รากลึกในคอลเลคชั่น Villeret
BLANCPAIN นำเสนอนาฬิกาซีรี่ส์ใหม่ในคอลเลคชั่น Villeret ตั้งแต่รุ่น Extraplate, Quantième Complet, Quantième Phases de Lune และ Tourbillon Carrousel พร้อมหน้าปัดที่มีการขัดแต่งลวดลายซันเบริส์ท ในเฉดสีเขียวที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากมวลหมู่ต้นสนแห่งหุบเขาวัลเล่เดอจูซ์ ที่รายล้อมบริเวณโรงงานในเมืองเลอบราซูส์ จากโมเดลนาฬิกาในรุ่นที่เรียบง่าย แต่โดดเด่นไปจนถึงรุ่นที่มีความความซับซ้อน ทางเทคนิคขั้นสูงซึ่งสะท้อนให้เห็น ถึงประวัติศาสตร์ของแบรนด์จากการนำผืนป่า ของหุบเขามาใส่ไว้นั่นเอง
โดย BLANCPAIN ได้ใช้ชื่อหมู่บ้านที่เป็นพื้นเพแต่เดิมของแบรนด์ มาเป็นชื่อคอลเลคชั่นที่คลาสสิกที่สุดของตัวเอง แม้จะสืบทอดสไตล์ตามขนบธรรมเนียม และประเพณีการผลิตตั้งแต่ดั้งเดิมมา แต่นาฬิกาในคอลเลคชั่น Villeret ก็ยังมุ่งไปสู่อนาคตอย่างมั่นคงไปพร้อมกันอีกด้วย จากการนำรากเหง้าของตนมาเป็นแบบอย่าง และทำให้เด่นชัดยิ่งกว่าเดิมด้วยเส้นสายที่อ่อนช้อย ที่ช่วยทำให้คอลเลคชั่นนี้หรูหราเหนือกาลเวลา ด้วยตัวเรือนเล่นระดับสองชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
ซึ่งจากนาฬิกาต่างๆ ในคอลเลคชั่น Villeret นี้เองที่ชวนให้นึกถึงความหรูหราที่เหนือกาลเวลา โดดเด่นด้วยดีไซน์แสนบริสุทธิ์ และความซับซ้อนทางด้านเทคนิคของกลไก และเพื่อเป็นการตอกย้ำความสำคัญ ของธรรมชาติที่อยู่รอบตัว BLANCPAIN จึงเผยโฉมเรือนเวลาโมเดลใหม่ ภายใต้คอลเลคชั่นในเฉดสีเขียวสุดงดงาม ซึ่งเมื่อตัดกับตัวเรือนในวัสดุแบบเรดโกลด์ ก็ยิ่งทำให้เกิดความสวยงามจับใจ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับคุณสมบัติทางด้านเทคนิคที่พิเศษ รวมทั้งความงามสุดวิจิตรที่มีความพิเศษเหนือใคร
เริ่มต้นจาก Extraplate กับความเรียบง่ายแต่หรูหรา โดยเน้นการบอกเวลาเป็นหลัก ทำให้หน้าปัดมีพื้นที่ในการแสดงเฉดสีเขียวสบายตา ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 1151 ที่บางเป็นพิเศษเพียง 3.37 มิลลิเมตร มาพร้อมตัวเรือนเรดโกลด์ขนาด 40 มิลลิเมตรที่มีความหนาเพียง 8.7 มิลลิเมตร ซึ่งแม้ว่าจะมีความบางจนน่าทึ่ง นาฬิการุ่น Extraplate ใหม่นี้กลับยังคงพลังสำรองลานไว้ได้อย่างยาวนานถึง 100 ชั่วโมงจากการทำงานด้วยตลับลานคู่ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในความพิเศษ สำหรับนาฬิกาเรือนที่มีความบางในระดับนี้
และด้วยความงดงามของการค่ามูนเฟสอันเลื่องชื่อของ BLANCPAIN ทำให้เรือนเวลารุ่น Villeret Quantième Phases de Lune สามารถเปล่งประกายชวนฝันได้อย่างโดดเด่นยิ่งขึ้น กับภาพใบหน้าของสุภาพสตรีพร้อมเปลือกตาที่ปิดสนิท และขนตายาวสวยเติมความมีชีวิตชีวาให้กับนาฬิกา ทั้งยังดูกลมกลืนและเข้ากันได้อย่างลงตัว กับวงจรของดวงจันทร์ที่มาพร้อมขอบวงแหวน แสดงค่าวันที่และเข็มทรงจันทร์เสี้ยว และเพื่อให้ล้อไปกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
พร้อมหน้าปัดและตัวเรือนที่โดดเด่น ที่เปล่งประกายไปด้วยเพชรเจียระไนน้ำหนักรวมเกือบ 1 กะรัต และยังมีการลายขัดซันเบริส์ท อันประณีตประดับอยู่ในหน้าปัดสีเขียวใหม่อีกด้วย โดยสีเขียวที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายนี้ ยังถูกนำไปใช้กับสายนาฬิกาที่เข้าคู่กัน ทำให้เรือนเวลารุ่นนี้สามารถเปล่งประกายงดงาม ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน พร้อมการรวมเอาความชำนาญของช่างกลไกเข้าไว้ ที่แสดงให้เห็นได้จากกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 913QL.P ในตัวเรือนเรดโกลด์ขนาด 33.20 มิลลิเมตร
ต่อมาคือนาฬิการุ่น Villeret Quantième Complet ในตัวเรือนเรดโกลด์ขนาด 40 มิลลิเมตร พร้อมการจัดวางองค์ประกอบบนหน้าปัดมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความสมดุลอย่างงดงาม และสามารถอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย กับหน้าปัดสีเขียวใหม่ที่ดูนุ่มลึก ตัดกับเข็มและมาร์กเกอร์วัสดุเรดโกลด์ ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 6654 ที่มีระบบป้องกันการติดขัดในการทำงาน ของระบบปฏิทินที่ทำให้ผู้สวมใส่ สามารถตั้งค่าได้ทุกเวลาตามต้องการที่ BLANCPAIN ได้มีการจดสิทธิบัตรเฉพาะเอาไว้
สุดท้ายกับนาฬิการุ่น Villeret Tourbillon Carrousel ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ BLANCPAIN ในการรังสรรค์กลไกชิ้นเอก ที่มีความซับซ้อนอย่างที่สุดให้เป็นที่ประจักษ์ กับกลไกไขลานคาลิเบอร์ 2322 โดยเป็นชุดฟลายอิ้งตูร์บิยอง ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และฟลายอิ้งคูโรเซล ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และให้กรงหมุนรอบตัวอิสระทั้งสอง ทำงานร่วมกันผ่านเฟืองท้าย ที่ส่งอัตราเฉลี่ยไปยังส่วนแสดงเวลา พร้อมพลังสำรองลานนานถึง 7 วัน โดยแสดงระดับพลังสำรองลานที่ด้านหลังตัวเรือน