DIVE DEEP WITH NEW DIVER WATCHES FROM BASELWORLD 2013
คงปฏิเสธไม่ได้ว่านาฬิกาดำน้ำ เป็นนาฬิกาสปอร์ตรูปแบบหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกให้ความนิยมกันมากทั้งๆ ที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่ก็ไม่ได้นำนาฬิกาดำน้ำเหล่านี้ลงไปดำน้ำกันจริงจัง แต่อาจเป็นด้วยบุคลิกแกร่งๆ แข็งแรงบึกบึนของพวกมันมากกว่าที่เป็นที่ถูกใจของผู้คนทั้งหลาย ในงาน BASELWORLD 2013 เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็มีหลายแบรนด์ออกนาฬิกาไดเวอร์สำหรับดำน้ำรุ่นใหม่ๆ มาเอาใจผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาแนวนี้มากมาย ซึ่งเราก็ได้คัดสรรรุ่นที่น่าสนใจมานำเสนอให้กับทุกท่านดังต่อไปนี้ครับ
ALPINA
Extreme Diver 300 Chronograph
หลังจากที่ปีที่แล้ว ALPINA ได้ออกนาฬิกากลไกอัตโนมัติแบบ 3 เข็ม ดำน้ำได้ลึก 300 เมตร มาสู่ตลาด ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก มาปีนี้ก็ถึงคราวของเวอร์ชั่นโครโนกราฟกันบ้าง โดยยังคงมากับตัวเรือนสตีลขนาด 44 มิลลิเมตร ทรงเฉพาะตัวของ ALPINA พร้อมฝาหลังกรุกระจกใสมองเห็นโรเตอร์สีดำ หน้าปัดสีดำด้าน และมีสายยาง สายเหล็กแบบ 3 แถว หรือสายเหล็กถักแบบมิลานีส ให้เลือกเช่นเดียวกันรุ่น 3 เข็ม จุดที่แตกต่างก็คือ กลไกอัตโนมัติพร้อมแสดงวันที่ที่มีฟังก์ชั่นโครโนกราฟจับเวลา 12 ชั่วโมงเพิ่มเติมเข้ามาโดยมีเคาน์เตอร์ย่อย 2 วงซึ่งเท่ากับว่าไม่มีหน้าปัดย่อยแสดงวินาที การใช้ขอบของเข็มนาทีสีเป็นแดงสะดุดตา และการหันมาใช้แถบวงแหวนสเกลดำน้ำบนขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวแบบเคลือบพีวีดีดำแทนแบบฟิล์มสีดำ
CORUM
Admiral’s Cup AC-One 45 Chronograph Admiral’s Cup
ซีรี่ส์นาฬิกาสปอร์ตขวัญใจใครหลายคนในปีนี้ ออกนาฬิการุ่น AC-One 45 ฟังก์ชั่นโครโนกราฟมาให้ชื่นชมกันโดยมากับตัวเรือนไทเทเนี่ยมขนาด 45 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 300 เมตร ที่มากับปุ่มกดทรงเหลี่ยมและเม็ดมะยมขนาดใหญ่ซึ่งดูกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือน พร้อมขอบตัวเรือน 12 เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Admiral’s Cup โดยมีการตกแต่งในหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่แบบที่ใช้ฐานขอบตัวเรือนกับขอบฝาหลังซึ่งออกแบบให้เป็นบ่าปกป้องเม็ดมะยมไปในตัวเคลือบด้วยพีวีดีดำ-หน้าปัดสีดำลายเฉพาะตัว คู่กับสายหนังจระเข้สีดำหรือสายไทเทเนี่ยม และแบบหน้าปัดสีเทาที่มาคู่กับแบบที่ใช้ขอบตัวเรือน ฐานขอบ ปุ่มกด เม็ดมะยม และชิ้นส่วนข้างซ้ายของตัวเรือน เป็นเร้ดโกลด์ ซึ่งจะมีทั้งแบบที่ใช้ตัวเรือนไทเทเนี่ยม หรือแบบที่ตัวเรือนกับฐานขอบเป็นไทเทเนี่ยมเคลือบพีวีดีดำ โดยจะมาคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ เดินด้วยกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟจับเวลา 12 ชั่วโมงพร้อมแสดงวันที่ซึ่งมองเห็นกลไกและวงโรเตอร์ทรงกลมฉลุสเกลตันเคลือบพีวีดีดำได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์ที่กรุบนฝาหลัง
GIRARD-PERREGAUX
Sea Hawk Ceramic
GIRARD-PERREGAUX รุ่นนี้ใช้ตัวเรือนเซรามิกดำทรงสวยพร้อมขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวสีดำขนาด 44 มิลลิเมตรที่กันน้ำได้ลึก 300 เมตร โดยจัดวางเม็ดมะยมไว้ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกาพร้อมปกป้องด้วยบ่าป้องกันขนาดใหญ่ทรงแปลกตาติดตั้งเข้ากับตัวเรือนอย่างกลมกลืน มากับหน้าปัดสีดำลายรังผึ้งแบบมัลติเลเยอร์ ให้อารมณ์สปอร์ตดำทะมึนกลมกลืนกับตัวเรือนแซมความเด่นชวนมองด้วยเข็มวินาทีขนาดเล็กและเข็มกับสเกลมาตรกำลังสำรองสีแดงซึ่งล้อมขอบสเกลและมาตรหน้าปัดขนาดเล็กด้วยกรอบสีเงิน ใช้กลไกอัตโนมัติกำลังสำรอง 46 ชั่วโมง สวมคู่กับสายยางสีดำ
HAMILTON
Khaki Navy Sub Auto Chrono
HAMILTON Khaki Navy เวอร์ชั่นปี 2013 Sub Auto Chrono รุ่นนี้มากับตัวเรือนสตีลทรงสวยขนาด 43 มิลลิเมตรที่ติดตั้งยางผิวลอนสีดำอยู่โดยรอบของขอบตัวเรือนสตีลหมุนทิศทางเดียวที่มากับสเกลดำน้ำสีดำเพื่อความสะดวกในการใช้งาน สามารถกันน้ำได้ 300 เมตร มีหน้าปัดสีดำคู่กับสายยางสีดำหรือสีเทาคู่กับสายยางสีส้มให้เลือก บริเวณกลางหน้าปัดมีการเพิ่มความสวยงามด้วยลวดลายตัว H ขนาดเล็กเรียงรายกันบริเวณกลางหน้าปัด จุดเด่นอีกจุดหนึ่งก็คือการใช้เลข 0 ขนาดใหญ่ แทนที่หลักชั่วโมงในตำแหน่ง 12 นาฬิกาซึ่งตามปกติทั่วไปจะต้องเป็นเลข 12 สำหรับแบบหน้าปัดสีเทาสายสีส้มนั้นยังมีการใช้เข็มวินาทีจับเวลาและวงแหวนรอบเคาน์เตอร์จับเวลาเป็นสีส้มเข้ากันอีกด้วย ใช้กลไกอัตโนมัติโครโนกราฟจับเวลา 12 ชั่วโมงที่มีกำลังสำรองถึง 60 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที่
JEANRICHARD
Aquascope
ปีนี้ JEANRICHARD ออกนาฬิการุ่นใหม่ถอดด้ามในตัวเรือนสตีลขนาดใหญ่ 46 มิลลิเมตรที่มีรูปทรงเฉพาะตัวพร้อมขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวซึ่งสร้างความแปลกตาด้วยตัวเรือนชั้นในที่ถูกเคลือบด้วยพีวีดีสีน้ำเงินให้อารมณ์ท้องทะเลร่วมกับหน้าปัดสีน้ำเงินลายซาตินแนวตั้ง สีน้ำเงินของสเกลบนขอบตัวเรือน สามารถกันน้ำได้ 300 เมตร ใช้กลไกอัตโนมัติพร้อมแสดงวันที่ มีสายยางสีน้ำเงินหรือสายสตีลให้เลือก
LONGINES
HydroConquest
HydroConquest จาก LONGINES ออกเวอร์ชั่นใหม่มากับตัวเรือนสตีล 2 ขนาดให้เลือก คือ 41 กับ 39 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำได้ 300 เมตร งามด้วยการจับคู่สีหน้าปัดกับขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวที่ลงตัว มีให้เลือกหลายแบบ อาทิ แบบหน้าปัดสีน้ำเงินคู่กับขอบตัวเรือนสีน้ำเงิน, แบบหน้าปัดสีครีมคู่กับขอบตัวเรือนสีดำหรือสีแดง และแบบหน้าปัดสีดำคู่กับขอบตัวเรือนสีดำหรือสีแดง เป็นต้น มีให้เลือกทั้งแบบที่ใช้กลไกอัตโนมัติหรือกลไกควอตซ์ ทั้งคู่มีฟังก์ชั่นแสดงวันที่ มาคู่กับสายสตีลหรือสายยางสีดำ
LONGINES
HydroConquest Chronograph
นอกจากแบบ 3 เข็มแล้ว HydroConquest เวอร์ชั่นใหม่ของปีนี้ ยังมีรุ่นโครโนกราฟให้เลือกด้วย โดยจะใช้ตัวเรือนสตีลกันน้ำ 300 เมตร ขนาด 41 มิลลิเมตร ที่มีเวอร์ชั่นจับคู่สีหน้าปัดกับขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวให้เลือกหลายแบบเช่นเดียวกับรุ่น 3 เข็ม และมีทั้งที่ใช้กลไกอัตโนมัติโครโนกราฟจับเวลา 12 ชั่วโมงซึ่งมีกำลังสำรองถึง 54 ชั่วโมง หรือกลไกควอตซ์จับเวลาได้ 12 ชั่วโมงให้เลือก เสริมลูกเล่นน่ามองบนหน้าปัดด้วยการใช้ขอบวงจับเวลาบนเคาน์เตอร์ด้านขวาบนเป็นสีแดงและใช้เข็มจับเวลาเป็นสีแดงด้วย โดยจะสามารถมองออกว่าเป็นกลไกออโต้หรือควอตซ์ได้จากการจัดวางวงเคาน์เตอร์บนหน้าปัด เพราะรุ่นควอตซ์จะมีเคาน์เตอร์จับเวลา 1/10 ของวินาทีอยู่ ณ ตำแหน่ง 2 นาฬิกา โดยที่เข็มนาทีจับเวลาจะใช้เป็นเข็มกลางสีแดงแทน และ 2 เคาน์เตอร์บนของรุ่นควอตซ์จะอยู่ในระดับที่ 10 กับ 2 นาฬิกา ซึ่งมีตำแหน่งที่สูงกว่ารุ่นออโต้ที่จะอยู่ที่ 9 กับ 3 นาฬิกา มาคู่กับสายสตีลหรือสายยางสีดำ
LUMINOX
Scott Cassell Deep Dive Automatic Special Edition
นาฬิกาดำน้ำรุ่นพิเศษจาก LUMINOX รุ่นนี้มากับตัวเรือนสตีลเคลือบพีวีดีดำที่เด่นด้วยขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวและการ์ดป้องกันเม็ดมะยมที่ทางแบรนด์เรียกว่าระบบ BLS และที่ฝาหลังจะมีภาพวาดเรือดำน้ำของ Cassell ตกแต่งอยู่ด้วย นาฬิกาสามารถกันน้ำได้ถึง 500 เมตร พร้อมมีระบบฮีเลี่ยมวาล์วแบบอัตโนมัติป้องกันนาฬิกาเสียหายยามขึ้นจากระดับน้ำลึกสู่ผิวน้ำ บนหน้าปัดสีดำที่ตกแต่งรายละเอียดด้วยสีเหลืองจะมีโลโก้ Sea Wolves บ่งบอกความไม่ธรรมดา หลักชั่วโมงและเข็มติดตั้งหลอดแสง LLT และยังเพิ่มความชัดเจนให้กับเข็มนาทีด้วยสีเหลืองพร้อมติดตั้งหลอดแสง LLT คู่ ใช้กลไกอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที่ มาคู่กับสายโพลียูรีเทนสีดำดีไซน์เฉพาะ
MAURICE LACROIX
Pontos S Diver
Pontos S Diver เป็นรุ่นใหม่เอี่ยมจากคอลเลคชั่น Pontos ที่ออกมาในปีนี้ มาในรูปแบบที่แฝงอารมณ์วินเทจเอาไว้ในตัวด้วยลักษณะของการออกแบบรายละเอียดบนหน้าปัดสีดำลายซันบรัชด์ตลอดจนสายนาฬิกาที่มากับสายหนังเส้นยาวแบบนาโต้หรือสายสตีลพร้อมสายผ้านาโต้ให้เปลี่ยนใส่ และยังดูดีด้วยการวางสเกลดำน้ำเรืองแสงบนพื้นวงแหวนอลูมิเนียมสีดำไว้ที่ขอบหน้าปัดโดยสามารถหมุนแบบทิศทางเดียวได้ด้วยเม็ดมะยมขนาดใหญ่ ณ ตำแหน่ง 2 นาฬิกา ใช้ตัวเรือนสตีลขนาด 43 มิลลิเมตร พร้อมออโตเมติกฮีเลี่ยมวาล์วซึ่งมีคุณสมบัติการกันน้ำได้ถึง 600 เมตร เดินด้วยกลไกอัตโนมัติพร้อมแสดงวันที่
MAURICE LACROIX
Pontos S Extreme
Pontos S Chronograph เป็นนาฬิกาสปอร์ตกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟจับเวลา 12 ชั่วโมงพร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที่ซึ่งเบสจากกลไกยอดนิยม Valjoux 7750 ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้ตัวเรือนสตีลขนาด 43 มิลลิเมตรที่มีคุณสมบัติการกันน้ำได้ที่ 200 เมตร และใช้เม็ดมะยมแบบขันเกลียว พร้อมทั้งมีสเกลสำหรับดำน้ำอยู่บนขอบตัวเรือนด้านในซึ่งสามารถหมุนได้ด้วยเม็ดมะยมที่ติดตั้งเอาไว้ร่วมกับปุ่มกดจับเวลาที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกาอย่างแนบเนียน มาในปีนี้ก็ได้คลอดเวอร์ชั่นใหม่ออกมาให้ฮือฮากันในชื่อ Pontos S Extreme ด้วยการใช้วัสดุตัวเรือนไฮเทคชนิดใหม่ที่ทางแบรนด์ให้ชื่อว่าเพาเวอร์ไลท์ ซึ่งเป็นโลหะผสมที่ได้มาจากธาตุต่างๆ 5 ธาตุ คือ อลูมิเนียม, แม็กนีเซี่ยม, ไทเทเนี่ยม, เซอร์โคเนี่ยม และเซรามิก ทำให้มีความแข็งแรงและมีน้ำหนักที่เบา และยังสามารถทำอโนไดซ์ให้ออกมาเป็นสีต่างๆ ได้ด้วย ส่วนฝาหลังจะทำจากไทเทเนี่ยม ในชุดแรกที่ออกมานี้จะมีตัวเรือน 3 สี คือ สีเขียวกากี, สีน้ำเงิน และรุ่นพิเศษ Henrik Fisker Limited Edition ผลิต 999 เรือนในตัวเรือนสีดำ (Henrik Fisker เป็นนักออกแบบรถยนต์ชื่อดังของโลก)
ทุกรุ่นจะมากับหน้าปัดสีดำพร้อมสายหนังสีดำลายเฉพาะตัวหรือสายผ้านาโต้ โดยแต่ละรุ่นจะถูกตกแต่งรายละเอียดบนขอบหน้าปัดและเม็ดมะยมหมุนขอบหน้าปัดด้วยสีเดียวกับตัวเรือน ยกเว้นรุ่น Henrik Fisker ซึ่งจะตกแต่งด้วยสีแดงสด และมีการใช้วัสดุหนังเจาะรูดีไซน์สไตล์มอเตอร์สปอร์ตเย็บประกบอยู่ด้านบนของสายหนังเพิ่มเข้ามาเพื่อแสดงความพิเศษ
MIDO
Multifort Two Crowns
ในปีนี้ MIDO ออกนาฬิกาตัวเรือนสตีลหรือตัวเรือนสตีลเคลือบโรสโกลด์ขนาด 42 มิลลิเมตรที่กันน้ำได้ 200 เมตรซึ่งมากับสเกลดำน้ำบนขอบหน้าปัดที่หมุนได้ด้วยเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา มาให้กับคอลเลคชั่น Multifort โดยในรุ่นตัวเรือนสตีลจะมากับหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์เคร่งขรึมพร้อมขอบหน้าปัดสีดำซึ่งเสริมความเก๋ด้วยสเกลสีส้มระหว่างตำแหน่ง 0-15 และปลายเข็มวินาที ส่วนรุ่นตัวเรือนสีโรสโกลด์จะใช้หน้าปัดสีน้ำตาลพร้อมขอบหน้าปัดสีน้ำตาลและเข็มสีทอง สวมใส่คู่กับสายยางสีน้ำตาล พื้นหน้าปัดของรุ่นนี้จะทำเป็นลายเจนีวาสไตรป์เพื่อสร้างมิติชวนมอง ใช้กลไกอัตโนมัติพร้อมแสดงวันกับวันที่
OMEGA
Seamaster Planet Ocean GMT 600M GoodPlanet
OMEGA ออกนาฬิการุ่นใหม่เพื่อโลกที่งดงามให้กับซีรี่ส์ GoodPlanet ในปีนี้ด้วยรุ่น Planet Ocean GMT 600M ที่มากับขอบตัวเรือนสีน้ำเงินเงาที่ลงสเกล 24 ชั่วโมงด้วยแล็กเกอร์สีส้ม แมตชิ่งกับหน้าปัดแล็กเกอร์สีน้ำเงินและเข็มอลูมิเนียมกลางสีส้มแสดงเวลาไทม์โซนที่สอง พร้อมข้อความ “GoodPlanet Foundation” สลักบนขอบฝาหลัง มากับตัวเรือนขนาด 43.5 มิลลิเมตรในวัสดุสตีลพร้อมฮีเลี่ยมเอสเคปวาล์ว สามารถกันน้ำได้ 600 เมตร ใช้กลไกอัตโนมัติโคแอ็กเชียลความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ พร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มที ซึ่งใช้บาลานซ์สปริงวัสดุซิลิคอน และมากับบาร์เรลคู่ที่ให้กำลังสำรองถึง 60 ชั่วโมง สวมคู่กับสายสตีลหรือสายยางสีน้ำเงิน
ORIS
ProDiver Pointer Moon
ProDiver นาฬิกาดำน้ำระดับโปรเฟสชั่นแนลของ ORIS ในปีนี้ออกรุ่นกลไกอัตโนมัติพร้อมแสดงวันที่ที่มีฟังก์ชั่นแสดงรอบการโคจรของดวงจันทร์และช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลงมาให้ชื่นชมกัน โดยมีทั้งสเกลกลางหน้าปัดสีดำให้เลือกทั้งในแบบฝั่งโลกเหนือหรือฝั่งโลกใต้ บรรจุภายในตัวเรือนขนาดใหญ่ 49 มิลลิเมตร ทำจากไทเทเนี่ยม พร้อมขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวติดตั้งสเกลดำน้ำบนแผ่นเซรามิกดำที่มีฮีเลี่ยมวาล์วอัตโนมัติ กันน้ำได้ลึกถึง 1,000 เมตร และยังมาพร้อมกับสเกลเทียบเมตร-ฟิตซึ่งถูกสลักอยู่บนฝาหลังอีกต่างหาก อีกอย่างที่อยากให้สังเกตคือในปีนี้ ORIS ที่ออกมาใหม่ส่วนใหญ่จะใช้กลไกเบสของ Sellita กันแล้ว ให้มาทั้งสายยางสีดำและสายสตีลพร้อมอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนสายด้วยตนเอง
ORIS
Aquis Depth Guage
ในปีนี้ ORIS มีนาฬิกาดำน้ำลึก 500 เมตรรุ่นใหม่ออกมาให้เป็นเจ้าของกันในตัวเรือนสตีลขนาด 46 มิลลิเมตร พร้อมขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวติดตั้งสเกลดำน้ำบนแผ่นเซรามิกดำ หน้าปัดสีดำ เดินด้วยกลไกอัตโนมัติเบสจากกลไก Sellita พร้อมแสดงวันที่ ไม่ใช่เพียงแค่เป็นรุ่นใหม่ แต่นาฬิการุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบการแสดงความลึกด้วยการใช้กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ขนาดหนาพิเศษที่มีช่องเปิดให้น้ำเข้าไปดันแรงกดอากาศภายในร่องบริเวณด้านข้างของกระจกเพื่อให้แสดงระดับความลึกได้โดยจะแสดงผลด้วยสีเทาเข้ม-อ่อนบริเวณขอบหน้าปัดซึ่งอ่านค่าที่แสดงผ่านสเกลสีเหลือง ให้มาทั้งสายยางสีดำและสายสตีลพร้อมอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนสายด้วยตนเอง
ORIS
Aquis Regulateur ‘Der Meistertaucher’
Aquis Regulateur เวอร์ชั่นนี้มาในตัวเรือนไทเทเนี่ยมขนาด 43 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวติดตั้งสเกลดำน้ำบนแผ่นเซรามิกดำ พร้อมฮีเลี่ยมวาล์ว กันน้ำได้ 300 เมตร ที่มากับการแสดงเวลาแบบเรกูเลเตอร์บนหน้าปัดสีดำโดยแสดงชั่วโมงด้วยเข็มขนาดเล็กบนหน้าปัดย่อยรุ่นนี้ใช้กลไกอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่นแสดงวันที่ที่ทาง ORIS โมดิฟายด์มาจาก Sellita แล้วครับ ให้มาทั้งสายยางสีดำและสายสตีลพร้อมอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนสาย
TAG HEUER
Aquaracer Lady 34mm Calibre 5 Automatic
Aquaracer คอลเลคชั่นนาฬิกาดำน้ำชื่อดังของ TAG HEUER ในปีนี้ออกรุ่นเครื่องออโต้ให้กับนาฬิกาสำหรับคุณผู้หญิง Aquaracer Lady กันแล้ว โดยมากับตัวเรือนขนาด 34 มิลลิเมตร กันน้ำ 200 เมตร ในแบบทูโทน สตีล-ขอบตัวเรือนโรสโกลด์แบบฟิกซ์ยึดตาย พร้อมสายทูโทน สตีล-โรสโกลด์ เข้ากัน ใช้กลไกอัตโนมัติพร้อมแสดงวันที่ โดยมากับหน้าปัดสีเงินตกแต่งด้วยลายเส้นขวางตรงส่วนกลาง หรือแบบหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวโดยส่วนกลางเป็นพื้นหน้าปัดสีเงินลายเส้นขวางพร้อมหลักชั่วโมงประดับเพชร จุดสังเกตของรุ่นกลไกออโต้ก็คือ ช่องหน้าต่างแสดงวันที่ซึ่งจะอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา (นอกจากนี้ยังออกตัวเรือนทูโทนขนาด 40 มิลลิเมตร สำหรับผู้ชาย ซึ่งมากับหน้าปัดสีเงินตกแต่งด้ายลายเส้นขวางตรงส่วนกลาง และใช้กลไกเดียวกันโดยวางช่องหน้าต่างวันที่ไว้ที่ 3 นาฬิกาออกมาคู่กันด้วย)
TAG HEUER
Aquaracer Lady 27mm
Aquaracer Lady ในตัวเรือนขนาดเล็ก 27 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 200 เมตร สำหรับคุณผู้หญิงในปีนี้ ก็ออกเวอร์ชั่นทูโทน ตัวเรือนสตีล-ขอบตัวเรือนแบบฟิกซ์วัสดุโรสโกลด์ พร้อมสายทูโทน สตีล-โรสโกลด์ เช่นกัน มาหลายแบบให้เลือกด้วยกัน ทั้งแบบหน้าปัดสีเงินที่มีส่วนกลางเป็นลายเส้นขวาง หรือแบบหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวที่ส่วนกลางเป็นพื้นสีเงินลายเส้นขวางพร้อมหลักชั่วโมงประดับเพชร ไปจนถึงแบบจัดเต็มที่ประดับเพชรบนขอบตัวเรือนคู่กับหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวที่ส่วนกลางเป็นพื้นสีเงินลายเส้นขวางพร้อมหลักชั่วโมงประดับเพชร เดินด้วยกลไกควอตซ์พร้อมแสดงวันที่
ULYSSE NARDIN
Black Sea
นาฬิกาดำน้ำตระกูลดัง Marine Diver ของ ULYSSE NARDIN ในปีนี้มากับเวอร์ชั่น Black Sea ซึ่งหนนี้จะมากับตัวเรือนและขอบตัวเรือนหมุนได้วัสดุสตีลซึ่งถูกหลอมเคลือบโดยกรรมวิธีพิเศษด้วยยางผิวดำด้านอย่างแนบสนิทออกมาเป็นขนาด 45.8 มิลลิเมตรที่มีคุณสมบัติการกันน้ำได้ 200 เมตร มาคู่กับหน้าปัดสีดำด้านลายคลื่น ซึ่งก็ได้นิยามแห่งคำว่าแบล็กแบบเต็มๆ บวกรวมเข้ากับหลักชั่วโมงและงานเข็มกับงานตกแต่งสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีแห่งท้องทะเลบนหน้าปัด รวมความแล้วจึงเป็นตัวแทนของคำว่าแบล็กซีอย่างไร้ข้อโต้แย้งใดๆ เดินด้วยกลไกอัตโนมัติแสดงวินาทีบนหน้าปัดเล็กที่ได้รับการรับรองโครโนมิเตอร์พร้อมฟังก์ชั่นแสดงกำลังสำรองด้วยเข็มบนหน้าปัดย่อยและช่องแสดงวันที่ซึ่งขยายขนาดตัวเลขผ่านเลนส์ขยายบนกระจกหน้าปัดดังเช่นธรรมเนียมปฏิบัติของรุ่นเช่นเคย สวมคู่กับสายยางสีดำที่ออกแบบเป็นลายคลื่นเข้ากับหน้าปัด
สนใจเรือนไหนหยอดกระปุกไว้คอยเลยครับ อีกไม่นานก็คงเข้ามาให้ได้เป็นเจ้าของกันแล้ว
By: Viracharn T.