GRAND SEIKO Evolution 9, Manual-winding Hi-Beat 36000, Part II
GRAND SEIKO Style เป็นรูปแบบเฉพาะของแบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น กับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิการะดับไอคอน ที่มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่ปี 1967 โดยได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมครั้งล่าสุดนี้ เพื่อสร้างให้เป็นนาฬิกาที่แสดงถึงเสน่ห์ ความหรูหรา ความสง่างาม และความละเอียดอ่อน อันเป็นคุณลักษณะสำคัญที่ผู้คนคาดหวัง ที่จะได้พบจากนาฬิกาเดรสกลไกไขลาน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของคอลเลคชั่น Evolution 9 ที่นำเสนอนาฬิกาในแบบเดรสกลไกไขลาน ที่ให้ความเพรียวบางบนข้อมือสู่ตลาด
หลายส่วนของดีไซน์ภายใต้รูปแบบนี้ ได้รับการทบทวนใหม่อย่างละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่ลักษณะของเนินและแนวร่องของหลักชั่วโมง ที่ถูกออกแบบให้มีความเพรียวบาง และมีความยาวมากขึ้นไปจากเดิม จนถึงแนวขาตัวเรือนแบบหลายเหลี่ยม ที่ทำให้แคบลงและมีพื้นที่น้อยลง พร้อมกับจุดศูนย์ถ่วงของนาฬิกา ที่จัดวางและทำให้มีระดับต่ำลงอีก เพื่อเพิ่มความสบายและกระชับขณะสวมใส่ อันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้นาฬิกาในคอลเลกชั่น Evolution 9 ของ GRAND SEIKO มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ยอมรับในตลาดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีตัวเรือนและชุดล็อกสาย ที่สร้างขึ้นจากบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียม ที่เป็นอีกหนึ่งในวัสดุอันโดดเด่นของ GRAND SEIKO จากการเป็นโลหะผสมที่มีความสว่าง กว่าวัสดุแบบไทเทเนียมปกติ และยังส่งผลให้พื้นผิวที่ผ่านการขัดเงาแบบซารัทสึ ในส่วนของตัวเรือนดูเปล่งประกายยิ่งขึ้น นำมาซึ่งประกายแห่งคุณภาพและความงาม ที่คู่ควรกับนาฬิกาในแบบเดรสของ GRAND SEIKO พร้อมทั้งทำให้นาฬิกามีน้ำหนักเบา และทนทานต่อการกัดกร่อนหรือรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ในขณะที่มีความแข็งเป็น 2 เท่าของสตีล
กับหน้าปัดที่สะท้อนถึงความงดงามแห่งธรรมชาติ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสูง และเพรียวของต้นเบิร์ชสีขาวที่เจริญเติบโต อยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น อันเป็นผืนป่าที่อยู่ใกล้กับสตูดิโอชิสุกุอิชิ และสะท้อนถึงความงามของเปลือกต้นเบิร์ช ด้วยพื้นผิวแบบหลายมิติที่มีความสลับซับซ้อน เมื่อผสมผสานเข้ากับดีไซน์อันงามสง่า ของตัวเรือนนาฬิกาพร้อมความเที่ยงตรง ในการแสดงค่าเวลาของชุดกลไก การสร้างสรรค์ครั้งใหม่นี้ จึงเป็นการมอบประสบการณ์ อันแสนบริสุทธิ์ของธรรมชาติแห่งกาลเวลาสู่ข้อมือ
โดยนาฬิการุ่นที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นกับตัวเรือนโรสโกลด์ พร้อมชุดล็อคสายที่ผลิตจากวัสดุเดียวกัน จะใช้โทนสีและลวดลายบนหน้าปัด ในแบบเดียวกันกับแบบตัวเรือนบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียม แต่จะมีเครื่องหมายรูปดาวปรากฎอยู่ด้วย ซึ่งหมายถึงหลักชั่วโมงที่จะผลิตขึ้นจากทองคำ โดยตัวเรือน หลักชั่วโมง และเข็มแสดงค่าเวลา ต่างก็ยังคงสะท้อนให้เห็นได้ถึงดีไซน์ในแบบ Evolution 9 Style ที่ผ่านการออกแบบขึ้นใหม่ เพื่อเพิ่มความสง่างามและโดดเด่น เช่นเดียวกันกับในแบบ ตัวเรือนบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียม
นาฬิกา GRAND SEIKO ในคอลเลคชั่น Evolution 9 ใหม่นี้จะทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์ไขลานไฮ-บีท ในความถี่ระดับ 36,000 รอบต่อชั่วโมงหรือ 10 บีทต่อวินาที ให้ความแม่นยำในการแสดงค่าเวลา (อัตราเฉลี่ยรายวัน) +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน พร้อมมอบพลังสำรองลานนาน 80 ชั่วโมง และให้ความสามารถในการกันน้ำระดับ 3 บาร์พร้อมความต้านทานสนามแม่เหล็กระดับ 4,800 แอมแปร์/เมตร ในตัวเรือนขนาด 38.6 มิลลิเมตรหนา 9.95 มิลลิเมตร ใช้งานคู่กันกับสายหนังจระเข้และชุดล็อคบานพับแบบ 3 ทบที่ปลดล็อคได้ด้วยปุ่มกด
ซึ่งนาฬิการุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ ได้เริ่มจำหน่ายสู่ตลาดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 เป็นต้นมา โดยในแบบโรสโกลด์จะเป็นนาฬิกาที่ผลิตขึ้นแบบ ลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวนเพียง 80 เรือนทั่วโลก โดยมีจำหน่ายเฉพาะที่บูติคแบรนด์นาฬิกาของ GRAND SEIKO เท่านั้น ส่วนในแบบบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียม จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนาฬิกาของคอลเลคชั่น Evolution 9 และจะมีจำหน่ายที่บูติคแบรนด์นาฬิกาของ GRAND SEIKO พร้อมกันกับตัวแทนจำหน่ายบางแห่งที่ผ่านการคัดเลือกแล้วทั่วโลก
พร้อมราคาจำหน่ายที่ 1,773,000 บาทสำหรับนาฬิกาใน Ref. SLGW002 ซึ่งเป็นนาฬิกาในแบบโรสโกลด์ และในราคา 381,000 บาท สำหรับนาฬิกาใน Ref. SLGW003 ซึ่งเป็นนาฬิกาในแบบบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียม โดยสามารถติดตามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.grand-seiko.com/global-en/collections/slgw002j และ https://www.grand-seiko.com/global-en/collections/slgw003g