JACOB&CO. Epic X Racing, Titanium, and Black Titanium
เมื่อ Jacob & Co. แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง ยกระดับขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ยอดนิยม ของชนชั้นสูงและเหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลกแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้ Jacob Arabo หยุดยั้งการสร้างสรรค์อยู่เพียงแค่นั้น เพราะสิ่งหนึ่งที่เขาหลงใหลมานานแสนนาน ก็คือเรื่องของเครื่องบอกเวลานั่นเอง ที่ทำให้เขาลุ่มหลงและมีไอเดียสร้างสรรค์มากมายหลายโปรเจ็คท์
และนาฬิกาแบบแรกของ JACOB&CO. ก็เผยโฉมในปี 2002 กับรูปแบบและฟังก์ชั่นที่ทำให้โลกแห่งเครื่องประดับอัญมณี และโลกแห่งเครื่องบอกเวลา ต่างก็จับจ้องมาที่ผลงานการออกแบบสร้างสรรค์ของเขา จากนั้นเขาจึงนำพาแบรนด์ JACOB&CO. เข้าสู่โลกแห่งการผลิตเครื่องบอกเวลาระดับสูง พร้อมการสร้างเวิร์คช็อปของเครื่องบอกเวลาขึ้นที่เจนีวาในเวลาต่อมา
“เรารู้ว่าลูกค้าต่างมองหาผลงานชั้นยอด ที่มีความพิเศษและความโดดเด่นเหนือใคร และเราก็คือผู้ผลิตผลงานเช่นนั้นให้กับพวกเขา” Jacob Arobo กล่าวอย่างมั่นใจถึงผลงานการสร้างสรรค์ของเขา ที่จะไม่ทำให้ลูกค้าทั่วโลกของเขาผิดหวัง เพราะเครื่องบอกเวลาแต่ละเรือนนี้ จะสามารถบอกตัวตนแห่งความเป็น JACOB&CO. ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น
ซึ่งนาฬิกา JACOB&CO. รุ่น Epic X ก็เป็นหนึ่งในนั้น จากพัฒนาการยุคใหม่ ที่ผสมแนวคิดการผลิตแบบดั้งเดิม พร้อมผสานด้วยเวอร์ชั่นความเป็นสปอร์ตว็อช ของนาฬิกาที่โดดเด่นด้วยกลไกไขลานสเกเลตัน ซึ่งจัดวางชิ้นส่วนกลไกแบบเวอร์ติคัล ที่โดดเด่นและท้าทาย จากการทำให้กลไกนาฬิกาทั้งหมด เสมือนลอยเด่นอยู่กลางตัวเรือน ท่ามกลางเฟืองจักรต่างๆ มากมาย ซึ่งผลิตโดย Benjamin Muller ช่างนาฬิกาที่เคยผ่านงานจากหลากหลายแบรนด์มาแล้ว
ทั้งหมดนี้คือแนวคิดจากวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เครื่องบอกเวลาชิ้นนี้ มีความเบาบาง สวมใส่ได้อย่างสะดวกสบายในทั้งวัน ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะอากาศแบบใด ทั้งยังดูโปร่งใสโดยสามารถมองทะลุตัวเรือนได้เกือบทั้งหมด โดยตัวเรือนผลิตจากไทเทเนี่ยมในรุ่น Epic X Titanium หรือไทเทเนียมดีแอลซีสีดำในรุ่น Epic X Black Titatium และ Epic X Racing ที่พิเศษสุดกับการเสริมอารมณ์ด้วยสีสันหลากหลายของนีโอราลลิธ วัสดุพิเศษที่จะหาได้เฉพาะเพียงในนาฬิกาไม่กี่แบรนด์ในโลกเท่านั้น
วัสดุชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย โดยเป็นวัสดุพื้นฐานที่มีส่วนผสมอันหลากหลาย ซึ่งมีเรซินอันแข็งแกร่งเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้เกิดเป็นวัสดุที่สามารถใส่สีสันต่างๆ ได้อย่างสวยงาม มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่ออุณภูมิต่างๆ กันน้ำได้ดี มีความเรียบเนียนและเงาแวววาว เมื่อผ่านการขัดแต่งแล้วจะมีความสวยงามและเข้ากันกับวัสดุอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
แม้ตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 44 มิลลิเมตร และหนา 12.3 มิลลิเมตร แต่เมื่อสัมผัสกับเรือนจริง จะรู้สึกว่ามีขนาดเล็กและบางกว่าสเปกที่แจ้งไว้ ทำงานด้วยกลไกไขลานคาลิเบอร์ JCAM02 ที่ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง (4 เฮริท์ซ) บาเรลและบาลานซ์วีลพร้อมบาลานซ์สกรูว์ จัดวางแบบแนวตั้ง เม็ดมะยมพร้อมระบบป้องกันการกระแทก สกรูว์ทุกตัวเงาแวววาวจากมิเรอร์โพลิชชิ่ง พร้อมการขัดลายแบบเซอร์กูล่าร์เกรนด์บนบริจด์ของแท่นกลไก
สายมีให้เลือกทั้งสายหนังแท้บุยางด้านหลัง หรือสายยางลายฮันนี่คอมบ์ที่เบาบาง อ่อนนุ่มสบายข้อมือ และพร้อมใช้งานอย่างสะดวกสบายในทุกสภาวะ พร้อมระบุหมายเลขประจำเรือนไว้ที่ด้านหลังอย่างชัดเจน