GRAND SEIKO, Ref. SLGH011 Green Birch
นาฬิกาหน้าปัดเบิร์ช ในพื้นผิวลายไม้ที่มีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจของป่าต้นเบิร์ช ต้นไม้ลำต้นสีขาวอันอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ในบริเวณใกล้กับสตูดิโอชิสุกุอิชิ ในลุคที่แตกต่างออกไปของนาฬิกาจากคอลเลคชั่น Evolution 9 โดยหน้าปัดเบิร์ชสีเขียวนี้ถือเป็นอีกเอดิชั่นของหน้าปัดเบิร์ช ที่ตีความจากสีสันของใบไม้สีเขียวเข้มบนต้นเบิร์ชในฤดูร้อน จนมาสู่กระบวนการในการสร้างลวดลายด้วยแรงกดถึง 7 ครั้งบนพื้นผิวของพื้นหน้าปัดที่ผลิตจากบราสมีความหนา 0.5 มิลลิเมตร
ซึ่งต่างจากการสร้างลายด้วยแรงกดระดับสูงเพียงครั้งเดียว อย่างลวดลายของหน้าปัดแบบอื่นๆ เพื่อให้เกิดลวดลายที่มีมิติที่ลึกซึ้งกว่า จากนั้นจึงทำการเคลือบสีเขียวบนหน้าปัดซ้ำกันหลายครั้ง พร้อมการลงชั้นเคลือบใสให้หนากว่าปกติ เพื่อให้เกิดมิติที่ล้ำลึกยิ่งขึ้นและส่งผลให้พื้นผิว แลดูเป็นสีดำเมื่ออยู่ในความมืดมิด และจะเปล่งความมีชีวิตชีวาของสีเขียว แห่งป่าลึกได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ภายใต้แสงจ้า ดังนั้นลวดลายบนหน้าปัดเบิร์ชสีเขียวนี้ จึงให้ความรู้สึกถึงการใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง
และตามคอนเซ็ปท์ธรรมชาติแห่งเวลาของ GRAND SEIKO ที่สีเงินประกายสว่างจากมาร์กเกอร์ชั่วโมงและเข็ม ที่ต้องดูโดดเด่นและชัดเจนเมื่อมีหน้าปัดเบิร์ชสีเขียวเป็นพื้นหลัง โดยมาร์กเกอร์ชั่วโมงทรงเหลี่ยมที่มีมิติซับซ้อนแต่ละชิ้น จะได้รับการเจียรอย่างคมกริบและมีผิวที่ราบเรียบ ด้วยเทคนิคการเจียระไนเพชรเพื่อให้เกิดลักษณะเหลี่ยมมุม โดยมีการเซาะแนวร่องกว้างไว้ระหว่างกลาง เพื่อให้เกิดการสะท้อนแสงและเงาอันซับซ้อนยามปะทะกับแสง ที่จะสามารถเปล่งประกายได้อย่างเจิดจ้า
ขณะที่มาร์กเกอร์ชั่วโมงในตำแหน่ง 12 นาฬิกาจะถูกเพิ่มความกว้างให้มากขึ้น และเซาะเป็นแนวร่องคู่เพื่อให้อ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนในทุกช่วงเวลา ในลักษณะเดียวกันกับเข็มแสดงเวลาชั่วโมงและนาที ที่ได้รับการเจียรอย่างคมกริบเพื่อสร้างลักษณะ 3 มิติ ทั้งยังเพิ่มรายละเอียดให้กับเข็มแสดงเวลาชั่วโมงที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษ ด้วยแนวเส้นคาดกลางที่ขัดแต่งผิวให้ต่างไปจากพื้นเข็ม และออกแบบให้มีความกว้างของแนวตัดส่วนปลาย ให้มีขนาดที่เท่ากันพอดีกับความกว้างของปลายมาร์กเกอร์ชั่วโมง
ทั้งยังมีขนาดที่แตกต่างไปจากเข็มแสดงเวลานาทีอย่างเห็นได้ชัด เพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนแม้เพียงเหลือบมอง ส่วนปลายของเข็มแสดงเวลานาทีได้รับการดัดโค้ง เพื่อให้ชุดเข็มเบนลงและจรดกับแนวขอบสเกลนาที ที่เป็นวงแหวนริมในหน้าปัดได้อย่างพอดิบพอดี ขณะที่เข็มแสดงเวลาวินาทีอันเรียวยาว จะถูกดัดโค้งให้พาดทับอยู่เหนือขีดสเกล ทั้งนี้ก็เพื่อให้อ่านค่าเวลาได้อย่างแม่นยำที่สุดทุกวินาที พร้อมการโอบล้อมด้วยขอบตัวเรือนดีไซน์แกร่ง แต่คมคายด้วยแนวเส้นสันอันคมชัด
โดยมีผิวด้านระนาบเป็นลายเส้นละเอียดแบบแฮร์ไลน์ ที่ถูกรายรอบด้วยผิวขัดเงางามดุจกระจกจากเทคนิคการขัดแบบซารัทซึบนแนวลาด ส่วนกระจกแซพไฟร์ทรงกล่องจะมีการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน ซึ่งมีแนวขอบกระจกที่ชัดเจนที่ถ่ายทอดลักษณะ ของความคลาสสิคแบบร่วมสมัยได้เป็นอย่างดี จึงถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของดีไซน์สมัยใหม่และดีไซน์วินเทจจากยุคอดีต ผสานกันได้อย่างพอเหมาะแบบไม่มากและไม่น้อยเกินไป
ส่วนตัวเรือนจะออกแบบตามหลักการที่นาฬิกาแบบ 44GS ดั้งเดิมแต่วิวัฒนาการให้ทันสมัยและเหมาะกับยุคปัจจุบัน พร้อมการขัดเงาแบบซารัทซึที่ให้ภาพสะท้อนอย่างไร้การบิดเบือน นำมาซึ่งเส้นขอบอันคมชัดที่ช่วยเน้นความแตกต่าง กับพื้นผิวลายเส้นละเอียดที่สลับแนวอยู่เคียงข้าง ให้เกิดความชัดเจนและสร้างประกายความงามให้กับพื้นผิวสตีลได้อย่างเลอเลิศ จากงานขัดแต่งตัวเรือนอันเลื่องชื่อโดยช่างฝีมือทักษะสูง ภายใต้ปรัชญาความงดงามแห่งแสงและเงาของชาวญี่ปุ่น
กับตัวเรือนสตีลขนาดพอเหมาะและเต็มไปด้วยเหลี่ยมสัน แต่แฝงไว้ซึ่งความอ่อนโยนของแนวโค้งและแนวลาดที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ทั้งยังออกแบบตำแหน่งของเม็ดมะยมให้อยู่ใกล้กับข้อมือ เพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและส่งผลให้เกิดความมั่นใจ พร้อมความกระชับในขณะสวมใส่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถขจัดความรู้สึกหน่วงข้อมือลงไปได้อย่างสิ้นเชิง โดยความเพรียวบางของตัวเรือนและตำแหน่งเม็ดมะยมนี้เกิดขึ้นได้ จากการใช้กลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ใหม่ 9SA5 ที่มีขนาดบางเป็นพิเศษ
ซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังที่กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ ที่พร้อมทำงานด้วยความถี่สูงถึง 36,000 รอบต่อชั่วโมง ซึ่งกลไกนี้ถือเป็นหนึ่งในกลไกที่ดีที่สุดจากสตูดิโอชิสุกุอิชิ จากประสิทธิภาพระดับสูงด้วยเทคโนโลยีล่าสุดมากมาย ที่ร่วมกันทำให้สามารถมอบพลังสำรองลานได้นานถึง 80 ชั่วโมงอันเป็นระยะเวลาที่น่าทึ่งสำหรับกลไกที่มีความถี่การทำงานระดับสูงเช่นนี้ กับตัวเรือนที่มีระยะความกว้างของขาตัวเรือน และสายนาฬิกาที่มากถึง 22 มิลลิเมตร เพื่อให้เกิดความรู้สึกสมดุลและกระชับกับข้อมือ
ใช้งานกับสายสตีลแบบ 5 แถวซึ่งมีความหนารับกับตัวเรือนและมีแนวโค้งเพียงเล็กน้อย พร้อมการปัดผิวแบบแฮร์ไลน์ให้เกิดแนวเส้นละเอียด ที่ฝั่งด้านบนเพื่อเสริมภาพลักษณ์การเป็นนาฬิกาสปอร์ต ขณะที่แนวขอบถูกเกลาให้เกิดผิวลาดเล็กๆ ที่ขัดแต่งให้เกิดความเงางามและเส้นสันคมชัดด้วยเทคนิคซารัทซึ เพื่อให้นาฬิกา GRAND SEIKO เรือนนี้สามารถมอบความสงบสุขุมบนข้อมือได้อย่างน่าทึ่ง และเป็นความงดงามแบบเฉพาะตัวที่ไม่มีนาฬิกาใดเสมอเหมือนได้
