GRAND SEIKO เปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นครั้งแรกสำหรับประเทศไทย

GRAND SEIKO เปิดตัวนาฬิกาหรูที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเป็นครั้งแรกสำหรับประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จกับนาฬิกา 3 รุ่นที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากธรรมชาติสู่เรือนเวลาสุดพิเศษ ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ให้กับคนรักนาฬิกา และนักสะสมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานด้านความเที่ยงตรง ความทนทาน และความสง่างามระดับโลก โดยเปิดตัวนาฬิกา 3 รุ่นไฮไลท์เด่นนี้เป็นครั้งแรก ได้แก่ รุ่น ‘Koke-iro’ (โคเค-อิโระ) หรือ Green Moss, รุ่น ‘Nami’ (นามิ) หรือ Suwa Wave และ รุ่น ‘Hikari’ (ฮิคาริ) หรือ Golden Light โดยผลิตขึ้นเพียงรุ่นละ 100 เรือน และจะมีวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำความสำเร็จของนาฬิกา GRAND SEIKO ในประเทศไทยได้อย่างชัดเจน

 

Screen Shot 2565 08 05 at 16.31.48

 

โดยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “GRAND SEIKO ถือเป็นหนึ่งในเรือนเวลาชั้นสูง ที่มีความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการสร้างสรรค์ และมีการพัฒนาการออกแบบนาฬิกา ในหลากหลายคอลเลกชั่นภายใต้คอนเซ็ปท์ The Nature of Time ที่ผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับดีไซน์เช่นคอลเลคชั่น Elegance ที่มีความคลาสสิค หรูหรา เหมาะแก่การสวมใส่ทุกวัน หรือคอลเลคชั่น Heritage ที่เป็นหัวใจในนิยามการออกแบบของ GRAND SEIKO พร้อมถ่ายทอดผลงานการขัดแต่งตัวเรือนอย่างประณีต ที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1967  ที่ล้วนสะท้อนให้เห็นสุนทรียศาสตร์ และกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นในแบบที่ไม่เหมือนใคร”

 

Screen Shot 2565 08 05 at 16.31.54

 

“นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาในคอลเลคชั่น Sport ที่เน้นความหรูหราและความทนทานต่อการใช้งาน และคอลเลคชั่น Evolution 9 ที่เป็นตัวแทนแห่งอนาคตของ GRAND SEIKO โดยได้นำดีไซน์ของ GRAND SEIKO Style มาเป็นพื้นฐานการออกแบบได้อย่างลงตัว พร้อมยังคงยึดถือหัวใจสำคัญของทุกองค์ประกอบ ในการรังสรรค์นาฬิกาทุกเรือนอย่างพิถีพิถัน เน้นฝีมือ ความประณีต และความใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยมีทั้งความแม่นยำ ความทนทาน ความชัดเจน และดีไซน์ที่สวยงามรวมไว้ด้วย โดยทุกเรือนจะได้รับแรงบันดาลใจจากการผสานความเป็นธรรมชาติ ที่ถ่ายทอดลงบนหน้าปัดอันแสนงดงาม เพื่อให้นาฬิกาเป็นเครื่องบอกเวลาที่มีเรื่องราวและมีคุณค่า สะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี”

 

Koke iro1

 

สำหรับไฮไลท์ของนาฬิกา GRAND SEIKO 3 รุ่นนี้จะประกอบไปด้วย Ref. SBGH303 : Koke-iro (โคเค-อิโระ) หรือ Green Moss ทำงานด้วยกลไกไฮ-บีท ที่ทำงานด้วยความถี่ 36,000 รอบต่อชั่วโมง โดยมีหน้าปัดแบบ “Kiratsuri” ที่สื่อถึงป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแสงอาทิตย์ยามเช้า ที่ตกกระทบลงบนมอสที่ขึ้นปกคลุม พื้นป่าชิซูคุอิชิอันเป็นที่ตั้งของGRAND SEIKO Watch Studio Shizukuishi สถานที่ซึ่งนาฬิกา GRAND SEIKO ในแบบกลไกทุกเรือนจะถูกรังสรรค์ขึ้นตามแนวคิด Nature of time ของแบรนด์ ที่เชื่อมกับแนวคิด “วาบิซาบิ” ที่เป็นปรัชญาอันมีจุดกำเนิด จากประเทศญี่ปุ่นเมื่อราวศตวรรษที่ 15 เพื่อมุ่งเน้นในการหาความสุขด้วยการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ

 

Screen Shot 2565 08 05 at 16.32.07

 

ต่อมาคือนาฬิกาใน Ref. SBGY021 : Nami (นามิ) หรือ Suwa Wave ที่เป็นเรือนบอกเวลาที่ส่งต่อความงดงามของผิวน้ำ ถ่ายทอดออกมาเป็นหน้าปัดลวดลายคลื่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทะเลสาปสุวะ ที่แสงอาทิตย์จะตกกระทบในยามเย็น เพื่อถ่ายทอดความงดงามของธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ และสุดท้ายคือนาฬิกาใน Ref. SBGY025 : Hikari (ฮิคาริ) หรือ Golden Light ที่มีรูปแบบหน้าปัดอันคุ้นตาจาก “Iwate Dial” ที่ถูกนำมาตีความใหม่ เพื่อใช้พรรณนาความงดงามของแสงอาทิตย์สีทองสุดท้ายในยามเย็น ที่ลอดผ่านปุยเมฆและกระทบบนผิวน้ำ เหนือทะเลสาบสุวะในช่วงพลบค่ำ โดยนาฬิกาทั้งสองเรือนนี้จะมีความพิเศษจากการใช้กลไกอินเฮ้าส์ในขนาดที่บางเป็นพิเศษ

 

Nami1

 

และยังเป็นครั้งแรกของ GRAND SEIKO ที่ใช้กลไกอินเฮ้าส์ไขลานสปริงไดร์ฟคาลิเบอร์ 9R31 พร้อมระบบดูอัล-เมนสปริง (Dual-Main Spring) ที่ช่วยรักษาพลังสำรองลานอย่างยาวนานที่ 72 ชั่วโมงไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการสร้างสรรค์เรือนเวลาด้วยความประณีตและละเอียดอ่อนนี้ เป็นการสื่อให้เห็นถึงอัตลักษณ์อันเต็มเปี่ยมของความเป็นญี่ปุ่น ที่มีความตั้งใจถ่ายทอดความงามของธรรมชาติ ให้ตราตรึงอยู่ในเรือนเวลาสุดพิเศษ เพื่อแทนคำขอบคุณจากใจที่คนไทยให้การสนับสนุนนาฬิกาจาก GRAND SEIKO ด้วยดีเสมอมา โดยนาฬิการุ่นพิเศษทั้ง 3 รุ่นนี้จะเป็นการผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเพียงรุ่นละ 100 เรือนเท่านั้น พร้อมการแกะสลักอักษร “1 of 100” บนฝาด้านหลัง

 

Screen Shot 2565 08 05 at 16.32.13

 

นาฬิกาใน Ref. SBGH303 (Keko-iro) จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 259,900 บาท, ใน Ref. SBGY021 (Nami) จะมีราคาจำหน่ายที่ 345,900 บาท และใน Ref. SBGY025 (Hikari) จะมีราคาจำหน่ายที่ 345,900 บาท โดยนาฬิกาใน Ref. SBGH303 จะมาพร้อมสายหนังจระเข้พร้อมบานพับแบบสามทบอีก 1 เส้น และนาฬิกาใน Ref. SBGY021 และ SBGH303 จะมาพร้อมสายหนังจระเข้อีก 1 เส้นให้เลือกเปลี่ยนใช้งาน โดยสามารถสัมผัสและเป็นเจ้าของนาฬิกาทั้ง 3 รุ่นได้แล้ว ผ่านช่องทางการจำหน่ายทั้งที่บูติคนาฬิกา GRAND SEIKO ชั้น 1 เกษรวิลเลจ, GRAND SEIKO Online Boutique และ GRAND SEIKO Salon ในแผนกนาฬิกา ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Grand Seiko Line OA

 

Hikari1

 

 

 

 

Screen Shot 2565 08 05 at 16.55.57