JAQUET DROZ Honors its Art of Mineral Dials
นักออกแบบนาฬิกา อาจมีแนวคิดในการสร้างบางสิ่ง ที่จะทำให้นาฬิกาเรือนนั้นๆ เกิดความพิเศษขึ้นมาได้ ซึ่งสำหรับโลกแห่งนาฬิการะดับสูง รายละเอียดที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ จะกลายเป็นความตื่นเต้นและความพิเศษเป็นอย่างยิ่งของนักสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างให้กลไกอันสลับซับซ้อน สามารถขับเคลื่อนและทำให้งานศิลป์บนหน้าปัดที่สวยงามเหล่านี้ สามารถเคลื่อนไหวได้ดั่งมีชีวิตจริง ซึ่งงานระดับมาสเตอร์พีซที่ไม่ได้มีแบรนด์นาฬิกาทั่วๆ ไปสามารถสร้างสรรค์ได้นี่เอง ที่ JAQUET DROZ หวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
โดยช่างนาฬิกาผู้มีความชำนาญในการสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ ได้แสดงความสามารถในการผลิตงานระดับสูงเหล่านี้อย่างขะมักเขม้น ซึ่งอย่างไรก็ตาม ชิ้นงานเหล่านี้จะสามารถสร้างได้จนเสร็จสมบูรณ์แบบเพียงไม่กี่ชิ้น นั่นก็เพราะไม่เพียงแต่ช่างฝีมือที่ต้องมีความชำนาญในระดับสูง แต่ยังรวมถึงช่างนาฬิกา ผู้มีความสามารถในการออกแบบ และประกอบชิ้นส่วนเหล่านี้อย่างบรรจง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในที่สุด เนื่องจากชิ้นงานที่สร้างจากวัสดุทางธรรมชาติเหล่านี้ จะมีอย่างจำกัดและไม่เคยเหมือนกันในแต่ละชิ้น ซึ่งก็ทำให้ผลงานต่างๆ กลายเป็นพีซยูนีคไปโดยปริยายด้วย
กระบวนการต่างๆ เหล่านี้ เริ่มต้นจากการเฟ้นหาวัสดุทางธรรมชาติที่เหมาะสมที่สุด เลือกสรรค์อย่างละเอียดถี่ถ้วน วัดค่าจะจัดวางมุมของหินต่างๆ ที่จะเลือกใช้ จากนั้นจึงถึงกระบวนการตัดหินต่างๆ เหล่านี้อย่างบรรจง และขัดแต่งจนกลายเป็นแผ่นหน้าปัดที่เรียบเนียนและสวยงาม พร้อมใช้งานในการเป็นพื้นหน้าปัด
โดยกระบวนการเหล่านี้ จะยังคงใช้เครื่องมือแบบดั้งเดิมในการตัดและขัดแต่ง เนื่องจากเครื่องจักรจะมีสัมผัสของทำงานต่อชิ้นงานเหล่านี้ต่างจากมนุษย์ ที่จะมีความละเอียดถี่ถ้วนและตัดสินใจได้อย่างแยบยลมากกว่า อย่างเช่นขั้นตอนการเจาะรูและช่องต่างๆ ของพื้นหน้าปัด ที่แม้จะเล็กและเครื่องจักรสามารถทำงานได้ง่ายๆ แต่ผิวสัมผัสและการรับรู้ในขณะทำงานกับชิ้นงานเหล่านี้ ก็จะมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่จะเข้าถึงได้
ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนอันสลับซับซ้อน จนทำให้เกิดเป็นนาฬิกา JAQUET DROZ ในซีรี่ส์ของ Automata รุ่น Opal Loving Butterfly Automaton ในสองรูปแบบที่ทั้งแบบตัวเรือนเรดโกลด์และไวท์โกลด์ โดยมีโอปอลที่มีโทนสีที่แตกต่างกันเป็นฉากหลัง แสดงให้เห็นถึงจินตนาการของเด็กน้อยขับเคลื่อนเกวียน ที่ลากจูงโดยผีเสื้อยักษ์ ที่มีหลังฉากเป็นแสงแห่งความพิศวงในค่ำคืนเดือนมืด รายล้อมด้วยต้นไม้สูง ที่มีรายละเอียดของกิ่งและใบไม้ที่งดงาม โดยจะแสดงภาพความเคลื่อนไหวของงานออโตเมต้าบนหน้าปัด เป็นล้อเกวียนที่หมุน พร้อมกับปีกของผีเสื้อที่จะขยับอย่างช้าๆ อย่างสวยงามและสุนทรีย์กับพื้นหน้าปัดศิลป์อันล้ำค่า
ตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตร หน้า 16.63 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 2653 AT1 ที่ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง ดับเบิลบาร์เรลที่ให้พลังสำรองลานนานถึง 68 ชั่วโมง โรเตอร์ผลิตจากทองคำที่สามารถมองเห็นได้ทางด้านหลังตัวเรือน พร้อมการสลักหมายเลขประจำเรือนที่ขอบฝาหลัง
ในช่วงเวลาที่ร้าน Time Zone เกษรวิลเลจ ยังปิดให้บริการ กรุณาติดต่อโดยตรงที่ Jitrkarn Sakrueangrit (Cris) 083-1798729