OMEGA Olympic Paris 2024
OMEGA ผู้อยู่เบื้องหลังทุกสถิติในกีฬาโอลิมปิกที่น่าจดจำ เปิดภาพแคมเปญรับมหกรรมกีฬาระดับโลก Olympic Paris 2024 ที่จะเปิดฉากขึ้นที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถึง 31 ครั้ง ผ่าน 9 นักกีฬาตัวแทนของประเทศไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิก ซึ่งในครั้งนี้ล้วนสวมใส่นาฬิการุ่น Seamaster Diver 300M “Paris 2024” Special Edition ที่โดดเด่นในด้านความแม่นยำ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวตนอันล้ำค่า สีสันอันเป็นเอกลักษณ์ และช่วงเวลาพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ OMEGA ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำ และเพื่อให้คนไทยได้ร่วมส่งพลังใจ เชียร์ทัพนักกีฬาไทยที่จะไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยนักกีฬาทีมชาติไทยทั้ง 9 ท่านที่ปรากฏในแคมเปญแฟชั่นเซ็ต ซึ่งถ่ายทอดความเป็น OMEGA นี้ไม่เพียงเป็นตัวแทนในด้านความแม่นยำ และความเป็นเลิศที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของนักกีฬาทุกคน ที่มีความฝันที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งนำโดย พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทนนิส) นักกีฬาเทควันโด
กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (วิว) นักกีฬาแบดมินตัน, เดชาพล พัววรานุเคราะห์ (บาส) นักกีฬาแบดมินตัน, ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (ปอป้อ) นักกีฬาแบดมินตัน, โจนาธาน เวสตัน (โจเซฟ) นักกีฬาไคท์บอร์ด, หาญฤชัย เนตศิริ (อ๋อง) นักกีฬายิงธนูพาราลิมปิก, ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี (ลูกหมุน) นักกีฬายิงปืน, ประวัติ วะโฮรัมย์ (วัติ) นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง, และ สายสุนีย์ จ๊ะนะ (แวว) นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ ผู้เป็นตัวแทนในการถ่ายทอดความเรียบหรู ทว่าแข็งแกร่งและแม่นยำ เฉกเช่นเรือนเวลารุ่น Seamaster Diver 300M “Paris 2024” Special Edition
ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1932 ที่ OMEGA ได้นำเอาความเที่ยงตรงและความน่าเชื่อถือ เข้ามาสู่มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ และเพื่อตอกย้ำความสำเร็จ รวมทั้งต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในปี 2024 นี้ พร้อมการเปิดตัวเรือนเวลารุ่นพิเศษ ซึ่งผลิตจากสตีลและมูนไชน์โกลด์ (Moonshine™) ในโทนสีอัลลอยด์เยลโลว์โกลด์ อันเป็นเอกสิทธิ์ของ OMEGA ซึ่งช่วยมอบเฉดสีอันละเอียดอ่อน และคุณสมบัติที่ทนทานต่อการซีดจาง ซึ่งในฐานะเรือนเวลาแห่งกีฬาโอลิมปิก ทองคำจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดได้
ที่รวมถึงการตอกย้ำถึงเหรียญที่บรรดานักกีฬาต่างปรารถนา พร้อมด้วยการประทับตรา “Paris 2024” ที่เข็มแสดงเวลาวินาทีและฝาหลัง เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของมหกรรมกีฬาในครั้งนี้ โดยมาพร้อมกลไกแบบโค-แอ๊กเชียลมาสเตอร์โครโนมิเตอร์ 8800 (Co-Axial Master Chronometer 8800) ที่ได้มาตรฐานระดับสูงสุดทั้งด้านความแม่นยำ และประสิทธิภาพเพื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน โดยนาฬิกาโอลิมปิกรุ่นนี้ จะเป็นหมุดหมายของการทำหน้าที่ ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการในครั้งที่ 31 ของ OMEGA
โดยนาฬิการุ่น Seamaster Diver 300M “Paris 2024” Special Edition จะมีขนาดตัวเรือนที่42 มิลลิเมตร พร้อมให้ผู้สวมใส่สามารถสลับสาย เพื่อให้ตรงกับความต้องการได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นสายยางแบบควิ๊กเชนจ์ทั้งใน สีน้ำเงิน สีขาว หรือสีแดง โดยเฉพาะสายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะอย่างสายแบบนาโต้ Paris 2024 พร้อมด้วยประสิทธิภาพของเรือนเวลา และประสบการณ์อันยาวนานของ OMEGA กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพารา ลิมปิก ซึ่งทำหน้าที่บอกเวลาในการแข่งขันทุกประเภท ให้กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกมาแล้วกว่า 30 ครั้ง
ตั้งแต่ปี 1932 และมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นความชำนาญทางด้านการแสดงเวลา จึงมีความแม่นยำอย่างไม่ต้องสงสัย และนับเป็นดีเอ็นเอสำคัญของ OMEGA ที่ทำให้แบรนด์ทั้งโดดเด่นและแตกต่างในโลกแห่งการผลิตเรือนเวลา ซึ่งในฐานะผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ สำหรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ที่ OMEGA ได้ใช้เวลาตลอดกว่า 90 ปีในการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยี ที่สำคัญในการวัดค่าต่างๆ ระหว่างการแข่งขันไปพร้อมกับการบันทึกห้วงฝัน ของเหล่าสุดยอดนักกีฬาจากทั่วทั้งโลก