FREDERIQUE CONSTANT Slimline Power Reserve Manufacture
ท่ามกลางนาฬิกาแบรนด์ต่างๆ ในตลาด ที่ต่างก็มุ่งเน้นให้แบรนด์เกิดมูลค่าขึ้นมาในสายตาของนักสะสม FREDERIQUE CONSTANT กลับมุ่งเน้นไปที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ที่จะทำให้เกิดมูลค่าที่แท้จริงของแบรนด์ได้ จากความสามารถด้านต่างๆ ประกอบรวมเข้าด้วยกัน และสำคัญที่สุดกับราคาจำหน่ายที่จับต้องได้
เพราะสำหรับนาฬิกาแบรนด์ต่างๆ ในโลกแล้ว หลายต่อหลายครั้งมักไม่ได้มีคำตอบที่ดีนัก กับคำถามที่ว่าทำไมนาฬิกาแบรนด์โด่งดังทั้งหลาย จึงมีราคาค่าตัวที่สูงลิบลิ่วอย่างหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ ในขณะที่เหตุผลที่แท้จริงของความเป็นนาฬิกานั้น ก็คือความสามารถด้านต่างๆ ของตัวนาฬิกาเอง มิใช่ราคาในตลาด
อย่างที่ Dr. Peter Stas ผู้ก่อตั้งแบรนด์ FREDERIQUE CONSTANT รู้สึก จากจุดเริ่มต้นของความต้องการที่จะสร้างนาฬิกาฟังก์ชั่นระดับสูง ในราคาที่เป็นไปได้ในตลาด เพื่อให้ผู้คนได้รู้สึกอิ่มเอมจากการได้เป็นเจ้าของนาฬิกาฟังก์ชั่นระดับสูงเหล่านี้ และไม่ทำให้โลกของนาฬิการะดับสูง ไม่ได้เป็นสิ่งเกินเอื้อมในชีวิต
Slimline Power Reserve Manufacture ถือเป็นไลน์นาฬิการุ่นราคาเริ่มต้น ของกลุ่มนาฬิกาที่ผลิตจากกลไกอินเฮ้าส์ของแบรนด์ พร้อมความสามารถและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เทียบเคียงได้กับนาฬิการะดับราคาสูงทั่วๆ ไป ซึ่งมาพร้อมกับทั้งฟอร์มและฟังก์ชั่น ตามแบบฉบับนาฬิการะดับสูง ที่ผลิตตามมาตรฐานของสวิตเซอร์แลนด์
เนื่องจากพลังสำรองลาน เป็นหนึ่งในสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นนาฬิกาแบบกลไก ทั้งยังบ่งบอกได้ถึงปฏิสัมพันธ์ของนาฬิกาต่อผู้ใช้งาน ว่าพลังสำรองลานที่จะทำให้กลไกนาฬิกาสามารถทำงานได้อย่างปกติ อยู่ในระดับใดแล้ว เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รู้สึกและรับรู้ร่วมกันกับตัวนาฬิกา ในการใช้งานของชีวิตประจำวัน
โดยกลไกชุดนี้ถือเป็นกลไกอินเฮ้าส์ลำดับที่ 28 ของ FREDERIQUE CONSTANT ด้วยความสามารถของพลังสำรองลานนาน 50 ชั่วโมง ที่มีการเพิ่มเติมชุดโมดูล กับกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติพื้นฐานในคาลิเบอร์ FC-703 จนกลายมาเป็นกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติในคาลิเบอร์ FC-723 ชุดนี้
กับลุคคลาสสิคที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นนาฬิการะดับสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมดีกรีของกลไกที่สร้างขึ้นเองโดย FREDERIQUE CONSTANT พร้อมความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยความหรูหรา และผ่านขั้นตอนกระบวนการออกแบบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นมาร์กเกอร์แสดงเวลา สีสันของหน้าปัด หรือเข็มนาฬิกา
กลไกอินเฮ้าส์ชุดนี้ทำงานที่ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง พร้อมการขัดแต่งลวดลายต่างๆ บนแท่นกลไกอย่างครบถ้วน โดยสามารถมองเห็นได้ผ่านทางกระจกแซฟไฟร์ด้านหลัง กับขนาดตัวเรือนที่ 40 มิลลิเมตรที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้คนยุคนี้ เข้าคู่กันกับสายหนังจระเข้แท้ที่ตัดเย็บอย่างประณีต
พร้อมทางเลือกอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแบบตัวเรือนสตีล หน้าปัดสีน้ำเงิน หน้าปัดสีขาว หรือหน้าปัดสีเทา หรือจะเป็นแบบตัวเรือนสตีลเพลทสีโรสโกลด์ พร้อมหน้าปัดสีขาว กับราคาจำหน่ายเริ่มต้นในประเทศไทยที่ 118,000 บาทกับแบบตัวเรือนสตีล จนถึง 129,000 บาทในแบบตัวเรือนสตีลเพลทสีโรสโกลด์
