ช่วงเวลากว่า 85 ปีของการรังสรรค์นาฬิกาดำน้ำจาก LONGINES
เริ่มต้นจากปี 1937 ที่ LONGINES นำเสนอนาฬิกาใน Ref. 4270 ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก โดยเป็นนาฬิกาฟังก์ชั่นโครโนกราฟ พร้อมคุณสมบัติของปุ่มกดจับเวลาแบบกันน้ำได้ และเข็มแสดงการจับเวลาแบบฟลายแบ็ค เรือนแรกของโลกที่ได้รับการจดสิทธิบัตรในปี 1938 ซึ่งทำงานด้วยกลไกคาลิเบอร์ 13ZN ในตัวเรือนขนาด 38 มิลลิเมตร
ปี 1942-1943 LONGINES ผลิตนาฬิการุ่น H.S. (Hydrographic Survey) Military Diver ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับนักประดาน้ำประจำกองทัพราชนาวีอังกฤษ ในตัวเรือนขนาดใหญ่ถึง 51 มิลลิเมตร ที่ผลิตจากเงินสเตอร์ลิงโดย Albert Thomas Oliver พร้อมมีฝาหลังตัวเรือนและเม็ดมะยมแบบขันเกลียวแน่น ประกอบกับฝาปิดเพื่อการกันน้ำที่ดียิ่งขึ้น ทำงานด้วยกลไกคาลิเบอร์ 12.68N โดยมีการผลิตขึ้นเพียง 50 เรือนสำหรับ Hydrographic Survey Department เท่านั้น
ปี 1958 LONGINES นำเสนอนาฬิการุ่น Nautilus Skin Diver, Ref. 6921 กับตัวเรือนสตีลขนาด 40 มิลลิเมตรแบบสามชิ้นที่ผลิตจากโรงงาน PIQUEREZ SA ที่มีคุณสมบัติในการต้านแรงดันน้ำได้ลึกถึง 120 เมตร โดยมีฝาหลังแบบขันเกลียวแน่นแกะสลักลวดลายนักประดาน้ำ พร้อมขอบเบเซิลสีดำแบบหมุนได้สองทิศทาง ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 19AS กับเทคโนโลยี Compressor ที่ปกป้องกระจกและได้รับการจดสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับ LONGINES
ปี 1959 กับ Super-Compressor LONGINES Diver’s Watch, Ref. 7042 นาฬิกาในแบบตัวเรือนสองส่วนขนาด 42 มิลลิเมตร พร้อมฝาหลังแบบขันเกลียวแน่นที่ผลิตโดย PIQUEREZ SAอีกครั้ง โดยยังคงคุณสมบัติการกันน้ำที่ระดับ 120 เมตร ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 19AS ทำงานที่ความถี่ 18,000 รอบต่อชั่วโมง โดยมีความพิเศษที่ขอบเบเซิลที่ติดตั้งอยู่ภายใน เพื่อปกป้องการกระแทกอันเกิดขึ้นได้ โดยังคงสามารถหมุนได้สองทิศทางเช่นเดิม
ปี 1964 LONGINES นำเสนอนาฬิการุ่น Super-Compressor Diver’s Watch, Ref. 7494 สู่ตลาด กับนาฬิกากลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 290 ทำงานด้วยความถี่ 19,800 รอบต่อชั่วโมง กับเม็ดมะยมที่ประกอบเข้ากับตัวเรือนอย่างแข็งแรง และทำให้มีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ลึกถึงระดับ 200 เมตร
ปี 1965 LONGINES กับนาฬิการุ่น Super-Compressor Diver’s Watch, Ref. 7594 ที่ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 290 ในความถี่ 19,800 รอบต่อชั่วโมง พร้อมคุณสมบัติในการกันน้ำได้ลึกที่ระดับ 200 เมตร
ปี 1967 LONGINES นำเสนอนาฬิการุ่น Skindiver Chronograph, Ref. 7981 สู่ตลาด พร้อมความโดดเด่นของขอบเบเซิลแบบหมุนได้ในสีแดงบอร์โดซ์ กับตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร พร้อมฝาหลังแบบขันเกลียวแน่น ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 530 ที่ทำงานร่วมกันโมดูลคาลิเบอร์ 30CH ซึ่งเป็นชุดฟลายแบ็ค โดยมีวงจับเวลา 30 นาทีขนาดใหญ่แสดงอยู่บนหน้าปัด ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
ปี 1967-1968 LONGINES กับนาฬิการุ่น Ultra-Chron Diver, Ref. 7970 ที่ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 431 ทำงานด้วยความถี่ที่สูงถึง 36,000 รอบต่อชั่วโมง พร้อมความแม่นยำในการแสดงเวลาที่ระดับ +/- 2 วินาทีต่อวัน ภายใต้ตัวเรือนสตีลขนาด 41 มิลลิเมตร และขอบเบเซิลที่หมุนได้แบบทิศทางเดียว
ปี 1968 LONGINES นำเสนอนาฬิการุ่น Ultra-Chron Super-Compressor Diver’s Watch, Ref. 8221 สู่ตลาด กับตัวเรือนสตีลขนาด 43 มิลลิเมตรที่ผลิตโดย PIQUEREZ SA สำหรับนักดำน้ำระดับมืออาชีพ โดยมีคุณสมบัติการต้านทานแรงดันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร จากกระจกที่มีความหนาขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมขอบเบเซิลแบบหมุนได้ ทำงานด้วยกลไกคาลิเบอร์ 431 ที่ความถี่ที่สูงถึง 36,000 รอบต่อชั่วโมง
ปี 1968 LONGINES กับนาฬิการุ่น Diver’s Chronograph, Ref. 8224 ในตัวเรือนสตีลรูปทรงคุชชั่นขนาด 42 มิลลิเมตร ที่ผลิตโดย PIQUEREZ SA อีกครั้ง พร้อมขอบเบเซิลแบบหมุนได้ที่ติดตั้งอยู่ขอบด้านในหน้าปัด และฟังก์ชั่นการจับเวลาถอยหลังระดับนาที สำหรับการดำน้ำระยะสั้นที่ควบคุมด้วยเม็ดมะยม ณ ตำแหน่ง 10 นาฬิกา พร้อมคุณสมบัติต้านแรงดันน้ำได้ลึก 200 เมตร และทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 332
ปี 1970 LONGINES นำเสนอนาฬิการุ่น Ultronic Diver, Ref. 8484 ตัวเรือนสตีลขนาด 41 มิลลิเมตร กันน้ำได้ที่ระดับ 200 เมตร ซึ่งเป็นนาฬิกากลไกไฟฟ้าแบบจูนนิ่งฟอร์คคาลิเบอร์ 6312, ESA 9162 ให้ความแม่นยำในการแสดงเวลาระดับ +/- 2 วินาทีต่อวัน โดยมีขอบเบเซิลแบบหมุนได้ทิศทางเดียวในโทนสีส้มสว่าง
และ ปี 1971/1972 กับ LONGINES Super-Compressor Military Diver’s Watch for the Royal Australian Navy ที่มีคุณสมบัติการกันน้ำ ที่ผ่านการพัฒนาให้มีความสามารถดำดิ่งได้ลึกถึง 300 เมตร และยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นแสดงวันที่ กับการทำงานของกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 6651 พร้อมขอบเบเซิลที่ติดตั้งภายในหน้าปัด ที่ถือเป็นรูปลักษณ์พื้นฐานของนาฬิการุ่น Legend Diver ที่สืบทอดตำนานของนาฬิกาดำน้ำจาก LONGINES ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน