GRAND SEIKO 44GS 55th Anniversary Limited Edition
เรือนเวลาที่แสดงความเคารพต่อรูปแบบตัวเรือน 44GS ที่โด่งดังจากปี 1967 ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของดีไซน์ ที่แสดงถึงลักษณะการออกแบบในแนวทางของตนเอง นั่นก็คือ ‘GRAND SEIKO Style’ ที่หลักการออกแบบนี้ ยังถูกนำมาเป็นแนวทางในการออกแบบเรือนเวลาของ GRAND SEIKO อยู่เสมอและยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มาตลอดจนถึงในทุกวันนี้
นาฬิการุ่นนี้ทำงานด้วยกลไกสปริงไดร์ฟ ระดับปฏิวัติวงการคาลิเบอร์ 9RA2 ที่สามารถสำรองพลังลานได้นานถึง 120 ชั่วโมง และยังให้อัตราความแม่นยำสูงสุดถึง +/-10 วินาทีต่อเดือน นอกจากนี้กลไกคาลิเบอร์นี้ยังได้รับการประกอบและตกแต่งด้วยมือ โดยสามารถมองเห็นบริจด์ที่ขัดเงาอย่างประณีต และสกรูว์กับเข็มแสดงพลังสำรองลาน ที่ผ่านขั้นตอนการเผาด้วยความร้อนจนกลายเป็นสีน้ำเงิน
ด้วยมิติอันล้ำลึกและพื้นผิวที่ดึงดูดสายตาของหน้าปัด ที่ชวนให้จินตนาการถึงท้องฟ้าในยามค่ำคืน โดยมีรูปแบบลายสลักอันล้ำลึก เป็นลักษณะวงโคจรแบบวงรีของดวงดาว ขณะเคลื่อนตำแหน่งข้ามฟากฟ้า และนำเสนอภาพความราบเรียบ แห่งเส้นเวลาด้วยแนวเส้นที่ไหลพลิ้ว อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ในขณะที่กลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 9RA2 ก็มอบความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ในด้านประสิทธิภาพการทำงานไปพร้อมกัน
ซึ่งเกิดขึ้นได้นวัตกรรมต่างๆ มากมายที่มีเพียงแต่ผู้ผลิต ซึ่งมีความเพียบพร้อมในทุกด้านเท่านั้น ที่จะสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้ โดยกลไกคาลิเบอร์นี้นอกจากจะมอบพลังสำรองลานอันยาวนานแล้ว ยังให้อัตราความแม่นยำได้ถึงระดับสูงต่อเดือน เมื่อเทียบกับกลไกแบบแมคคานิคัลอื่นๆ พร้อมขนาดที่บางกว่าคาลิเบอร์อื่นๆ ซึ่งทำให้สามารถมีตัวเรือนที่มีขนาดเรียวบาง และเฉียบคมยิ่งขึ้นตามรูปแบบ GRAND SEIKO Style
ทำงานด้วยกลไกสปริงไดร์ฟพร้อมฟังก์ชั่นแสดงพลังสำรองลาน และฟังก์ชั่นที่สามารถหยุดเข็มวินาทีเพื่อตั้งเวลาอย่างเที่ยงตรงได้ กับความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 10 บาร์ โดยมีกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่อง ที่มีการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน ประกบเข้ากับตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร หนา 12.1 มิลลิเมตร ใช้งานกับสายสตีลชนิดเดียวกันกับตัวเรือน และชุดล็อคแบบพับสามทบที่ปลดล็อคด้วยปุ่มกด
จากตัวเรือนที่ผลิตขึ้นด้วยเอเวอร์-บริลเลี่ยนสตีล ที่มีความสามารถในการต้านทานการกัดกร่อนได้ดีที่สุดในโลก โดยวัสดุชนิดนี้เป็นสตีลที่มีเนื้อผิวสีขาวเจิดจ้า และมีความต้านทานต่อการกัดกร่อน มากกว่าสตีลชนิดที่ใช้กับเรือนเวลาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในปัจจุบันอีกด้วย และนาฬิกาใน Heritage Collection, Ref. SLGA013 นี้จะมีการผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น 550 เรือนทั่วโลก พร้อมราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 345,800 บาท