CARTIER เปิดไอคอนิคป๊อปอัพ โชว์คอลเลคชั่นอันโดดเด่นทั้ง 7
CARTIER เปิดไอคอนิคป๊อปอัพและเชิญชวนผู้สนใจร่วมค้นหา รวมทั้งสัมผัสกับคอลเลคชั่นอันโดดเด่นทั้ง 7 ของแบรนด์ได้แก่ Ballon Bleu, Juste un Clou, Tank, Trinity, Panthère, Love และ Santos เพื่อชมและเลือกสรรเครื่องประดับ รวมทั้งเรือนเวลาชิ้นโปรดให้กับตัวเองหรือคนพิเศษ พร้อมพบกับกิจกรรมสนุก เพียงแอดไลน์ @CartierTH เพื่อร่วมถ่ายรูปในโฟโต้บูธ ที่ออกแบบเพื่องานนี้โดยเฉพาะ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่วันนี้จนถึง 24 เมษายน ณ Hall of Fame ศูนย์การค้าสยามพารากอน
สำหรับ CARTIER ดีไซน์คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง ซึ่ง The Culture of Design แคมเปญระดับโลกของแบรนด์ ก็ถือเป็นการอุทิศให้กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ และเพื่อให้เกียรติต่อผลงานชิ้นไอคอน ที่เป็นผลลัพธ์ของวิสัยทัศน์และความตั้งใจ ของนักออกแบบที่รังสรรค์เครื่องประดับและเรือนเวลาในคอลเลคชั่นต่างๆ อันทรงพลังและสรรสร้างขึ้นอย่างพอดี ผลงานชิ้นไอคอนเหล่านี้เองที่ทำให้เครื่องประดับของ CARTIER กลายเป็นดีไซน์แบบร่วมสมัย และเป็นที่ปรารถนาของผู้คนมาโดยตลอด
คอลเลคชั่นอันคลาสสิคทั้ง 7 ที่มีเอกลักษณ์ดีไซน์เฉพาะตัว ล้วนเป็นผลงานที่จดจำได้ตั้งแต่แรกเห็น และได้รับการสร้างสรรค์ผ่านแนวคิดอันแหวกแนว ซึ่งถูกหล่อหลอมและฝังรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของแบรนด์ ที่มุ่งมั่นรังสรรค์ผลงานศิลปะ ผ่านคอลเลคชั่นเครื่องประดับและเรือนเวลา ที่มีดีไซน์โดดเด่นจนยากที่จะละสายตา จากคอลเลคชั่นอันเป็นไอคอนทั้ง 7 ซึ่งได้แก่
Ballon Bleu de CARTIER ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปี 2007 โดย CARTIER ได้นำความกลมมนมาตีความใหม่ด้วยการเพิ่มมิติ และผลลัพธ์คือความซับซ้อนของทรงกลมบนตัวเรือน ที่สร้างสมดุลระหว่างเส้นสายได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยการซ่อนเม็ดมะยมประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงิน อันเป็นเอกลักษณ์ในวงแหวนกลมเล็ก ไว้กับตัวเรือนอย่างแนบเนียนไม่มีสะดุดที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
สำหรับคอลเลคชั่นเครื่องประดับ Juste un Clou ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในนิวยอร์กช่วงยุค 70s โดย Aldo Cipullo ดีไซเนอร์ของ CARTIER ที่ได้นำรูปทรงตะปูที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป มาตีความใหม่เป็นเครื่องประดับอันทรงคุณค่า ด้วยเส้นสายโค้งมน ทว่ามีดีไซน์ที่เฉียบคม พร้อมสัดส่วนที่รับกับข้อมืออย่างลงตัว
เมื่อปี 1917 Louis Cartier ได้นำแรงบันดาลใจจากความคมชัดของเส้นสายต่างๆ และภาพจากมุมมองด้านบนของรถถัง มาสร้างสรรค์เป็นรูปทรงใหม่ให้กับนาฬิการุ่น Tank ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นโลหะสองชิ้นที่ประกบกับตัวเรือน ทรงเหลี่ยม ด้วยหลักการออกแบบกราฟฟิก ให้คานทรงเหลี่ยมสองชิ้นที่ประกบตัวเรือนเป็นดั่งล้อ และตัวเรือนเป็นดุจหอบังคับการ โดยที่การประกอบตัวเรือนกับสายนาฬิกา ต้องกลมกลืนจนเกือบจะเป็นเส้นเดียวกัน เพื่อรักษาหัวใจหลักของแรงบันดาลใจดังกล่าวไว้
Trinity ถือเป็นผลงานการออกแบบของ Louis Cartier จากปี 1924 ด้วยการเผยความงดงามของวงแหวนวัสดุไวท์โกลด์, เยลโลว์โกลด์ และพิ๊งค์โกลด์ 3 วง ที่มีเส้นสายเรียบง่ายและขนาดสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งกระหวัดพันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
Panthère de CARTIER ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปี 1983 ให้เป็นมากกว่างานศิลปะ ด้วยตัวเรือนทรงเหลี่ยมมุมมน พร้อมเส้นสายที่กลมกลืนอย่างไร้รอยต่อ ของตัวเรือนและสายนาฬิกา รวมถึงหมุดตอกที่เห็นบนกรอบตัวเรือน ที่ CARTIER ปรารถนาที่จะรักษาความความโดดเด่น ของเส้นสายแต่ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนช้อย ซึ่งทำให้เรือนเวลารุ่นนี้เป็นเสมือนเครื่องประดับในเวลาเดียวกัน โดยนาฬิกาเรือนนี้มีชื่อเดียวกับกำไลข้อมือที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของเสือแพนเธอร์ สัตว์ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ โดยนาฬิการุ่นนี้ได้ถูกนำมาตีความใหม่อีกครั้งในปี2017 ให้แสดงถึงความเป็นอิสตรีที่เปี่ยมสุข เด็ดเดี่ยว และเป็นอิสระ
Love คือเครื่องประดับที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ด้านการดีไซน์ของ CARTIER และเส้นสายที่คมชัดที่ถือเป็นความสมบูรณ์แบบ กำไลข้อมือทรงรีนี้ถูกสร้างสรรค์โดย Aldo Cipullo ที่นิวยอร์กในปี 1969 ด้วยการนำทองคำหรูหราทรงโค้งสองชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกัน กับสกรูว์และไขควงที่ให้มาโดยเฉพาะ
Santos de CARTIER ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปี 1904 บนแนวคิดเรื่องรูปทรง รสนิยมแบบเรียบง่าย ความถูกต้องของสัดส่วน และรายละเอียดที่ประณีต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ CARTIER ออกแบบนาฬิกาข้อมือที่มีหน้าปัดสี่เหลี่ยม ขณะที่ในยุคนั้นนาฬิกามักมีทรงกลม ส่วนสกรูว์ที่มักถูกซ่อนไว้อยู่เสมอในเทคนิคการประกอบเรือนเวลาชั้นสูง ก็กลับปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด และกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงามของคอลเลคชั่นในที่สุด
CARTIER ไอคอนิคป๊อปอัพในประเทศไทยครั้งนี้ จะมีกิจกรรมการถ่ายภาพแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยสามารถสำรองคิวล่วงหน้าจากการเพิ่มเพื่อนกับ @CartierTH และนัดหมายกับเจ้าหน้าที่เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ในการร่วมกิจกรรมล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนเข้างาน