ผลงานชิ้นเอกประจำปี 2021 จาก GRAND SEIKO
สูงขึ้นไปบนภูเขาทางตอนใต้ของภูมิภาคชินชูของญี่ปุ่นคือ Achi หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านท้องฟ้ายามค่ำคืนอันตระการตา ด้วยระดับความสูง ความห่างไกล และความสะอาดที่คมชัดของอากาศ ดวงดาวที่อยู่เหนือ Achi จึงดูเหมือนอยู่ใกล้ในระยะที่สัมผัสได้ และความใหญ่โตของจักรวาลจะถูกโฟกัสที่คมชัดที่สุด ด้วยตัวเรือนแพลตตินั่มและเข็มวินาทีที่เคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลซึ่งเคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบและต่อเนื่องผ่านหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มที่มีจุดประกายดาว ผลงานชิ้นเอกใหม่ของ GRAND SEIKO ใหม่นี้ทำให้ทั้งความยิ่งใหญ่ของสวรรค์และธรรมชาติของกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
ซึ่งภาพทั้งหมดนี้จะปรากฏอยู่บนหน้าปัดของนาฬิกาตัวเรือนแพลทตินั่ม พร้อมเข็มวินาทีที่จะเคลื่อนตัวอย่างลื่นไหล เงียบเชียบ และต่อเนื่อง กวาดผ่านหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มที่มีจุดประกายดาวอย่างงดงามที่สุด ที่จะสามารถสรุปได้ว่าผลงานชิ้นเอกใหม่ล่าสุดของนาฬิกา GRAND SEIKO นี้จะมีทั้งความยิ่งใหญ่ของสรวงสวรรค์และธรรมชาติของกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาชั่วนิรันดร์
ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์สปริงไดร์ฟอัตโนมัติคาลิเบอร์ 9R02 ที่ถูกนำเสนอครั้งแรกในปี 2019และเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของกลไกสปริงไดร์ฟที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลกในด้านความประณีตบรรจงแต่ไม่ธรรมดานี้ พร้อมด้วยคุณภาพที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือ รวมทั้งการทำงานอย่างลื่นไหลของเข็มวินาทีซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของกลไกสปริงไดร์ฟ ที่เป็นแบบอย่างอันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาจาก GRAND SEIKO
ดังนั้นเพื่อฉลองการครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้งบริษัท GRAND SEIKO จึงขอนำเสนอผลงานชิ้นเอกของกลไกสปริงไดร์ฟคาลิเบอร์ใหม่ ที่สร้างโดยทีมช่างนาฬิกาชั้นยอดที่ไมโครอาร์ททิสสตูดิโอของ GRAND SEIKO ในชิโอจิริ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคชินชูเดียวกันกับหมู่บ้านอาชิ โดยนาฬิการุ่นใหม่นี้จะวางจำหน่ายในแบบการผลิตจำนวนจำกัดที่ 50 เรือน และจะจำหน่ายเฉพาะที่บูติคนาฬิกา GRAND SEIKO ในเดือนสิงหาคม 2021
สีฟ้าของหน้าปัดจะมีความลึกอันน่าทึ่ง ซึ่งเน้นด้วยประกายแวววาวที่ละเอียดอ่อน ของดวงดาวที่อยู่ห่างไกลออกไป ด้วยเทคนิคการผลิตและการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่ผสมผสานการปั๊ม การชุบ และการลงสีที่ทำให้หน้าปัดมีมุมมองที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านอิชิ ตัวเรือนที่ผลิตจากแพลทตินั่ม จะได้รับการแกะสลักอย่างประณีตและขัดเงาอีกครั้งด้วยเทคนิคซารัทซึ
โดยมีความประณีตและความเพรียวบางด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวเรือนที่ 38.5 มิลลิเมตร พร้อมความหนาเพียง 9.8 มิลลิเมตร โดยมีเข็มชั่วโมงและนาทีพร้อมมาร์กเกอร์ที่ผลิตจากไวท์โกลด์ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าความเปล่งประกายของเข็มนาฬิกาและมาร์กเกอร์ จะคงอยู่ไปอย่างยาวนานหลายทศวรรษ รวมไปถึงชื่อของ GRAND SEIKO ขีดแสดงเวลานาที และเครื่องหมายอื่นๆ ทั้งหมดบนหน้าปัด
ทุกเหลี่ยมมุมของกลไกก็ได้รับการขัดแต่งอย่างประณีตที่สุด โดยมีตลับลานที่ด้านหลังของแท่นกลไก มีรูปลักษณ์ตามแบบของดอกเบลล์ฟลาวเวอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชิโอจิริ ขอบของบริจด์ทุกชิ้น ร่องสำหรับผนึกทับทิมสังเคราะห์ และสกรูว์ทั้งหมดได้รับการขัดเงาด้วยมืออย่างเชี่ยวชาญ จนได้ผิวแบบกระจกที่สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงบลูด์สกรูว์ที่จะโดดเด่นท่ามกลางลายขัดซาตินในแนวนอน ที่เน้นความสมบูรณ์แบบทางวิศวกรรม
กับความสามารถของระบบส่งกำลังลานในชุดกลไกนี้ ด้วยชุดลานสองชุดในตลับลานเดียวกัน ที่จะช่วยส่งพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ทำให้แรงของลานตกลงไปจากปกติ และสามารถให้พลังสำรองลานได้อย่างยาวนานถึง 84 ชั่วโมง ดังนั้นความภูมิใจนี้จึงจะจารึกอยู่บนแผ่นเยลโลว์โกลด์ที่ประกบติดบริเวณด้านล่างของกลไกและสลักคำว่า "Micro Artist" ซึ่งสามารถแทนที่ด้วยคำต่างๆ ตามความปราถนาได้ตามต้องการด้วยเช่นกัน
