GRAND SEIKO Evolution 9, Manual-winding Hi-Beat 36000, Part I
จากแนวคิดที่ว่าการไขลานนาฬิกา ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต จากเรื่องง่ายๆ ด้วยการหมุนเม็ดมะยมที่จะมีผลเข้ากับประสาทสัมผัส และจะสร้างการเชื่อมโยงสู่กระแสธรรมชาติของเวลาได้อย่างลึกซึ้ง จากจุดเริ่มต้นในทศวรรษที่ 1960s และ 1970s กับการสร้างสรรค์นาฬิกา GRAND SEIKO พร้อมกลไกไขลานที่ความถี่สูงระดับ 10 บีทที่สร้างขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งเสถียรภาพ ของอัตราการทำงานและการแสดงค่าเวลา ที่ให้ความเที่ยงตรงที่สูงขึ้น โดยปีนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีมาแล้ว ที่ GRAND SEIKO ได้ทำสร้างกลไกแบบไฮ-บีทขึ้น
จนในปีนี้กับกลไกไขลานไฮ-บีทชุดใหม่ ในรหัสคาลิเบอร์ 9SA4 ซึ่งเป็นกลไกลำดับที่สามของแพลทฟอร์มกลไกคาลิเบอร์ 9S ในเจเนอเรชั่นล่าสุดที่แรกเปิดตัวเป็นครั้งแรก ด้วยกลไกแบบอัตโนมัติคาลิเบอร์ 9SA5 ในปี 2020 แล้วตามมาด้วยกลไกแบบโครโนกราฟรุ่น Tentagraph ในกลไกคาลิเบอร์ 9SC5 ในปีที่ผ่านมา โดยกลไกคาลิเบอร์ 9SA4 ใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการออกแบบ และจัดโครงสร้างใหม่ทั้งหมดโดยใช้คาลิเบอร์ 9SA5 เป็นพื้นฐาน เช่นเดียวกับคาลิเบอร์ 9SA5 ที่กลไกคาลิเบอร์ใหม่นี้จะทำงานด้วยความถี่ในระดับ 10 รอบต่อวินาที
ในขณะที่สามารถให้พลังสำรองลานได้ถึง 80 ชั่วโมงเมื่อขึ้นลานจนเต็ม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ระบบดูอัลอิมพัลซ์เอสเคปเมนท์ (Dual Impulse Escapement) ที่ส่งพลังงานสู่จักรกลอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งโดยทางตรงจากชุดจักรและทางอ้อมผ่านพัลเลทฟอร์ก ทั้งยังใช้จักรกลอกแบบฟรี-สปรังบาลานซ์ (Free-sprung Balance) ในรูปแบบของ GRAND SEIKO เอง พร้อมการใช้ขดสายใยจักรกลอกแบบโอเวอร์คอยล์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทำให้กลไกไขลานคาลิเบอร์ 9SA4 ชุดใหม่ล่าสุดมีอัตราการทำงานที่มีเสถียรภาพสูง
พร้อมมีความต้านทานต่อการรบกวนจากปัจจัยภายนอก และทำให้เกิดประสิทธิภาพในการแสดงค่าที่ดีขึ้น อันเป็นคุณลักษณะแห่งกลไกแบบไฮ-บีทของ GRAND SEIKO มาอย่างยาวนาน นอกจากนี้กลไกไขลานคาลิเบอร์ 9SA4 ยังได้รับการทดสอบการทำงานใน 6 ตำแหน่งที่ 3 ระดับอุณหภูมิที่แตกต่างกันเป็นเวลา 17 วัน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความพร้อม ในการมอบความแม่นยำในการแสดงค่าเวลาตามมาตรฐานของ GRAND SEIKO หรือGRAND SEIKO Standard เช่นเดียวกันกับกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์อื่นๆ ของนาฬิกา GRAND SEIKO
ซึ่งแม้ว่ากลไกคาลิเบอร์ 9SA4 ใหม่นี้จะมีคุณลักษณะหลายประการ ที่เหมือนกับกลไกคาลิเบอร์ 9SA5 แต่กว่า 40% ของชุดฐานกลไกนั้นกลับถูกออกแบบ และจัดโครงสร้างใหม่โดยคำนึงถึงประสบการณ์ และความรู้สึกในด้านการสัมผัส สิ่งที่ได้ยิน และสิ่งที่มองเห็น ในระหว่างการไขลาน โดยไกซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ยึดเฟืองล้อ เพื่อป้องกันการคลายตัวของสปริงลานและสปริงไก ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ได้สัมผัส และเสียงที่สมบูรณ์แบบ และสามารถหยุดชุดเม็ดมะยมเมื่อถูกขึ้นลานจนสุดแล้ว โดยไกชิ้นนี้มีรูปร่างเหมือนกับนกแว็กเทล
ซึ่งเป็นนกที่พบเห็นได้ในโมริโอกะ ที่เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับสตูดิโอชิสุกุอิชิ อันเป็นสถานที่ที่นาฬิการุ่นนี้และนาฬิกาแบบจักรกลทุกรุ่นของ GRAND SEIKO ถูกสร้างขึ้น ซึ่งด้วยการออกแบบกลไกใหม่นี้ จึงทำให้สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวคล้ายนกจิก ของไกได้อย่างเพลิดเพลินผ่านฝาหลัง ที่กรุด้วยกระจกแซพไฟร์ในระหว่างการขึ้นลาน เมื่อรวมเข้ากับการตกแต่งชิ้นส่วนกลไกอย่างละเอียดอ่อน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำชิสุกุอิชิแล้ว กลไกคาลิเบอร์ 9SA4 จึงไม่เพียงแต่แสดงความสามารถ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในด้านการประดิษฐ์นาฬิกา
แบบจักรกลของ GRAND SEIKO เท่านั้น แต่ยังรวบรวมความงดงามของสภาพแวดล้อม ทางธรรมชาติที่อยู่รายรอบสตูดิโอเอาไว้ด้วย พร้อมเข็มแสดงค่าพลังสำรองลานบนสะพานจักร ที่จะทำหน้าที่บอกระดับลานของชุดกลไก จากการที่กลไกคาลิเบอร์นี้มีประสิทธิภาพ ในการขึ้นลานที่สูงขึ้นกว่าเดิม อันเป็นผลมาจากการจัดเรียงขบวนเฟืองใหม่ และการออกแบบชิ้นส่วนหลายชิ้นขึ้นใหม่ ที่ทำให้กลไกคาลิเบอร์ 9SA4 สามารถมอบพลังสำรองลานได้นานถึง 80 ชั่วโมงจากรอบการขึ้นลานด้วยการหมุนเม็ดมะยมที่น้อยลงถึง 15%
เพื่อให้ได้พลังงานเท่ากันเมื่อเทียบกับ การขึ้นลานด้วยมือของคาลิเบอร์ 9SA5 และด้วยชุดกลไกที่มีขนาดเพรียวบาง นาฬิกาจักรกลที่มีแรงบันดาลใจมาจากต้นเบิร์ชรุ่นล่าสุดนี้ จึงมีชุดกลไกที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 38.6 มิลลิเมตร และมีความเพรียวบางเพียง 9.95 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยนาฬิกาเดรสในดีไซน์แบบ Evolution 9 Style คาลิเบอร์ 9SA4 นี้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในนาฬิกาแนวเดรสรุ่นใหม่จากคอลเลกชั่น Evolution 9 ซึ่งมีดีไซน์ที่เป็นตัวแทนของความต่อเนื่องจาก GRAND SEIKO Style ที่สามารถสืบย้อนไปได้ถึงนาฬิการุ่น 44GS
โปรดติดตามตอนต่อไปในบทความครั้งหน้า