Untold Story “THE CARTIERS” Part IV
โชคร้ายในเดือนกันยายนปี 1908 Louis ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์นอกปารีส เขาขับรถชนนักปั่นจักรยานสามคน ซึ่งมีหนึ่งคนเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากอาการบาดเจ็บ ส่วนตัว Louis เองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยขาหักถึงสามแห่งและต้องพักรักษาตัวเป็นเวลาหลายเดือน แต่เขาก็ได้รับการบำบัดฟื้นฟูอย่างดีจากเพื่อนสมัยเด็ก Dr. Heitz-Boyer ผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือในภายภาคหน้าต่อ CARTIER พร้อมฐานะแพทย์ประจำตัวของมหาอำมาตย์แห่งมาราเกชของเขาและหลังจากนั้นกว่าสองเดือนต่อมา Andrée-Caroline ภรรยาของเขาก็ขอหย่าร้างหลังจากที่ทั้งคู่พยายามสร้างภาพคู่รักมามากว่าทศวรรษ โดยการหย่าร้างได้ดำเนินการในปีถัดมา แต่ถึงแม้ว่าชีวิตการแต่งงานของทั้งคู่จะอยู่ในขั้นที่ย่ำแย่ และเป็นที่รับรู้ของคนรอบข้างมาโดยตลอด แต่สายสัมพันธ์ระหว่าง The Worths และ Cartier นั้นกลับตรงกันข้าม ทั้งสองธุรกิจต่างเกื้อหนุนกันอีกทั้งยังดำเนินไปได้ด้วยดี ซึ่งนอกจากนั้นยังมีความสัมพันธ์จากการแต่งงานของน้องสาวของเขา Suzanne กับลูกพี่ลูกของ Andrée-Caroline อีกด้วย
Andrée-Caroline Worth
หลังจากการหย่าร้าง Louis ได้ทุ่มเทให้กับการทำงานและใช้เวลาสร้างสรรค์งานเพิ่มมากขึ้น โดยวันหนึ่งขณะที่เดินเล่น เขาได้พบกับ Charles Jacqueau หนุ่มวัย 24 ปี ที่กำลังติดตั้งระเบียงสวยงามสไตล์เปรี้ยวจี๊ด แต่มีความลงตัวให้กับอาคารแห่งหนึ่ง Louis นั้นมั่นใจในสัญชาตญาณของเขาเสมอ จึงเสนองานให้ชายหนุ่มคนนี้เพื่อออกแบบอัญมณีของเขา โดยหลังจากที่ Jacqueau ได้เรียนรู้การทำงานรูปแบบใหม่ เขาก็รู้สึกทึ่งและตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น กับการทำงานให้กับผู้มีวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่และเป็นที่ยอมรับ ต่อมา Louis และJacqueau จึงได้ช่วยกันรังสรรค์งานอัญมณีโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการแสดง Ballets Russes อาทิเช่น การผสมผสานสีสัน เข็มกลัดทับทิม และผลไม้สีมรกตขนาดเล็กในชามนิล ที่ผลิตขึ้นในปี 1913 และขายให้กับ Grand Duke Paul แห่งรัสเซีย เข็มกลัดบาร์ที่ผสมผสานมรกต หยก และเทอร์ควอยซ์กับเพชรและไข่มุก ซึ่งผลิตในปี 1913 เช่นกัน ซึ่งถูกซื้อโดย Baron Henri de Rothschild ในอีกหกปีต่อมา
Blue and Green Brooch pendant from 1913 inspired by the Ballet Russes
Cartier necklace designed by ChariesJecqueau, used to belong to the Baron de the Baron de Rothschild
และสำหรับตลาดรัสเซีย ถึงแม้ว่า CARTIER จะถูกกีดกันจากคู่แข่ง แต่งานที่ Louis ตัดสินใจลุยขนสินค้าไปจัดขึ้นนี้ก็เต็มไปด้วยนักช็อปกระเป๋าหนัก บางรายนั้น Louis รู้จักตั้งแต่ที่พวกเขาเดินทางไปเยี่ยมชมโชว์รูมของ CARTIER ในปารีส และจากการขายเพียง 4 วันในรัสเซียก็ยังสามารถทำเงินได้ถึงประมาณ 1.5 ล้านรูเบิล หรือประมาณ 18 ล้านดอลลาร์ในขณะนี้ และทำให้ CARTIER ได้รับเลือกเป็นเจเวลเลอร์แบรนด์อันดับแรกของผู้คน ซึ่งเด่นกว่านักอัญมณีประจำราชสำนักของรัสเซีย ดังนั้นในช่วงปี 1914 ทุกอย่างจึงเป็นไปด้วยดีสำหรับ CARTIER และพวกเขาก็ยินดีกับความสำเร็จที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำได้ในเซ็นท์ปีเตอร์สเบริ์ค และช่วงเวลาก่อนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เป็นช่วงเวลาที่ Louis เต็มที่กับการทำงานอย่างสร้างสรรค์และมืออาชีพ เรียกได้ว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงล้อมรอบด้วยวงสังคมชั้นสูงของปารีส ซึ่งในปีนั้นเองเขาได้พบกับ Jeanne Toussaint ที่ร้าน Maxim’s แหล่งสังสรรค์ของสังคมปารีส
Grand Duchess Vladimir, pictured at February 1903 costume ball in the Winter Palace in St.Peterburg
Tiara of Grand DuchesVladimir (Maria Oavlovna) ordered in 1909
บางครั้งเขายังได้พบเธอกับเพื่อนหญิงอย่าง Coco Chanel โดยทั้งสองสาวต่างก็มีลักษณะจัดจ้านในด้านการแต่งตัว เรียกได้ว่าไปที่ไหนใครก็จำได้ และขณะนั้นเอง Jeanne ซึ่งมีอายุอ่อนกว่าเขาถึง 10 กว่าปี ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากคู่รักชนชั้นสูงชาวฝรั่งเศส และได้รับสมญานามว่า Panpan ขณะชมเสือดำคู่บารมีในป่าแอฟริกาด้วยกัน แต่เพราะฝ่ายชายได้ถูกหมั้นหมายอยู่แล้ว ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถลงเอยด้วยการแต่งงานได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเธอได้พบกับ Louis ทั้งสองต่างก็หลงใหลซึ่งกันและกัน และต่างใช้เวลาร่วมกันเรื่อยมา ทำให้ความรักครั้งใหม่ได้ก่อตัวท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองและสงคราม เพราะช่วงสงครามตั้งแต่ปี 1914 ถือเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่อีกครั้งของปารีส การประกาศระดมพลในฝรั่งเศสทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก แต่นับว่าเป็นโชคดีในความโชคร้ายของ Louis ที่ขาขวาของเขาหักจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหกปีก่อน ทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมการเกณฑ์ทหารได้
Prince Felix Yusupov in wedding day withirina, Tsar Nicholas ll's niece. Wore Yusupov Rock Crystal Tiara
The Yusupov Rock Ctystal Tiara was desihned by Charles Jacqueau in 1911
ส่วน CARTIER ก็ต้องปรับธุรกิจแทนที่จะขายอัญมณีขนาดใหญ่ จึงเปลี่ยนมาขายชิ้นที่เล็กกว่าและราคาไม่สูงมาก ออกผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มอาทิเช่น เข็มกลัด หรือเครื่องรางในรูปแบบของวัตถุที่เกี่ยวกับสงคราม โดยเฉพาะเครื่องบินที่มีสัญลักษณ์กาชาด หรือปี ค.ศ. ที่ประดับด้วยเพชรขนาดเล็ก แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่อาจหนีจากความจริงที่ว่า นี่คือสถานการณ์ที่แย่มากสำหรับธุรกิจหรูหรา ซึ่งแม้กระทั่งสายแฟชั่นอย่าง Worth ก็ยังต้องเสนออาคาร Worth ให้เปลี่ยนไปเป็นโรงพยาบาล เพื่อร่วมแรงร่วมใจและอุทิศให้กับสงครามในครั้งนี้ โดยในปีช่วงปี 1915-1916 Louis จัดเป็นทหารแนวเสริมและทำให้เขามีเวลาเขียนจดหมายถึง ครอบครัว เพื่อน และลูกค้าเพื่ออัพเดทข่าวสารล่าสุดของเขา พร้อมกับแนบรูปถ่ายจากรั้วทหารที่เขาได้ตระเวนไปรอบๆ ซึ่งสิ่งที่เขาได้เห็นนั้นจะกลายเป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์ที่โดดเด่นที่สุดของเขา CARTIER Tank และหลังจากนั้นไม่นานในฤดูใบไม้ผลิปี 1917 เขาก็ถูกส่งกลับและทำให้เขาได้มีเวลา ที่จะสานต่อความคิดของเขาให้เป็นจริงกับนาฬิกาเรือนใหม่ได้
Portrait of Jeanne Toussaint by Adolph de Meyer in 1920
ต่อมาในปี 1918 ได้มีการลงนามสงบศึกและประกาศยุติการต่อสู้ระหว่างเยอรมนีและฝ่ายสัมพันธมิตร Louis ไม่รีรอที่จะเกาะกระแสความรักชาติเพื่อเชื่อมต่อกับการสร้างธุรกิจ โดย CARTIER ถูกขอให้ออกแบบกระบองของจอมพล Ferdinand Foch ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจในขณะนั้น และปัจจุบันได้กลายเป็นผลงานศิลปะแห่งชาติที่ถูกจารึกให้กลายเป็นวัตถุทางประวัติศาสตร์ และจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Musée de l'Armée ของปารีส ส่วนทางด้านความรักของ Louis กับ Jeanne ก็ยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่ครอบครัวของเขาต่อต้านโดยเฉพาะ Alfred และ Pierre ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการหย่าร้างจาก Andrée-Carolineซึ่งในสายตาของพวกเขาแล้ว Jeanne ไม่เหมาะสมกับ Louis และจะทำลายชื่อเสียงของครอบครัว อย่างไรก็ตาม Louis เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับมุมมองของครอบครัวเขาจึงดึง Jeanne เข้าร่วมธุรกิจในฐานะพนักงานแผนกกระเป๋าผู้หญิง เพราะเขารู้ดีกว่าใครว่า Jeanne นั้นถนัดในด้านแฟชั่น และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในอนาคต โดยเฉพาะตอนนี้ที่ชื่อเสียงของ CARTIER นั้นแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นทุกวัน
The Armistice of November 11, 1981 (WWI)
Boton of Machel Ferdinand Foch
จากความน่าเชื่อถือที่ได้รับการรับรองจากราชวงศ์และตระกูลผู้ปกครองในยุโรป พร้อมมีการสั่งผลิตอัญมณีและนาฬิกาเป็นจำนวนมาก โดยในปี 1919 Louis ได้ก่อตั้งการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับนาฬิกาของ CARTIER ขึ้นที่ ถนนลาฟาแย็ทโดยจ้างผู้ชำนาญการทางด้านการผลิตนาฬิกาจำนวน 30 คน เพื่อเป็นทีมงานเฉพาะที่จะผลิตผลงานชิ้นเอกแบบไม่เหมือนใครขึ้น และในช่วงเริ่มต้นของทศวรรษ 1920 Louis ในวัยสี่สิบต้นๆ นั้นจึงอยู่ในจุดสูงสุดของการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ โดยเขามีอิสระเต็มที่ที่จะมุ่งเน้นการผลิตผลงานออกมาด้วยนวัตกรรมที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง ซึ่งในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 1919 นาฬิกาที่ออกแบบตามรูปทรงของรถถังรุ่นแรกก็ได้ถูกขึ้นทะเบียน และเป็นจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ใหม่ของ CARTIER ที่จะได้รับความนิยมต่อไปอีกนานนับศตวรรษ
กรุณาติดตามตอนต่อไปเดือนหน้า
Untold Story “THE CARTIERS” Part I
Untold Story “THE CARTIERS” Part II