MIDO Novelties Presentation 2023
MIDOเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่จาก 7 คอลเลคชั่นโดยมีรุ่นไฮไลท์ตั้งแต่ Multifort M Chronometer, Multifort M, Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition, Baroncelli Chronograph Moonphase, Multifort Powerwind รวมถึงนาฬิกาสำหรับคุณสุภาพสตรีOcean Star Nereaและ Commander Lady ที่ออกแบบขึ้นจากแนวคิด การสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาและร่วมสมัย พร้อมการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่ให้ความหรูหรา ทนทาน และคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน โดย Multifort M Chronometer เป็นนาฬิกาที่มีชุดกลไกที่ผ่านการรับรอง โดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Official Swiss Chronometer Testing Institute หรือ COSC)ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 ที่ให้พลังสำรองลานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริง ที่มีคุณสมบัติด้านความแม่นยำ และทนทานต่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมีการสลักคำว่า ‘Chronometer’บนหน้าปัด เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความแม่นยำที่เกินกว่าค่ามาตรฐาน
มาพร้อมรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งและดุดัน ด้วยตัวเรือนและสายสตีลที่มีความทนทานเป็นพิเศษ กับหน้าปัดทรงกลมสีเขียวที่มีการไล่ระดับบริเวณจุดกึ่งกลาง และกระจายออกไปด้านข้างกระทั่งกลายเป็นสีดำบริเวณรอบหน้าปัด และเทคนิคการขัดลายซาตินในแนวตั้งอย่างประณีต อีกทั้งยังเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา® สีเบจที่เข็มนาฬิกา และบริเวณอินเด็กซ์โดยรอบเพื่อช่วยให้อ่านค่าเวลา ได้อย่างแม่นยำเมื่อตัดกับพื้นหลังสีเข้ม พร้อมการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านบนกระจกแซฟไฟร์ ถัดมาที่ Multifort Mที่เผยโฉมพร้อมหน้าปัดขัดลายซาตินแนวตั้ง พร้อมพื้นผิวไล่ระดับจากสีน้ำเงินไปจนถึงสีดำ กับพรายน้ำเรืองแสงสีเขียวอมฟ้า และช่องแสดงวันและวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน และทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 ส่วน Ocean Star Decompression Worldtimer Special Editionนาฬิกาแบบดำน้ำที่คงเอกลักษณ์เด่นของหน้าปัดแบบดั้งเดิม มาพร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มที
และขอบเบเซิลที่แสดงเวลาทั่วโลกผ่าน 2 ดีไซน์ประสิทธิภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อทุกสภาวะ ในตัวเรือนสตีลขัดเงาที่แข็งแรงทนทาน กับหน้าปัดพื้นหลังสีน้ำเงินเข้มสลักโลโก้MIDO แบบดั้งเดิม โดยนาฬิกาเรือนนี้จะแสดงเวลาการบีบอัดของน้ำที่ระดับความลึก 6 เมตร ซึ่งบ่งบอกจากมาตรวัดวงกลมสีเหลือง สีเขียว สีชมพู และสีน้ำเงิน ที่อยู่บนหน้าปัด พร้อมขอบเบเซิลแบบหมุนได้ที่ผลิตจากวงแหวนอะลูมิเนียมสีน้ำเงิน และมีลูกศรสีแดงเพื่อระบุเขตเวลาในการเดินทาง รวมถึงเข็มชั่วโมง นาที และวินาที ที่ได้รับการสร้างเป็นทรงเหลี่ยมเพชร พร้อมเคลือบสารเรืองแสงซุปเปอร์-ลูมิโนว่า®แสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา กรุกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่อง พร้อมสายถักสตีลและสายสีน้ำเงินที่ผลิตจากยางสำหรับเปลี่ยน ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่มาพร้อมฟังก์ชันจีเอ็มที ให้พลังสำรองลานได้นาน 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำได้ในระดับสูงสุดถึง 200 เมตร พร้อมอีกหนึ่งรุ่นดีไซน์พิเศษที่มีตารางดีคอมเพรสชั่นสเกล (Decompression Scale) ไล่ระดับสีจากสีเหลืองไปสีส้ม
สำหรับ Baroncelli Chronograph Moonphaseมาในขนาดตัวเรือน 42 มิลลิเมตรพร้อมฟังก์ชันโครโนกราฟมูนเฟส ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ A05.221ให้พลังสำรองลาน 60ชั่วโมง พร้อมฝาหลังแบบเปลือย และบาลานซ์สปริงนิวาครอง™ที่มีคุณสมบัติในการต้านทานต่อสนามแม่เหล็กและแรงกระแทก มาใน 2 ดีไซน์ทั้งตัวเรือนสตีลขัดเงา หน้าปัดซันเรย์ขัดลายซาตินสีน้ำเงินเข้าคู่กับสายยางสีน้ำเงิน และตัวเรือนสตีลพีวีดีสีโรสโกล์ดที่จับคู่มากับสายยางสีดำ พร้อมการกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนสองชั้นทั้งสองด้าน ส่วนคอลเลคชั่นต่อมาคือ Multifort Powerwindนาฬิกาสไตล์วินเทจเรือนใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายความย้อนยุค ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 โดยดีไซน์หน้าปัดแบบซันเรย์ขัดลายซาตินทรงโดม ในขนาดตัวเรือน40มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยตัวเลขอารบิกที่ใช้ในการอ่านค่าเวลา พร้อมเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา®และอินเด็กซ์ทรงเหลี่ยมเพชร ในตัวเรือนสตีลขัดเงาสลับลายซาตินและกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์
ส่วนนาฬิกาสำหรับคุณสุภาพสตรีจะมีใน 2 คอลเลคชั่นด้วยกันคือ Ocean Star Nerea ที่ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80.611 ให้พลังสำรองลานนาน 80 ชั่วโมงกับตัวเรือนขนาด 36.5มิลลิเมตร พร้อมขอบเบเซิลทรงโดมแบบหมุนได้ โดยมีทั้งแบบหน้าปัดสีน้ำเงินและสีดำซันเรย์ขัดลายซาติน เคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา®ที่เข็มแสดงเวลา และตัวเรือนมีทั้งแบบที่ผลิตจากสตีลพร้อมสายสตีล และตัวเรือนสตีลพีวีดีสีโรสโกลด์ประดับเพชรแท้จำนวน11เม็ดบริเวณอินเด็กซ์ ซึ่งมาพร้อมสายยางลายคลื่นแบบเปลี่ยนได้ง่าย และ Commander Lady ที่มาในขนาดตัวเรือน 35 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 72 ที่ให้พลังสำรองลานนานถึง72ชั่วโมง ในตัวเรือนสตีลขัดลายซาตินและขอบตัวเรือนขัดเงา กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์แบบเหลี่ยมเพชร บนหน้าปัดสีอ่อนลายซันเรย์แบบทวิสต์ ที่ประดับด้วยอินเด็กซ์แบบขีดหรือแบบเพชร 11 เม็ด โดยมีอีกหนึ่งดีไซน์พิเศษกับหน้าปัดสีขาวมุกพร้อมการประดับเพชร 11 เม็ด โดยมีทั้งสายแบบสตีลและสายหนังสุดคลาสสิค