LONGINES Mini DolceVita ความสง่างามที่ซ่อนตัวอยู่ในรายละเอียด
LONGINES เผยโฉมนาฬิการุ่น Mini DolceVita ผลงานระดับมาสเตอร์พีซใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมการออกแบบอันประณีตบรรจง ผสานความคลาสสิคและความงามทางสุนทรียะในหลากหลายโมเดล สะท้อนถึงความหรูหราแบบไควเอ็ทลักซ์ชัวรี่ และความสง่างามแบบร่วมสมัยในแบบฉบับ LONGINES ได้อย่างครบถ้วน รังสรรค์มาเพื่อตอบสนองต่อความปรารถนา ของหญิงผู้เปี่ยมด้วยพลังที่จะมาช่วยเสริมการแต่งตัวให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
นาฬิการุ่น Mini DolceVita ถือเป็นความภาคภูมิใจใหม่ล่าสุดของ LONGIENS ในฐานะของผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่ถือเป็นนาฬิกาและเครื่องประดับบนข้อมือ อันร่วมสมัยและสะท้อนถึงสไตล์คลาสสิค ที่เหนือกาลเวลาในทุกรายละเอียด โดยตัวเรือนถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่าย ด้วยเส้นสายที่บางบริสุทธ์พร้อมสายสตีลที่ดีไซน์ขึ้นใหม่ และส่งผลให้เกิดเป็นสไตล์โมเดิรน์คลาสสิค ที่มีความทันสมัยควบคู่ไปกับความสง่างาม โดยสืบสานมาจากนาฬิการุ่นระดับตํานานของ LONGINES ในปี 1927
ร่วมกันกับคอลเลคชั่น DolceVita ที่นำเสนอใหม่อีกครั้งในปี 1997 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสโลแกน “Elegance is an attitude” ที่ผู้คนทั่วโลกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในปัจจุบัน ในแบบที่ Mini DolceVita ใหม่นี้กำลังจะสร้างเรื่องราวใหม่ให้กับยุคสมัยปัจจุบัน โดยนาฬิกาในแต่ละรุ่นของคอลเลคชั่น Mini DolceVita จะมาพร้อมตัวเรือนสตีลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 21.50 มิลลิเมตร x 29 มิลลเมตร และทำงานด้วยกลไกควอท์ซคาลิเบอร์ L178 ที่มีความเที่ยงตรงสูง พร้อมความสามารถในการกันน้ำได้ที่ระดับ 3 บาร์ หรือ 30 เมตร
พร้อมอีกหนึ่งจุดเด่นของคอลเลคชั่น Mini DolceVita คือการประดับเพชรในระดับ IF-VVS Top Wesselton จำนวน 38 เม็ดบนทั้งสองข้างของตัวเรือน รวมถึงหน้าปัดลายวงกลมคอสโมใหม่ ภายในตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เสริมสร้างความสง่างามเป็นพิเศษ เมื่อมองผ่านกระจกแซฟไฟร์ที่กันรอยขีดข่วนได้ดี สร้างความคอนทราสต์อย่างแนบเนียน บนพื้นหน้าปัดสีเงินซันเรย์และเสกลแสดงค่าเวลาสีขาวแมท ผนวกเข้ากับวงด้านในสีเงินซันเรย์ และวงหน้าปัดย่อยขนาดเล็กสีขาวแมท
พร้อมการใช้เลขโรมันและเข็มนาฬิกาแบบบลูด์สตีล ที่ส่งผลให้สามารถอ่านค่าเวลาบนหน้าปัดได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ Mini DolceVita ยังมาพร้อมสายสตีลดีไซน์ใหม่แบบข้อต่อ 198 ชิ้นที่สร้างความสบายให้แก่ผู้สวมใส่เป็นพิเศษ และยังสร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตาไปพร้อมกัน โดยนอกเหนือจากเรือนแบบคลาสสิคนี้ ยังมีแบบหน้าปัดสีเงินตกแต่งลายฟลิงเก้ ที่มีการสลักแพทเทิรน์ลายเรขาคณิตบนหน้าปัด พร้อมด้วยเอฟเฟ็คท์กิโยเช่และเลขโรมัน ผนวกเข้ากับเข็มนาฬิกาแบบบลูด์สตีลสีน้ำเงินเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีในอีก 4 แบบที่มาในสีสันแบบพาสเทลใหม่ทั้ง สีขาวงาช้าง, สีเขียวมิ๊นท์, สีชมพูบลอสซัม และสีฟ้าอ่อน โดยมาพร้อมสายที่มีสีสันเข้ากับหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่สร้างความคอนทราสท์ด้วยสี่เหลี่ยมด้านในที่สลักลายกิโยเช่ พร้อมเลขโรมันสีทองและเข็มนาฬิกาสีทอง เพื่อสร้างความงดงามเชิงสามมิติ และยังช่วยสร้างความงามทางสุนทรียะ อันมีเอกลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่งให้เกิดความสง่างามในแบบฉบับของ Mini DolceVita ได้อย่างไม่ต้องสงสัย