหน้าฉลองมรดกทางความคิดสร้างสรรค์ ที่สะท้อนถึงความเรืองรองช่วง 60s อีกครั้ง ด้วยการหยิบหัตถศิลป์อันเชี่ยวชาญในทุกแง่มุม มาผนวกไว้ในเรือนเวลาใหม่ล่าสุด

Screenshot 2568 04 21 at 12.36.46

 

Sixtie ที่เป็นการนำเสนอรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู อันเป็นรูปทรงที่มีบทบาทสำคัญ ในเรื่องของศิลปะและความกล้าที่จะแตกต่าง ที่เป็นการข้ามผ่านแนวคิดมาแล้วในหลายทศวรรษที่ผ่านมาที่แม้องค์ประกอบจะถูกปรับเปลี่ยนไป เพื่อให้สอดรับกับบริบทยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่เสน่ห์และรากฐานสำคัญเกี่ยวกับการเล่นกับรูปทรง ยังคงสานต่อไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมความโดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมการปรับแต่งให้มีความนุ่มนวล และสง่างามยิ่งขึ้นตามยุคสมัย

Screenshot 2568 04 21 at 12.36.32

 

พร้อมเสริมความหรูหราด้วยการใช้วัสดุทองคำ ที่สอดแทรกลงบนดีเทลแต่ละชิ้นส่วน โดยสายจะได้รับการออกแบบให้ข้อต่อ เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูเช่นเดียวกับตัวเรือน มาพร้อมคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่น และโค้งรับกับข้อมือได้อย่างไร้ที่ติ ในขณะที่ซิกเนเจอร์ดีไซน์สำคัญ ที่ปรากฏในช่วง 70s ต่างถูกหยิบมานำเสนออย่างประณีตบนขอบตัวเรือน พร้อมสะท้อนถึงจิตวิญญาณของนาฬิกา Andy Warhol ทั้งยังสื่อถึง PIAGET Society ที่หลงใหลในความทันสมัยได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยมีหน้าปัดขัดที่ตกแต่งลายซาติน

Screenshot 2568 04 21 at 12.37.30

มาพร้อมเครื่องหมายบอกชั่วโมงและเข็มนาทีทรงบาตอง ที่ผสานเข้ากับเส้นสายที่สะอาดตาของตัวเลขโรมันอย่างลงตัว โดยผลงานนาฬิกาคอลเลคชั่น Sixtie นี้ มีการนำเสนอให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งในแง่ของดีไซน์หรือวัสดุ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่างตัวเรือนสตีลประดับเพชร, ตัวเรือนสตีลผสมพิ๊งค์โกลด์ ไปจนถึงรุ่นตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์ทั้งหมด พร้อมทั้งยังมีให้เลือกทั้งแบบประดับเพชรเพิ่มความระยิบระยับ และรุ่นที่ไม่ประดับเพชรในดีไซน์เรียบหรู เพื่อให้ Sixtie เป็นตัวอย่างของเรือนเวลาที่ไร้ขีดจำกัดในวันนี้

Screenshot 2568 04 21 at 12.37.17