iamwatch

Twitter

ปี 2020 นี้ BREGUET เปิดศักราชด้วยการแนะนำนาฬิกา ที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าปัดใหม่ในโทนสีน้ำเงินเข้ม ด้วยเทคนิคกรองฟูว์อีนาเมลที่มีมาตั้งแต่อดีต และเหลือเพียงช่างผู้มีฝีมือในการผลิต เพียงจำนวนน้อยนิดในปัจจุบัน ที่ยังคงความสามารถอันล้ำเลิศนี้ได้ตามมาตรฐานการผลิตของ BREGUET

ย้อนไปในอดีต ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของ BREGUET ที่นาฬิกาทุกเรือนต้องผ่านการตรวจสอบของ Abraham-Louis Breguet ผู้เข้มงวดในการตรวจสอบทุกชิ้นงานอย่างละเอียดด้วยตัวเอง เพื่อให้นาฬิกาทุกเรือนเป็นไปตามมาตรฐานของเขา ซึ่งในปัจจุบัน BREGUET ก็ยังคงมาตรฐานเหล่านี้ไว้อย่างเคร่งครัดเช่นเดิม

เพราะเทคนิวกรองฟูว์อีนาเมลนี้ คืองานศิลป์ที่ต้องมีทั้งความแม่นยำ ความอดทน และความชำนาญการร่วมเข้าด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดแผ่นทองคำที่ใช้เป็นหน้าปัด ลงยาอีนาเมลด้วยพู่กันอย่างประณีตบางๆ ทีละชั้น และอบด้วยความร้อนสูงในระดับ 800 องศาเซลเซียส

หลังจากนั้นก็ทำขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำๆ กัน โดยแต่ละครั้งจะเป็นการสร้างชั้นสีบางๆ ทับกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้สีที่มีความลึกล้ำอย่างที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้สีของหน้าปัดที่ได้ออกมา จะแลดูมีมิติและมีความลึกอย่างที่แตกต่างจากเทคนิคการทำสีชนิดอื่นๆ ทั่วไป

ขั้นตอนสุดท้ายคือการขัดพื้นผิวของสี เพื่อให้ได้ความเรียบนวลมากที่สุด จากนั้นจึงเริ่มทำการติดติดมาร์กเกอร์และอื่นๆ บนหน้าปัด จนกระทั่งได้หน้าปัดที่สมบูรณ์แบบพร้อมใช้งาน โดยมี BREGUET ซิกเนเจอร์สำคัญประดับอยู่บนหน้าปัดอย่างมีเอกลักษณ์อีกด้วย

BREGUET ซิกเนเจอร์นี้ ถือเป็นความล้ำค่าอีกส่วนหนึ่งของนาฬิกาทุกเรือนจาก BREGUET ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานการผลิตตั้งแต่ช่วงปี 1975 ที่ Abraham-Louis Breguet จะสร้างสัญลักษณ์ลับไว้บนหน้าปัดเสมอ เพื่อการตรวจสอบนาฬิกาปลอมที่ผลิตขึ้นมามากมายในยุคนั้น

และภายใต้หน้าปัดอันเรียบง่ายตามสไตล์นาฬิกาคลาสสิคจาก BREGUET คือกลไกตูร์บิยองอันทรงคุณค่าที่จะมีเพียง BREGUET เท่านั้นที่จะสามารถเรียกกลไกนี้ ได้อย่างเต็มภาคภูมิว่ากลไกตูร์บิยอง จากมันสมองของ Abraham-Louis Breguet ผู้คิดค้นและเป็นรากฐานสำคัญให้กับโลกนาฬิการะดับสูงในยุคปัจจุบัน

โดยกลไกตูร์บิยองอัตโนมัติอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 581 ที่มีความบางน้อยกว่า 3 มิลลิเมตรนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความหนารวมเพียง 7.5 มิลลิเมตร พร้อมความโดดเด่นของกรงตูร์บิยองที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนที่บริเวณระหว่าง 4 และ 6 นาฬิกาบนหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มอันงดงาม

ตัวเรือนขอบด้านข้างแบบฟลุทด์ ผลิตจากแพลทตินั่มขนาด 41 มิลลิเมตร ตัวเลขอาร์บิคและเข็มนาฬิกาทั้งสองแบบบริเกท์ และเข็มแสดงวินาทีบนกรงตูร์บิยองที่ผลิตจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา โดยกลไกตูร์บิยองอัตโนมัติอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 581 นี้จะทำงานที่ความถี่ 4 เฮริท์ซ พร้อมพลังสำรองลานที่ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง 

กระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่สามารถมองเห็นการทำงานของกลไกได้อย่างงดงาม ใช้งานเข้าคู่กันกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มแบบเงา และทริปเปิลโฟลดิ้งบัคเคิลอันเงางามที่ผลิตจากแพลทตินั่ม ที่เป็นวัสดุเดียวกันกับตัวเรือน