SEIKO Prospex LX Line Limited Edition, Ref. SNR045J
จากแรงบันดาลใจของมอสส์สีเขียวที่เติบโต จนเป็นป่าอันสวยงามใต้ท้องทะเลสาบในทวีปแอนตาร์กติกา จึงเกิดเป็นคอลเล็คชั่นที่ 3 ของนาฬิการุ่น LX ลิมิเต็ดเอดิชั่น จากการเปิดตัวนาฬิการุ่น LX ครั้งแรกเมื่อปี 2019 และถือเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็คชั่น Prospex ในฐานะที่เป็นสุดยอดของนาฬิกาในกลุ่มสปอร์ตลักชัวรี่
โดยชื่อ LX มาจากภาษาละตินที่มีความหมายถึง แสงและสื่อถึงการที่แสงได้สะท้อนกระทบในแต่ละเหลี่ยมมุม และบนพื้นผิวที่กว้างเรียบบนตัวเรือนนาฬิกาที่เงางาม โดยสำหรับนาฬิกา LX ลิมิเต็ดเอดิชันรุ่นใหม่นี้ ถูกหล่อหลอมขึ้นเพื่อสะท้อนผ่านนาฬิกาในคอลเล็คชั่น LX โดยเฉพาะรายละเอียดบนหน้าปัดของนาฬิกา ที่ได้นำเสนอลวดลายของความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ได้อย่างลึกล้ำ
ย้อนกลับไปในปี 1965 เมื่อ SEIKO ได้เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกออกสู่ตลาด และนาฬิกาได้ถูกส่งต่อไปให้กับนักวิจัยและนักสำรวจ ที่จะต้องเดินทางเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย โดยที่ตัวนาฬิกาเองก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงาน แม้จะอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่สุดขั้วก็ตาม อย่างเช่นสถานีวิจัยของญี่ปุ่นในทวีปแอนตาร์กติกา และบนพื้นที่แห่งนี้เองที่นักวิจัยญี่ปุ่น ได้ค้นพบป่าใต้น้ำอันสุดลึกลับ ของมอสที่ทอดตัวสูงเหมือนกับเสา และทอดตัวเป็นแนวอยู่ที่ใต้ของทะเลสาบซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง
เสามอสอันเป็นเอกลักษณ์และมหัศจรรย์นี้ ใช้เวลาหลายศตวรรษในการก่อตัวใต้น้ำ และเมื่อถูกค้นพบโดยนักวิจัยชาวญี่ปุ่น พวกเขาได้ตั้งชื่อว่า "kokebozu" (โคเคะโบซึ) ซึ่งเป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ประกอบด้วย koke (โคเคะ) หมายถึงมอสส์ และ bouzu (โบซึ) หมายถึงชายหนุ่ม โดยเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบันว่า kokebozu ซึ่งไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของมอสส์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากมอสส์ สาหร่าย และแบคทีเรียต่างๆ ร่วมกัน
บนหน้าปัดของนาฬิกาที่ผลิตแบบจำนวนจำกัดรุ่นนี้ นำเสนอเรื่องราวความมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเลอย่างเสามอสส์ ขอบเบเซิลที่ผลิตจากเซรามิคสีเขียว ที่แสดงให้เห็นถึงลมหายใจของสิ่งมีชีวิต ที่อยู่บนพื้นดินใต้ท้องทะเลของแอนตาร์กติคมาเป็นเวลานาน โดยออกแบบสะท้อนให้เห็นถึงทุกรายละเอียด ของตัวเรือนนาฬิกาที่ได้รับอิทธิพลมาจากเรือนรุ่นปี 1968 ที่ถือเป็นหนึ่งในรุ่นประวัติศาสตร์ของ SEIKO พร้อมความสามารถในการกันน้ำได้ในระดับ 300 เมตร และใช้กลไกที่ทำงานด้วยความถี่ในระดับสูง
การรีเอดิชั่นของนาฬิกาดำน้ำจากรุ่นปี 1968 ซึ่งอยู่ในคอลเล็คชั่น Prospex ในปัจจุบันนี้นั้น แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมและความสำเร็จ ด้วยการคว้ารางวัล Sports Watch Prize ในปี 2018 ในการจัดงานอันโด่งดังและทรงเกียรติที่สุดของโลกนาฬิกาอย่าง Grand Prix d’Horlogerie de Genève
ตัวเรือนได้รับการขัดแต่งด้วยกรรมวิธีซารัทซึอันเลื่องชื่อของ SEIKO พื้นผิวที่ถูกขัดจนเงาดังกระจกของตัวเรือน ปราศจากการบิดเบี้ยวของภาพสะท้อน และรูปทรงของตัวเรือน ที่ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้นาฬิกาดูทันสมัย และสวมใส่สบายขึ้นเมื่ออยู่บนข้อมือ นอกจากนี้นาฬิกาในตระกูล LX ยังได้รับรางวัล Diver’s Watch Prize จากการจัดงาน Grand Prix d 'Horlogerie de Genève เมื่อปี 2019 อีกด้วย
นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมสเป็คตัวเรือน ที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างสุดขั้ว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้งานของนักดำน้ำมืออาชีพ ซึ่งก็รวมถึงความสามารถในการกันน้ำ เมื่อต้องดำน้ำแบบอิ่มตัว (Saturation diving) ที่ความลึก 300 เมตร พร้อมขอบเบเซิลแบบหมุนทางเดียว และแถบสเกลสำหรับใช้ในการจับเวลา
สายมาพร้อมกับปุ่มกดเพื่อคลายล็อค และมีกลไกที่สามารถปรับความยาวได้ เพื่อรองรับกับการใช้งานของนักดำน้ำ และรวมถึงความยอดเยี่ยมในด้านอื่นๆ อีกมากมาย โดยสำหรับตัวอักษร ‘Limited Edition’ จะถูกสลักอยู่บนฝาหลัง เช่นเดียวกับหมายเลขเรือนที่ผลิต ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 001/500 ไปจนถึง 500/500 เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพิเศษ ในการผลิตแบบจำนวนจำกัด
กลไกอินเฮ้าส์สปริงไดรฟ์คาลิเบอร์ 5R65 พร้อมความโดดเด่นในด้านความไหลรื่น ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ของเข็มวินาทีและพลังสำรองลานนาน 72 ชั่วโมง (3 วัน) เมื่อมีการขึ้นลานจนเต็ม นอกจากนี้ยังมีความทนทาน ต่อการใช้งานภายใต้รูปแบบสไตล์สปอร์ต เช่นเดียวกับความทนทานในทุกสภาวะ เช่น อุณหภูมิที่สูง และการกระแทกที่คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ ในระหว่างที่คุณสวมใส่นาฬิกา เพื่อใช้งานในกิจกรรมทางน้ำและการปีนเขา