Sage Green and Ultramarine Blue, 2 new color for Laureato 42mm, Part II
"สีน้ำเงินอัลตรามารีน" มีมาตั้งแต่สหัสวรรษที่ 4 ก่อนคริสตศักราช และลักษณะของลาพิสลาซูลี ชื่อนี้ที่ได้มาจากภาษาละตินว่า 'Ultramarinus' ซึ่งหมายถึง 'เหนือทะเล' อันมีความหมายถึงภูมิภาคต้นกำเนิด โดยสีน้ำเงินอุลตร้ามารีน ซึ่งบางครั้งก็เรียกว่า 'สีน้ำเงินที่แท้จริง'ต่อมาได้กลายเป็นลักษณะเด่น ของภาพวาดในยุคเรอเนซองส์หลายภาพ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ ศิลปินจึงใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น และในขณะนี้ที่เป็นหน้าปัดของ Laureato Pink Gold Ultramarine Blue ใหม่ล่าสุดนี้
โดยหน้าปัดทั้งสองต่างก็มีชีวิตชีวา มากขึ้นด้วยลวดลายคลูส์เดอปารีส์ ที่ทำให้พื้นผิวของหน้าปัดมีเสน่ห์มากขึ้นในแบบสามมิติ โดยหน้าปัดที่มีพื้นผิวเป็นลวดลายนี้ เกิดจากกระบวนการทางการผลิตที่ใช้มากกว่า 50 ขั้นตอนที่ต้องเน้นย้ำ ให้เห็นลวดลายที่สร้างขึ้นอย่างประณีตและละเอียดบรรจง โดยคุณลักษณะหลังนี้ทำให้เฉดสีของหน้าปัด ดูแตกต่างออกไปเมื่อมองจากมุมต่างๆ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว พื้นผิวของทั้งสองสีสันจะเผยให้เห็น เป็นเฉดสีเขียวและเฉดสีน้ำเงินได้ถึงห้าสิบเฉด ซึ่งต่างก็มีเสน่ห์เย้ายวนอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งสองเฉดสีหน้าปัดจะนำเสนอในตัวเรือนและสายพิ๊งค์โกลด์ โดยยังคงรักษาประเพณีด้านการผลิตตามสไตล์ของ Laureato ในทุกประการตั้งแต่การจัดให้มีพื้นผิว ทั้งแบบขัดเงาและขัดเงาซาตินไว้ด้วยกันตลอด ในทุกจุดทั้งตัวเรือนและสายที่เข้าคู่กันได้ดี รวมทั้งช่วยทำให้นาฬิกาสามารถมีลุคที่เข้ากัน ได้ดีกับข้อมือของผู้สวมใส่ตามหลักสรีรศาสตร์ จากแนวคิดของคำว่า 'ปราชญ์' ที่เป็นนิยามของคำว่า "ความฉลาดอันเกิดขึ้นได้จากประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม"ที่เป็นคำที่สามารถใช้เพื่ออธิบายถึง GIRARD-PERREGAUX
ได้เป็นอย่างดีด้วยประสบการณ์มากมายในตลอด 230 ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้งานด้านการผลิตของแบรนด์ เป็นที่รู้จักกันดีในแง่ความชาญฉลาด และทำให้การเลือกใช้สีสันของหน้าปัด Laureato Pink Gold Sage Green ใหม่มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง พร้อมการทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ GP01800 ที่ประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 191 ชิ้นพร้อมการตกแต่งอย่างสวยงาม ตั้งแต่แผ่นกลไกหลักที่ตกแต่งด้วยลายเซอร์กูล่าเกรนน์ ในขณะที่ชิ้นส่วนอีกหลายชิ้นมีทั้งการเจียระไน การขัดเงาแบบกระจก การขัดเงาแบบซาติน
รวมไปถึงงานด้านการแกะสลักต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบริจด์ที่ได้รับการตกแต่งด้วยลวดลายโค๊ทส์เดอเจเนฟ และโรเตอร์ทองคำที่ตกแต่งด้วยลวดลายเดียวกัน สุดท้ายนี้กับความสามารถของกลไกที่มอบพลังสำรองลานได้นานอย่างน้อย 54 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องผ่านกระบวนการ จำนวนมากเพื่อสามารถให้กลไกของ Laureato ใหม่นี้สมบูรณ์แบบ อันรวมไปถึงงานด้านการตกแต่งชดกลไก ที่ประณีตและใช้เวลาอย่างอดทน จากการที่ GIRARD-PERREGAUX ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1791 พร้อมความเป็นผู้ผลิตอิสระมาโดยตลอด