PANERAI at WATCHES & WONDERS 2025
PANERAI มาพร้อมความโดดเด่นในโลกของนาฬิกา ในแบบที่มีกลไกซับซ้อนระดับสูง ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค และความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดอย่างไม่ลดละ ในงาน WATCHES & WONDERS Geneva 2025 จึงมีการเผยโฉมนาฬิกาในแบบกลไกซับซ้อนระดับสูงใน 2 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการแสวงหาความเป็นเลิศ ด้านเครื่องบอกเวลาภายใต้จิตวิญญาณในแบบของชาวอิตาลี

กับนาฬิกาใน Ref. PAM01575 ที่มีราคาจำหน่ายในยุโรปที่ 78,000 ยูโร นาฬิการุ่น Luminor Perpetual Calendar GMT Platinumtech กับขนาดตัวเรือนที่ 44 มิลลิเมตรที่ผลิตจากพาเนอไรแพลทตินัมเทค (PANERAI Platinumtech™) ที่มีความแข็งเพิ่มขึ้นอีกถึง 40% และทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่าแพลทตินัมตามมาตรฐานทั่วไป พร้อมหน้าปัดที่ผลิตจากกระจกแซฟไฟร์สีน้ำเงิน อันมีความโดดเด่นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสสำหรับการอ่านค่า

ในขณะที่ฝาหลังที่กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ จะแบบเผยให้เห็นได้ถึงกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ P.4100 อันเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นจากการปรับตั้งที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าวัน วันที่ เดือน และปีอธิกสุรทินด้วยเม็ดมะยมชุดเดียว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบป้องกันแรงกระแทก ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ PANERAIเพื่อทำให้แผ่นจานวันที่ในชุดกลไกมีเสถียรภาพ และช่วยให้มีความแม่นยำพร้อมความยืดหยุ่น

ในการใช้งานแม้แต่การสวมใส่ในชีวิตประจำวัน โดยระบบที่ได้รับการจดสิทธิบัตรอีกระบบหนึ่งคือชุดสปริงจีเอ็มที ที่ผ่านการออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยรูปทรงเรขาคณิต ที่โดดเด่นเพื่อกระจายแรงกดไปยังจุดสัมผัสหลายจุด เพื่อลดการสึกหรอและช่วยให้เข็มแสดงค่าเวลาจีเอ็มที สามารถเลี่อนตำแหน่งได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น รวมกันทำให้นาฬิกา PANERAI รุ่น Luminor Perpetual Calendar GMT Platinumtech ใน Ref. PAM01575 นี้มีความโดดเด่นสูงสุด

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอนาฬิการุ่น Jupiterium เพื่อเป็นการยกย่องให้กับกาลิเลโอกาลิเลอิ (Galileo Galilei) นักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ชาวอิตาลี ที่เฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของดาวบริวาร 4 ดวงที่โคจรรอบดาวพฤหัสบดีด้วยกล้องโทรทรรศน์ โดยสร้างมุมมองจากพื้นโลกเพื่อจำลองท้องฟ้าขึ้นมาใหม่ สู่นาฬิกาในรูปแบบของหอดูดาว ที่มีฟังก์ชั่นสุดพิเศษที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของนาฬิกาแบบตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะที่หายากมาก

โดยแสดงการเคลื่อนที่ "ถอยหลัง" ที่ชัดเจนของดาวเคราะห์ต่างๆ เมื่อมองจากโลก และทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความซับซ้อนทางเทคนิค และสามารถสร้างความสมจริงได้ดียิ่งขึ้น กับภาพบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มดาวต่างๆ ที่หมุนเวียนพร้อมจับภาพการเคลื่อนที่ ที่ชัดเจนของดวงดาวต่างๆ เมื่อมองจากโลก จากชิ้นส่วนที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างประณีตกว่า 1,650 ชิ้น ที่ส่วนใหญ่จะผลิตมาจากวัสดุไททาเนียมเป็นหลัก จากคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบาแต่ทนทานในระดับสูง






