OMEGA Seamaster Diver 300M “Paris 2024” Special Edition
ภายในห้วงเวลาหนึ่งปีต่อจากนี้ โลกก็จะได้พบกับพิธีเปิดของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก PARIS2024 ซึ่งสำหรับการเริ่มต้นนับถอยหลังสู่รายการแข่งขันแห่งประวัติศาสตร์ดังกล่าว ผู้บอกเวลาประจำมหกรรมกีฬาในครั้งนี้อย่าง OMEGA จึงเผยเรือนเวลารุ่นใหม่ซึ่งสมบูรณ์แบบด้วยสัมผัสแห่งทองคำนั่นก็คือนาฬิการุ่น Seamaster Diver 300M “Paris 2024” Special Edition
และถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อยกย่องมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 โดยนาฬิการุ่นนี้คือหมุดหมายของการทำหน้าที่ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการครั้งที่ 31 ของ OMEGA ที่เป็นบทบาทที่ได้ทำหน้าที่มาตั้งแต่ปี 1932 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยนาฬิกาในขนาด 42 มิลลิเมตรรุ่นใหม่นี้จะวางจำหน่ายเพียงที่บูติคนาฬิกา OMEGA ในปารีสซึ่งเป็นเมืองเจ้าภาพการจัดการแข่งขัน
ผลิตจากสตีลและมูนไชน์โกลด์ (Moonshine™ 18K) ซึ่งเป็นอัลลอยด์เยลโลว์โกลด์ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ OMEGA ที่มอบเฉดสีอันละเอียดอ่อนและคุณสมบัติที่ทนทานต่อการซีดจาง ในฐานะเรือนเวลาแห่งกีฬาโอลิมปิกที่ซึ่งทองคำเป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดได้ และยังมีความหมายถึงเหรียญที่บรรดานักกีฬาต่างปรารถนา โดยทองคำถูกนำเสนออย่างโดดเด่นในส่วนของขอบเบเซิล
ที่ตกแต่งด้วยสเกลดำน้ำยกนูนซึ่งผลิตด้วยกรรมวิธีเลเซอร์และด็อทที่บรรจุสารเรืองแสงซุปเปอร์-ลูมิโนว่าณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาโดยมีหน้าปัดที่ถูกสลักด้วยเลเซอร์เพื่อช่วยเสริมรูปลักษณ์ที่ชวนสะกดสายตา และผลิตจากเซรามิคสีขาวที่ตกแต่งแบบด้านและมีการขัดเงาในส่วนของลวดลายคลื่นที่ยกนูนซึ่งสำหรับหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา จะใช้ตัวเลขสีดำในแบบอักษร PARIS 2024
ในขณะที่เข็มวินาทีกลางหน้าปัดก็จะประดับด้วยตรา PARIS 2024 ที่เล็กทว่าโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีฝาหลังที่ระลึกซึ่งประดับด้วยเหรียญตราของ PARIS 2024 ที่ผลิตจากมูนไชน์โกลด์ซึ่งขัดเงาตัดกับพื้นหลังที่แกะสลักด้วยเลเซอร์ ผนวกกับการเติมเต็มตรา PARIS 2024 ด้วยข้อความ “PARIS2024" และห่วงโอลิมปิกจากสตีลขัดเงาที่รายล้อมด้วยลวดลาย
ใช้งานกับสายสตีลที่มาพร้อมกับระบบควิกเชนจ์ซึ่งผู้สวมใส่จะสามารถสลับสายเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นสายยางในสีน้ำเงิน,ขาวหรือแดง แม้กระทั่งสายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะอย่างสายนาโต้ลาย PARIS 2024 พร้อมมาตรฐานระดับสูงสุดในด้านประสิทธิภาพและความเที่ยงตรงด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 8800
ซึ่งนาฬิกาทั้งเรือนต่างต้องเข้ารับการทดสอบและรับรองโดยสถาบันมาตราวิทยาสวิส (Swiss Federal Institute of Metrology, METAS) เพื่อให้นาฬิกาแต่ละเรือนสามารถแสดงค่าเวลา ได้ตรงตามระดับคุณภาพที่เข้มงวดที่สุดเท่ากันทุกเรือน ในขณะที่มหกรรมกีฬาโอลิมปิก PARIS 2024 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 26 กรกฎาคม 2024 และในฐานะผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการที่ OMEGA ได้ใช้เวลาตลอด 90 ปี
ในการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีที่สำคัญในการวัดค่าต่างๆ ระหว่างการแข่งขันไปพร้อมกับการบันทึกห้วงฝันของเหล่าสุดยอดนักกีฬาจากทั่วโลกอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในตลอดช่วงเวลากว่า 90 ปี โดย OMEGA จะรอคอยการเริ่มการแข่งขันอย่างใจจดจ่อ เพื่อจะได้ร่วมบันทึกห้วงเวลาสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้านี้
