Glashütte Original Pano Inverse XL
ดีไซน์ที่แตกต่าง และความซับซ้อนเชิงเทคนิค คือองค์ประกอบสำคัญของความสวยงาม ที่มีหลากหลายด้าน ตั้งแต่ดีไซน์ที่สวยงามและไม่เคยตกยุคสมัย การเลือกใช้วัสดุล้ำค่า และความสลับซับซ้อนที่แสดงผ่านรูปลักษณ์ รวมไปถึงความประณีตบรรจงในการรังสรรค์กลไกนาฬิกาเรือนหนึ่งๆ
ในปี 2008 จากการกลับด้านของกลไกหลายส่วน ที่ทำให้บาลานซ์บริดจ์ที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม ได้มีโอกาสมาแสดงตัวบนหน้าปัดนาฬิกาเป็นครั้งแรก ซึ่งโดยปกติแล้วจะเห็นได้ผ่านทางกระจกแซพไฟร์บนฝาหลังเท่านั้น และด้วยสไตล์ออฟเซ็นเตอร์บนหน้าปัดของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Pano ทำให้การจัดวางชุดปรับสวอนเนคแบบคู่ ที่คิดค้นโดย Glashütte Original ยิ่งดูโดดเด่นและลงตัวที่สุด โดยยังคงฟังก์ชั่นการปรับแต่งอัตราการแกว่งของบาลานซ์วีลได้ตามรูปแบบเดิมอย่างเที่ยงตรงและแม่นยำ
ซึ่งจากความสวยงามของชุดปรับแบบสวอนเนคนี่เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้วิศวะกรและนักออกแบบ ทำการปรับปรุงกลไกไขลานคาลิเบอร์ 66 ขึ้นใหม่ โดยพยายามวางตำแหน่งชุดปรับสวอนเนคในมีลักษณะคล้ายกับผีเสื้อ เพื่อเป็นจุดดึงความสนใจบนหน้าปัด จนกลายเป็นชุดปรับสวอนเนคแบบคู่ ที่แม้ว่าความคิดดังกล่าวจะต้องผ่านกระบวนการปรับแต่ง และปรับปรุงหลายต่อหลายส่วนขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเพลททั้งสามชิ้น รวมไปถึงจักร และกลไกที่เกี่ยวข้องกับชุดพลังงานสำรองต่างๆ
ความงดงามจากด้านหลัง นำออกสู่ด้านหน้านี้เอง ที่เป็นเหตุให้นาฬิการุ่นนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัวในปี 2010 และอีกครั้งในปี 2012 กับขนาดตัวเรือนที่ใหญ่ขึ้นเป็น 42 มิลลิเมตร โดยยังมีรูปแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นอีกสองเวอร์ชั่น ที่ต่างก็ประสบผลสำเร็จอย่างงดงามอีกเช่นเคย นอกจากนี้ในปี 2014 ก็ยังมีการนำเสนอรุ่น Pano Matic Inverse ซึ่งใช้กลไกอัตโนมัติรหัส 91-02 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 42 ชั่วโมง ทั้งที่ยังคงขนาดตัวเรือน 42 มิลลิเมตรไว้ พร้อมหน้าปัดแบบเยื้องศูนย์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน นาฬิการุ่นนี้ก็จะยังคงความโดดเด่นได้อย่างชัดเจนและแน่นอนในทุกจุดของความเป็น Glashütte Original