La Esmeralda Tourbillon "A Secret" Edition Honey

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 GIRARD-PERREGAUX ณ เมืองลาโชซ์-เดอ-ฟองส์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่เป็นบ้านเกิดของ Constant Girard ช่างนาฬิกาผู้มีความสามารถที่ต่อมาแต่งงานกับ Marie Perregaux ในปี 1854 ที่การแต่งงานของสองได้กลายเป็นความหมายของนาฬิกาในระดับสูง และแม้ว่าการผสมผสานระหว่างสองนามสกุล จะไม่ใช่เรื่องแปลกในอุตสาหกรรมนาฬิกา แต่ GIRARD-PERREGAUX ถือเป็นนาฬิกาแบรนด์เดียว ที่มีชื่อของทั้งสองตระกูลที่มาจากความรักไม่ใช่ธุรกิจ

 

Screenshot 2567 10 26 at 19.42.37

 

ลาโชซ์-เดอ-ฟองส์ ที่เป็นเมืองที่อุทิศให้กับการผลิตนาฬิกาโดยเฉพาะ จากอาคารสูงของเมืองและการจัดวางถนน ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติที่เหมาะสมที่สุด กับเวิร์กช็อปต่างๆ ที่จะได้รับแสงสว่างที่ดีและทำให้การทำงานด้วยมือและตาเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นาฬิกาจาก GIRARD-PERREGAUX ในแต่ละเรือนต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีรอบเมืองเป็นทิวทัศน์อันเขียวขจี พร้อมแสงสีทองอันอบอุ่นในช่วงเย็นของฤดูร้อน

 

Screenshot 2567 10 26 at 19.42.07

 

ที่ GIRARD-PERREGAUX ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความงามของภูมิทัศน์ที่งดงาม และทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานเรือนเวลา La Esmeralda Tourbillon “A Secret” Eternity Edition อันโด่งดังได้อย่างงดงาม พร้อมการตกแต่งด้วยโทนสีน้ำผึ้ง พร้อมชุดกลไกที่แม้ว่า GIRARD-PERREGAUX จะเป็นผู้ผลิตชุดกลไกได้ด้วยตัวเอง แต่ก็มีบางส่วนที่จัดหาจากผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น ซึ่งเป็นประเพณีที่มีประวัติย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 และเป็นรากฐานสำคัญของแบรนด์

 

Screenshot 2567 10 26 at 19.43.34

 

ในความเป็น "เมืองแห่งการผลิตนาฬิกา" ที่นาฬิการุ่น La Esmeralda Tourbillon “A Secret”Eternity Edition สามารถเป็นผลงานสร้างสรรค์ล่าสุดได้อย่างเต็มภาคภูมิ จากความพยายามในการใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญของผู้ชำนาญการในท้องถิ่น ที่ 99% ของส่วนประกอบที่สร้างเป็นนาฬิกาเรือนนี้ล้วนแล้วแต่มาจากลาโชซ์-เดอ-ฟองส์ และด้วยความมุ่งมั่นในการแสวงหาความเป็นเลิศ Constant Girard จึงสร้างสรรค์นาฬิกาพกที่มีความแม่นยำสูงหลายเรือน ซึ่งทำให้นาฬิกาของแบรนด์ได้รับรางวัลมากมาย

 

Screenshot 2567 10 26 at 19.43.53

 

จนในปี 1889 ที่งาน EXPOSITION UNIVERSELLE ในปารีสที่ Constant ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น La Esmeralda อันเป็นนาฬิกาพกสุดพิเศษที่ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง จากความที่ La Esmeralda มีความแตกต่างจากนาฬิการุ่นก่อนๆ ตรงที่มีบริจด์สามชุดที่ผลิตจากทองคำ พร้อมสไตล์และรูปแบบอันประณีต ในตัวเรือนของนาฬิกาพกที่ได้รับการแกะสลักอย่างประณีตโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีหน้าปัดที่เป็นเทคนิคกรองด์ฟูว์อีนาเมลสีขาว จนกระทั่งในอีก 135 ปีต่อมาที่ตำนานแห่ง La Esmeralda ได้กลับมาอีกครั้ง

 

Screenshot 2567 10 26 at 19.44.16

 

กับ La Esmeralda Tourbillon 'A Secret' Eternity Edition ในตัวเรือนพิ๊งค์โกลด์ขนาด 43 มิลลิเมตรที่โดดเด่น ด้วยบริจด์ทองคำทั้งสาม พร้อมหน้าปัดกรองฟูว์อีนาเมลสีน้ำผึ้ง พร้อมตัวเรือน สาย ขอบ และชุดล็อคที่ได้รับการแกะสลักด้วยมืออย่างประณีต ซึ่งเป็นการรำลึกถึงนาฬิกาพก แห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์จากปี 1889 ในหน้าปัดที่มีชีวิตชีวาด้วยลวดลายซันเรย์กิโยเช่ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยมืออย่างเชี่ยวชาญ จากการใช้เครื่องกลึงและแกะลวดลายตามแบบฉบับดั้งเดิมของแบรนด์

 

Screenshot 2567 10 26 at 19.44.31

 

โดยหัวใจของนาฬิกาก็คือกลไกตูร์บิยอง อันเป็นซิกเนเจอร์สำคัญของแบรนด์ ที่มาพร้อมบริจด์ทองคำสามชุดด้วย ภายใต้กลไกตูร์บิยองอัตโนมัติอินเฮ้าส์รหัสคาลิเบอร์ GP09600 พร้อมพลังงานที่ส่งผ่านมาจาก ไมโครโรเตอร์ที่ผลิตจากไวท์โกลด์ โดยมีสิทธิบัตรสำหรับกลไกชุดนี้จากปี 1884 ที่ยังคงเปี่ยมล้นด้วยความประณีตและสมบูรณ์แบบ เพื่อพร้อมสานต่อตำนานอันลือลั่นของแบรนด์ ในด้านการสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลาที่ดีที่สุด ตามแบบฉบับของแบรนด์ที่พร้อมทั้งความงดงามและความเที่ยงตรง

Screenshot 2567 10 26 at 19.35.45

ซึ่งนอกจากหน้าปัดแล้ว ตัวเรือนยังเคลือบด้วยโทนสีในแบบกรองด์ฟูว์สีน้ำผึ้ง อันเป็นเทคนิคในเชิงศิลปะที่ดำเนินการโดย DONZÉ CARDRANS อันเป็นโรงงานในเครือของแบรนด์ ด้วยการใช้เทคนิคชองพลีเว่ (Champlevé) และแต่งแต้มพื้นผิวด้วยเสน่ห์อันไม่ทำให้เกิดการซีดจาง พร้อมด้านหลังของตัวเรือนที่มีการแกะสลักอย่างประณีตด้วยลวดลายร่อง ผนวกเข้ากับลวดลายม้าสามตัวที่พบได้ ในนาฬิกาพกอันเป็นประวัติศาสตร์ที่ลือลั่นของแบรนด์

 

Screenshot 2567 10 26 at 19.35.24

 

ร่วมกันทำให้นาฬิการุ่นล่าสุดนี้ ได้เชิดชูกลไกระดับโครโนมิเตอร์ จากนาฬิกาพกอันยอดเยี่ยมที่ผลิตโดย Constant Girard ในปี 1889 ที่แสดงให้เห็นถึงทักษะและพรสวรรค์ ที่หาได้ยากของช่างฝีมือระดับตำนาน ซึ่งนอกจากนี้ La Esmeralda Tourbillon 'A Secret' Eternity Edition Honey ยังเป็นการฉลองให้กับเฉดสีอันเข้มข้น ที่แต่งแต้มภูมิทัศน์ของลาโชซ์-เดอ-ฟองส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ GIRARD-PERREGAUX ไปพร้อมกันอีกด้วย พร้อมความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้ที่จะผลิตขึ้นเพียง 18 เรือนเท่านั้น

00089 scaled e1726469959728