Senator Tourbillon - Edition Alfred Helwig นาฬิกา ฟลายอิ้ง ตูร์บิยอง ลิมิเต็ด เอดิชั่น รุ่นใหม่จาก GLASHÜTTE ORIGINAL ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้คิดค้น ฟลายอิ้ง ตูร์บิยอง
GLASHÜTTE ORIGINAL (กลาสฮุตเตอ ออริกินาล) แบรนด์นาฬิกาเยอรมันรายสำคัญ นำนาฬิการะดับสูงอันยอดเยี่ยมของตนรุ่น Senator Tourbillon ที่มอบความแม่นยำในการทำงานด้วยจักรกลตูร์บิยองแบบฟลายอิ้ง มาปรับงานดีไซน์หน้าปัดใหม่เพื่อให้เป็นรุ่น ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด สุดพิเศษเพียงแค่ 25 เรือน ที่ใช้ชื่อเต็มๆ ว่า Senator Tourbillon - Edition Alfred Helwig ซึ่งเป็นการสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง Alfred Helwig ผู้คิดค้นลักษณะของตูร์บิยองแบบฟลายอิ้งขึ้นมาเมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว
ก่อนจะกล่าวถึงความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้ ขอแนะนำให้รู้จักกับ Alfred Helwig กันสักนิด คุณ Alfred ท่านนี้ เป็นบุคลากรคนสำคัญของโรงเรียนช่างนาฬิกาแห่งกลาสฮุตเตอในเยอรมนี German School of Watchmaking Glashütte โรงเรียนเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1878 โดยเริ่มตั้งแต่เป็นนักเรียน จนเป็นช่างนาฬิกาและก็ได้เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นเวลายาวนานถึงกว่า 40 ปี คุณ Alfred ท่านนี้เองที่เป็นผู้คิดค้นจักรกลตูร์บิยองที่มีลักษณะเป็นแบบฟลายอิ้งขึ้นมาเป็นคนแรกตั้งแต่ ค.ศ. 1920 โดยฟลายอิ้งตูร์บิยองที่เขาคิดคันขึ้นนี้จะใช้บริดจ์หรือค็อกยึดจับชุดกรงตูร์บิยองอยู่แค่ฝั่งด้านล่างฝั่งเดียว แทนที่จะยึดประกบไว้ทั้งฝั่งด้านบนและด้านล่างเหมือนอย่างตูร์บิยองแบบดั้งเดิม ซึ่งก็ทำให้มองเห็นการทำงานของตูร์บิยองได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีอะไรมาบดบัง และกลายเป็นรูปแบบตูร์บิยองที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้มีแบรนด์ GLASHÜTTE ORIGINAL เป็นผู้ให้การสนับสนุน และใช้ชื่อโรงเรียนว่า Alfred Helwig School เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณ Alfred ท่านนี้
หน้าปัดของเอดิชั่น Alfred Helwig รุ่นนี้ใช้เป็นสีเงินที่ฟินิชชิ่งเป็นผิวเกรนสุดละเอียด และใช้เข็มสีน้ำเงิน (หน้าปัดของรุ่นปกติเป็นสีดำด้าน และใช้เข็มเคลือบโรเดียม) ขณะที่หลักชั่วโมงเลขโรมันกับสเกลนาทีแบบรางรถไฟที่เป็นสีดำนั้นเป็นการสลักด้วยเลเซอร์เพื่อให้เส้นคมกริบไร้ที่ติ อีกทั้งหลักชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 1 นาฬิกา ยังถูกแทนที่ด้วยข้อความระบุหมายเลขประจำเรือน “Nr. XX/25” อีกต่างหาก โดยนาฬิกาที่เป็นพื้นฐานในการสร้างเอดิชั่นพิเศษนี้ก็คือ Senator Tourbillon รุ่นปัจจุบันซึ่งเริ่มออกจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2013
ตัวเรือนขนาด 42 มม. หนา 13.7 มม. ของเอดิชั่น Alfred Helwig รุ่นนี้ทำจากวัสดุไวท์โกลด์ ผนึกกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ที่เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนมาทั้ง 2 ฝั่ง โดยจับคู่มากับสายหนังจระเข้หลุยเซียน่าสีดำพร้อมตัวล็อคแบบบานพับวัสดุไวท์โกลด์ และยังคงขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ อินเฮ้าส์ ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ขนาดกลางที่ติดตั้งแบบเยื้องศูนย์กลาง และให้กำลังสำรองได้ 48 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเครื่องเดียวกับรุ่นปกติ นั่นก็คือ คาลิเบอร์ 94-03 โดยมีการตกแต่งมาอย่างงดงามในสไตล์ของตนเอง อันได้แก่ ลายแถบริ้วแบบฉบับของ กลาสฮุตเตอ, การขัดลบเหลี่ยมที่บริเวณขอบ, การใช้สกรูว์สีน้ำเงิน และใช้โรเตอร์ที่ฉลุสเกเลตันเป็นสัญลักษณ์ ดับเบิ้ล-จี ของแบรนด์ ซึ่งฟินิชเป็นแบบทูโทน คือ สีเงินกับสีทอง โดยมีชิ้นถ่วงน้ำหนักเป็นทองคำ 21 เค ซึ่งสามารถชมความงามเลิศนี้ได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลัง ส่วนตูร์บิยองแบบฟลายอิ้งที่ประกอบขึ้นด้วยชิ้นส่วนถึง 72 ชิ้น แต่มีน้ำหนักเพียงแค่ 0.2 กรัมนั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากช่องกลมขนาดใหญ่บนหน้าปัดซึ่งติดตั้งอยู่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยมีการติดตั้งชิ้นปลายเข็มสำหรับชี้แสดงค่าวินาทีไปยังสเกลวินาทีบนหน้าปัดซึ่งอยู่รอบช่องตูร์บิยองอีกด้วย
ความยอดเยี่ยมของกลไกรุ่นนี้ นอกจากควบคุมการแสดงเวลาอย่างแม่นยำด้วยตูร์บิยองแบบฟลายอิ้งแล้ว ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น “พานอรามา เดท” อันเป็นลักษณะฟังก์ชั่นการแสดงวันที่อันโดดเด่นของแบรนด์ ด้วยตัวเลขขนาดใหญ่บนจานดิสก์ 2 จานประสานต่อเนื่องชิดกันและเป็นระนาบเดียวกันเพื่อแสดงค่าอย่างชัดเจนผ่านช่องหน้าต่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ (ต่างจากฟังก์ชั่น บิ๊กเดท หรือ ลาร์จเดท ของแบรนด์อื่นๆ ที่มักจะต้องใช้หน้าต่างแบบช่องคู่เพื่อบังช่องว่างระหว่างจานดิสก์) ซึ่งของรุ่นนี้จะอยู่ที่ตำแหน่งระหว่างหลักชั่วโมง 12 นาฬิกา กับแกนเข็มกึ่งกลางหน้าปัด อันเป็นตำแหน่งที่สมดุลย์ลงตัวเป็นอย่างยิ่ง โดยฟังก์ชั่นวันที่แบบ “พานอรามา เดท” นี้ ทางแบรนด์เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1997 ซึ่งก็เท่ากับว่าปี 2017 นี้ก็มีอายุได้ 20 ปีแล้ว
By: T.Viracharn