GRAND SEIKO ฉลองรุ่งอรุณใหม่ด้วยงานออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากแสงแดดยามเช้า
ความเคารพต่อธรรมชาติอย่างลึกซึ้งเป็นหัวใจสำคัญของนาฬิกา GRAND SEIKO ทุกเรือน และความเคารพในธรรมชาติแห่งเวลาจะแสดงให้เห็นผ่านการทำงานของกลไกที่เที่ยงตรงแม่นยำของ GRAND SEIKO เสมอ และในดีไซน์ที่งามสง่า ก็ยังได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติที่ล้อมรอบสตูดิโอทั้งสองแห่งในชิซุกุอิชิและชินชู ที่ซึ่งนาฬิกาทุกเรือนได้รับการสร้างสรรค์ขึ้น โดยนาฬิการุ่นใหม่ที่ผลิตในแบบจำนวนจำกัดนี้ ผลิตขึ้นเพื่อฉลองการครบรอบ 60 ปีของ GRAND SEIKO ที่รวมทั้งสองแง่มุมของธรรมชาติแห่งเวลามาไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสเหนือภูเขาอิวาเตะในยามรุ่งอรุณ ทักทายช่างนาฬิกาและช่างเทคนิคที่ GRAND SEIKO Studio Shizukuishi เป็นภาพที่งดงามจับตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงของแสงอาทิตย์ยามเช้า เป็นการผสมผสานของสีที่เป็นแรงบันดาลใจของนาฬิกากลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติรุ่นใหม่ พื้นหน้าปัดสีน้ำเงินสะท้อนกับสีน้ำเงินของส่วนที่เป็นไทเทเนียมบนโรเตอร์ขึ้นลาน และวงแหวนสีแดงด้านในของฝาหลังที่กรุกระจกแซฟไฟร์สะท้อนถึงแสงแดดที่เรืองรองในยามเช้า เมื่อดวงอาทิตย์กำลังขึ้นและสาดแสงผ่านช่องหน้าต่างของสตูดิโอ
สีน้ำเงินของโรเตอร์ขึ้นลานเกิดขึ้นจากกระบวนการออกซิเดชั่นแบบอโนไดซ์ ซึ่งโลหะจะต้องผ่านกระบวนการอิเล็กโทรไลติคที่ทำให้เกิดฟิล์มออคไซด์ และฟิล์มออคไซด์นี้จะสร้างสีตามดัชนีการหักเหของแสง กับความหนาของฟิล์มออคไซด์ อันจะทำให้เกิดความงดงามกับนาฬิกา GRAND SEIKO ใน Ref. SBGR321 นี้
นาฬิการุ่นนี้ทำงานด้วยกลไกคาลิเบอร์ 9S65 ที่ให้พลังสำรองลาน 72 ชั่วโมง และมีความแม่นยำสูงที่ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน โดยได้รับการประกอบ ปรับแต่ง และตรวจสอบด้วยมือที่ GRAND SEIKO Studio Shizukuishi ที่เพิ่งเปิดเมื่อไม่นานมานี้ ที่ซึ่งแรงบันดาลใจของภูเขาอิวาเตะและรูปลักษณ์ที่งามสง่าเผยให้เห็นอย่างชัดเจน โดยนาฬิกา GRAND SEIKO รุ่นนี้จะเป็นการผลิตในแบบจำนวนจำกัด 2,500 เรือน และจะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนตุลาคม 2020 นี้
นาฬิกา GRAND SEIKO ในซีรี่ส์ 60th Anniversary Limited Edition ทำงานด้วยกลไกที่มีความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง (8 บีทต่อนาที) ในตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร หนา 13 มิลลิเมตร ประกบคู่กับสายที่ผลิตจากสตีลติดตั้งบานพับล็อคแบบสามทบและปุ่มกดปลดล็อค พร้อมกรุกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน โดยมีฝาหลังแบบขันเกลียวกรุกระจกแซฟไฟร์โปร่งใส และเม็ดมะยมแบบขันเกลียวแน่น กันน้ำได้ในระดับ 10 บาร์ พร้อมการป้องกันสนามแม่เหล็กระดับ 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร (A/m) และมีราคาขายในยุโรปที่ 5,300 ยูโร