OMEGA ฉลองแซยิดให้กับ 3 รุ่นสำคัญของตนด้วย “THE OMEGA 1957 TRILOGY LIMITED EDITIONS”

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1957 แบรนด์นาฬิกาชื่อดังอย่าง OMEGA ได้แนะนำนาฬิการะดับโปรเฟสชั่นแนลออกสู่ตลาดถึง 3 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ Seamaster 300, Railmaster และ Speedmaster โดยทั้งสามรุ่นนี้ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของ OMEGA และอยู่ยงคงกระพันออกลูกออกหลานตามออกมาอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นคอลเลคชั่นหลักของแบรนด์มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ และก็ส่งผลให้รุ่นดั้งเดิมทั้งสามกลายเป็นนาฬิกาสุดคลาสสิกยอดปรารถนาของนักสะสมนาฬิกาด้วย

 

มาถึง ค.ศ. 2017 ซึ่งเป็นปีวาระครบ 60 อันเปรียบได้กับ ลักจั้บซีว ตามประเพณีจีน หรือที่เรียกกันว่า แซยิด ในหมู่คนไทย ทาง OMEGA จึงได้ผลิตนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับวาระมงคลนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่รุ่นดั้งเดิมทั้งสาม โดยเรียกรวมกันว่า “The OMEGA 1957 Trilogy Limited Editions” อันประกอบด้วย 1) Seamaster 300 – 60th Anniversary Limited Edition Master Chronometer 39mm, 2) Railmaster 60th Anniversary Limited Edition Master Chronometer 38 mm และ 3) Speedmaster 60th Anniversary Limited Edition 38.6 mm ซึ่งมีจำหน่ายทั้งแบบจัดชุดรวมกัน 3 รุ่นในกล่องแพ็คเกจพร้อมอุปกรณ์เสริมที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ และแบบแยกรุ่นจำหน่ายทีละเรือน โดยทั้ง 3 รุ่นจะมีรูปโฉมและขนาดเหมือนกับรุ่นดั้งเดิมสมัยปี 1957 แทบจะไม่ผิดเพี้ยน เนื่องจากทาง OMEGA ได้นำเทคโนโลยี ดิจิตอล สแกนนิ่ง เข้ามาใช้ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะสร้างนาฬิการุ่นใหม่ออกมาให้เหมือนเดิมมากที่สุด จุดแตกต่างนั้นจะมีเพียงรายละเอียดการดีไซน์บางจุด คุณภาพของวัสดุ และตัวกลไก เพื่อให้มีความทันยุคทันสมัยเหมาะกับการใช้งานในปัจจุบันสมัย

 

518

 

ทั้ง 3 รุ่น ล้วนใช้ตัวเรือนวัสดุสเตนเลสสตีลขัดเงาพร้อมหน้าปัดสีดำ เข็มทรงบรอดแอร์โรว์ และเคลือบสารเรืองแสง ซูเปอร์ลูมิโนว่า สีเบจ (ที่ให้แสงสีเขียว) บนหลักชั่วโมงกับเข็มเพื่อให้ได้อารมณ์นาฬิกาวินเทจ โดยจับคู่กับสายสเตนเลสสตีล และมีโลโก้แบบดั้งเดิมของ OMEGA อยู่ที่ตัวล็อคสายด้วย ขณะที่โลโก้บนหน้าปัดของแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเกิดจากการตั้งใจระลึกถึงลักษณะโลโก้บนหน้าปัดในสมัยทศวรรษที่ 50 ซึ่งจะมีความแตกต่างกันตามการสร้างงานของซัพพลายเออร์ผู้ผลิตหน้าปัดแต่ละรายที่ทาง OMEGA ใช้

 

 

1211

 

สำหรับจำนวนการผลิตของนาฬิกาสุดพิเศษรุ่นนี้ถูกกำหนดเอาไว้ที่รุ่นละ 3,557 เรือน โดยจะมาพร้อมกับกล่องแพ็คเกจที่ออกแบบขึ้นใหม่โดยมีแรงบันดาลใจมาจากกล่องของรุ่นดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นรูปม้าน้ำบนฝากล่อง โลโก้สมัยยุคนั้น ตลอดจากการบุผ้าสักหลาดที่มีริ้วสีแดง ทั้งยังมีการเพิ่มความพิเศษด้วยการมอบสายหนังกับสายนาโต้ พร้อมเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนสายมาให้พร้อมสรรพในกล่อง ส่วนแพ็คเกจพิเศษแบบจัดชุด 3 เรือนนั้น จะมีการผลิตขึ้นมา 557 ชุด โดยทั้ง 3 เรือนจะบรรจุอยู่ในกล่องขนาดใหญ่ที่บุด้วยผ้าสักหลาดที่มีริ้วสีแดงเช่นกัน พร้อมด้วยซองหนังสีน้ำตาลที่มีช่องใส่นาฬิกาได้ 3 เรือน สายหนัง 3 เส้น สายนาโต้ 3 เส้น และเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนสายซึ่งมีด้ามเป็นไม้ โดยทั้งหมดจะบรรจุอยู่ในกล่องไม้โอ๊คขนาดใหญ่ที่สลักภาพม้าน้ำบนฝากล่อง และมีป้ายเพลทสีทองสลักข้อความ “Trilogy 60th Anniversary” พร้อมหมายเลขประจำชุด “xxx/557” ติดตั้งอยู่บนกล่อง

 

018

 

ความแตกต่างของตัวนาฬิกานั้น หากเป็นเรือนที่จำหน่ายแบบแยกเรือนจะมีการสลักข้อความ “LIMITED EDITION” และหมายเลขประจำเรือน “xxxx / 3557” ไว้บนขอบฝาหลัง ส่วนเรือนที่จำหน่ายเป็นชุด 3 เรือน จะเพิ่มความพิเศษด้วยการประกาศข้อความ “TRILOGY” และ “หมายเลขประจำเรือน” พิมพ์ไว้บนหน้าปัดเลย ส่วนบนขอบฝาหลังจะสลักข้อความว่า “LIMITED TO 557 TIMEPIECES”

 

818

 

 

Seamaster 300 – 60th Anniversary Limited Edition Master Chronometer 39 mm

“The 1957 Trilogy” (Ref.234.10.39.20.01.001)

 

1013

 

นาฬิการุ่นนี้สร้างขึ้นโดยมี Seamaster 300 รหัส CK2913 เป็นต้นแบบ ลักษณะแบบดั้งเดิมจึงคงอยู่อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นขอบตัวเรือนอลูมิเนียมสีดำพร้อมสเกลดำน้ำ ที่หมุนได้ 2 ทิศทาง, หลักชั่วโมงรูปทรงสามเหลี่ยม 2 ขนาด ร่วมกับเลขอารบิก, สัญลักษณ์ Naїad บนเม็ดมะยมซึ่งแสดงถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมในการกันน้ำ ตลอดจนภาพม้าน้ำบนฝาหลัง ขณะที่การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไกยุคปัจจุบันรหัส 8806 ซึ่งให้ความแม่นยำสูงถึงระดับมาตรฐาน มาสเตอร์โครโนมิเตอร์ ที่มอบความมั่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพถึง 4 ปีเต็ม

024

 

ตัวเรือนสตีล ขนาด 39 มม.; ขอบตัวเรือนหมุนได้ 2 ทิศทาง ติดตั้งแผ่นวงแหวนอลูมิเนียมสีดำพร้อมสเกลนาทีสำหรับใช้ประโยชน์ในการดำน้ำ; เม็ดมะยมแบบขันเกลียว; ระดับการกันน้ำ 300 เมตร; กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนที่ด้านใน; หน้าปัดสีดำ; กลไกอัตโนมัติ โค-แอ็กเชียล รหัส 8806 รับรองความแม่นยำมาตรฐานมาสเตอร์โครโนมิเตอร์โดย METAS; ต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึงระดับ 15,000 เกาส์; สายสตีล

 

 

Railmaster 60th Anniversary Limited Edition Master Chronometer 38 mm

“The 1957 Trilogy” (Ref.220.10.38.20.01.002)

 

334

 

นาฬิการุ่นนี้งามคลาสสิกด้วยดีไซน์และคุณสมบัติที่คงคุณค่าของ Railmaster รุ่นปี 1957 เอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่เหมาะสมกับการใช้งานประจำวันเป็นที่สุด ภาพม้าน้ำบนฝาหลัง หรือตัวเรือนแบบ 2 ชั้นที่สร้างให้สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ ซึ่งเกิดจากการตั้งใจสร้างให้เป็นนาฬิกาที่ นักวิทยาศาสตร์ ช่างเทคนิค หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ การเปลี่ยนแปลงที่ทาง OMEGA ทำกับรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นดั้งเดิมก็คือ หลักชั่วโมงทรงสามเหลี่ยม 2 ขนาดที่ในรุ่นนี้ถูกทำให้ลึกขึ้นเพื่อเพิ่มความมีมิติและเป็นการเพิ่มพื้นที่ในการเคลือบสารเรืองแสง ซูเปอร์ลูมิโนว่า เพื่อให้เปล่งแสงได้สว่างยิ่งขึ้น และกลไกที่เป็นการนำเอากลไกยุคปัจจุบันรหัส 8806 ความแม่นยำระดับมาสเตอร์โครโนมิเตอร์ ที่มีความสามารถในการต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึงระดับ 15,000 เกาส์ และมีการรับประกันคุณภาพนานถึง 4 ปี มาใช้

 

717

 

ตัวเรือนสตีล ขนาด 38 มม.; ระดับการกันน้ำ 60 เมตร; กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนที่ด้านใน; หน้าปัดสีดำ; กลไกอัตโนมัติ โค-แอ็กเชียล รหัส 8806 รับรองความแม่นยำมาตรฐานมาสเตอร์โครโนมิเตอร์โดย METAS; ต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึงระดับ 15,000 เกาส์; สายสตีล

 

 

Speedmaster 60th Anniversary Limited Edition 38.6 mm

“The 1957 Trilogy” (Ref.311.10.39.30.01.001)

 

1113

 

มาถึงนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นยอดนิยมอย่าง Speedmaster กันบ้าง ต้นแบบของนาฬิการุ่นพิเศษนี้ก็คือ Speedmaster Broad Arrow ปี 1957 ซึ่งถือเป็น Speedmaster รุ่นแรกผู้เป็นนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟแบบแรกของโลกที่มาพร้อมสเกลทาคีมิเตอร์บนขอบตัวเรือนนั่นเอง โดยทาง OMEGA ตั้งใจถอดแบบมาให้เหมือนเดิมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฟอนต์ตัวเลขและตัวอักษรของสเกลทาคีมิเตอร์, กระจกหน้าปัด เฮซาไลท์ คริสตัล (เพล็กซิกลาส) หรือรูปแบบของรายละเอียดบนหน้าปัด ขณะที่กลไกจะใช้เป็นกลไกไขลานโครโนกราฟรหัส 1861

 

311.10.39.30.01.001 semi fuiteC

 

ตัวเรือนสตีล ขนาด 38.6 มม.; ระดับการกันน้ำ 60 เมตร; กระจกหน้าปัด เฮซาไลท์ คริสตัล; หน้าปัดสีดำ; กลไกไขลานโครโนกราฟ รหัส 1861 จับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง; สายสตีล

 

ตามข้อมูลจาก OMEGA แจ้งว่าจะเริ่มวางจำหน่ายนาฬิกาสุดพิเศษ 3 รุ่นนี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 เป็นต้นไป

 

By: Viracharn T.