OMEGA Speedmaster Super Racing

ไม่ว่าจะเป็นการดำดิ่งที่ทำลายสถิติความลึก ไปจนถึงการลงจอดบนดวงจันทร์ ตัวตนของ OMEGA นั้นจะพรั่งพร้อมไปด้วยความสำเร็จมากมาย แต่อย่างไรก็ตามความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในปีนี้ แท้จริงแล้วกลับมาจากสิ่งประดิษฐ์ขนาดจิ๋วเท่านั้นกับ OMEGA Speedmaster รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถปรับความเที่ยงตรงได้อย่างละเอียด ซึ่งต้องขอบคุณระบบ Spirate™ ที่มาพร้อมกับสายใยนาฬิการะดับปฏิวัติวงการ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจดสิทธิบัตร ในความสามารถด้านการปรับอัตราการแกว่งได้อย่างละเอียดยิ่งกว่าเดิม โดยกลไกที่ไม่เหมือนใครนี้ช่วยมอบความเป็นไปได้ให้กับ OMEGA เพื่อยกระดับในการลดความคลาดเคลื่อนในการแสดงเวลาให้เหลือเพียงแค่ 0/+2 วินาทีต่อวันเท่านั้น

 

OMEGA Super Racing 329.30.44.51.01.003 Face Nato

 

และเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่อยู่ในระดับสูงนี้ ทาง OMEGA จึงต้องคิดค้นจักรขึ้นใหม่ทั้งชิ้น โดยแบบถูกร่างขึ้นจากฐานข้อมูลทางเทคนิคของ SWATCH GROUP ผสานเข้ากับความเที่ยงตรง ความเสถียร และความน่าเชื่อถือของกลไกอินเฮ้าส์ของ OMEGA ที่เหนือระดับในด้านโครโนเมตริค จนได้ผลลัพท์เป็นบาลานซ์สปริง Si14 แบบใหม่ที่ช่วยให้ช่างนาฬิกา สามารถตั้งความตึงของจุดยึดสายใยนาฬิกา ผ่านกลไกการปรับแบบเยื้องศูนย์ที่อยู่บนบาลานซ์บริดจ์ ซึ่งวิธีการใหม่นี้ได้อาศัยพื้นฐานจากการออกแบบโครงสร้าง ที่ต่างเชื่อมต่อกันอย่างแม่นยำด้วยแบริ่ง ที่นับเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมถึงความตั้งใจจริงของ OMEGA ในการนำแนวคิดใหม่ๆ มาใช้และหาญกล้าผจญต่ออุปสรรคอันท้าทาย

 

01 OMEGA Super Racing 329.30.44.51.01.003 N10

 

ถนนสู่ Spirate™ ถูกปูด้วยหมุดหมายต่างๆ มากมาย: OMEGA ต้องวางเรียงก้อนอิฐแห่งเทคโนโลยีเป็นเวลายาวนานมากกว่ายี่สิบห้าปี โดยนวัตกรรมแต่ละชิ้นคือผลลัพธ์จากความดีความชอบ ของจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ OMEGA และยังนับเป็นแกนหลักที่ขาดไม่ได้ ในการสรรค์สร้างความสำเร็จครั้งล่าสุดของแบรนด์ นับตั้งแต่ปี 1999 กับระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial จนมาถึงปี 2015 กับการรับรองความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer จนต่อเนื่องมาถึงในปี 2023 นี้กับระบบ Spirate™ ที่ผลิตจากซิลิคอนเวเฟอร์ซึ่งได้จากกระบวนการผลิตภายในที่มีชื่อว่า DRIE (Deep Reactive Ion Etching) เพื่อสร้างปรากฏการณ์การปรับตั้งระดับของสายใยได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

02 OMEGA Super Racing 329.30.44.51.01.003 Small Hand

 

ซึ่งนาฬิการุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งด้วยระบบ Spirate™ ที่สามารถปรับความเที่ยงตรงแบบละเอียดคือ Speedmaster Super Racing วัสดุสตีล โดยเผยกลไกรุ่นใหม่ให้ชมผ่านฝาหลังที่กรุกระจกแซฟไฟร์ พร้อมหน้าปัดที่ถูกรายล้อมด้วยรางนาทีแบบเรซซิ่งที่ชวนมอง กับขอบเบเซิลเซรามิคสีดำที่ถูกติดตั้งด้วยสเกลทาคีมิเตอร์ อีนาเมลสีเหลืองแบบใหม่ที่ผลิตด้วยกรรมวิธี “กรองด์ เฟอ” (grand feu) ให้สีเหลืองอันโดดเด่นที่เคยปรากฏบน Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS และยังถูกใช้บนเข็มโครโนกราฟ ที่ไล่เฉดสีรวมถึงแถบสีของเข็มวินาทีย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา โดยมีหน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาที/12 ชั่วโมงตั้งอยู่ตรงข้ามกับหลักเลข 3 นาฬิกาที่ทำหน้าที่บอกโซนเวลาที่สอง กับลายรวงผึ้งบนหน้าปัด

 

07 OMEGA Super Racing 329.30.44.51.01.003 Back Movement

 

โดยสามารถทนทานต่อสนามแม่เหล็กแบบสุดขั้วได้ถึง 160,000 เก๊าส์ ซึ่งขุมกำลังนี้คือกลไกอันนำสมัยของ OMEGA Co-Axial Master Chronometer คาลิเบอร์ 9920 โดยได้รับการรับรองในระดับมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรม จากสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) และเช่นเคย หลักฐานของการรับรองดังกล่าวมาในรูปแบบบัตร METAS สีแดงโดดเด่น ซึ่งยืนยันถึงความเที่ยงตรงที่สูงถึง 0/+2 วินาทีต่อวันที่สามารถผลิตได้ระดับอุตสาหกรรมจากระบบ Spirate™ นอกจากนี้ยังมีหลักชั่วโมงทรงหัวลูกศรสีดำลบมุม ที่ขัดเงาแบบไดมอนด์บรรจุด้วยสารเรืองแสงซุปเปอร์-ลูมิโนว่าแบบใหม่ ซึ่งมอบแสงสีเหลืองพิเศษชวนประหลาดใจ ซึ่งรหัสสีนี้ยังครอบคลุมไปจนถึงข้อความ Speedmaster และ Super Racing บนหน้าปัดอีกด้วย

 

05 OMEGA Super Racing 329.30.44.51.01.003 Packaging Topshoot

 

ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกายังถูกประดับอย่างงดงาม ด้วยรายละเอียดที่ชวนให้รำลึกถึงวาระครบรอบ 10 ปีของ >15’000 GAUSS โดยเลข 10 ใช้ฟ้อนต์อักษรแบบเดียวกับคำว่า Speedmaster ซึ่งจะปรากฏหนึ่งครั้งต่อเดือนบนหน้าต่างวันที่ของนาฬิกา โดย Speedmaster Super Racing รุ่นใหม่จะมาพร้อมตัวเลือกสายสตีล และตัวเลือกสุดสปอร์ตอย่างสายนาโต้แบบไนลอนรีไซเคิล ลายแถบสีดำและสีเหลืองซึ่งอ้างอิงมาจากรหัสสีอันโดดเด่นของ Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS ที่เปิดตัวเมื่อ 10 ปีก่อน บรรจุในกล่องนาฬิกา Speedmaster ลายรวงผึ้งที่เย็บด้วยด้ายสีดำและสีเหลือง ภายในกล่องนาฬิกาแบบพิเศษที่บรรจุเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนสายนาฬิกาไว้อย่างพร้อมสรรพ

Screen Shot 2566 02 03 at 21.10.51