VAN CLEEF & ARPELS นาฬิกานำโชค
“ถ้าอยากมีโชค เราก็ต้องเชื่อในโชค” ตามคำกล่าวติดปากของ Jacques Arpels ที่ส่งผลให้ “อัลลองบรา” หรือคอลเลกชั่น Alhambra ก้าวขึ้นสู่เครื่องประดับอันนำโชคของ VAN CLEEF & ARPELS และได้รับการรังสรรค์รวมทั้งขยายผลหลายต่อหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อถ่ายทอดความงามสง่าอันทรงคุณค่า ตามแบบฉบับรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉก โดยใช้วัสดุและลูกเล่นเพื่อแต่งเติมรายละเอียดอย่างหลากหลาย ซึ่งสำหรับผลงานในครั้งนี้ นาฬิกาเครื่องประดับ Sweet Alhambra สองรุ่นใหม่ ยังคงอาศัยลูกเล่นการร้อยชิ้นโมทิฟรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉก กับตัวเรือนทองคำสลับกับโมทิฟรูปทรงและขนาดเดียวกัน รองรับงานฝังรงคศิลาประดับ โดยมีโมทิฟขนาดสัณฐานที่ใหญ่กว่าชิ้นอื่นเป็นตัวเรือนนาฬิกา
ด้วยความกลมกลืนระหว่างประกายอันอบอุ่นละมุนตา จากโรสโกลด์กับเฉดแดงอมส้มละมุนของหินคาร์เนเลียน (Carnelian) อันควรค่าแก่สมญา “โมราสีเพลิง” ซึ่งครองความนิยมในการใช้ตกแต่ง บนเครื่องประดับอัญมณีทั้งหลายมานับแต่โบราณกาล และเช่นเดียวกันกับในผลงานคอลเลกชันต่างๆ VAN CLEEF & ARPELS จะคัดเลือกโมราสีเพลิงโดยพิจารณาถึงน้ำหนักความลึก ของเนื้อสีที่ต้องมีความสม่ำเสมอเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งชิ้น อีกทั้งยังต้องผ่านการขัดผิวอย่างพิถีพิถัน ให้เผยประกายสว่างโชติช่วงดังเปลวไฟยามต้องแสง และหลังผ่านเกณฑ์การคัดสรรค์แล้ว บรรดาช่างเจียระไนจะบรรจงเทียบสีจับคู่ และจัดวางรงคศิลาหายากแต่ละชิ้นนี้ ให้กลมกลืนเข้าด้วยกันทั้งหมดในชิ้นงาน
ขณะเดียวกัน แผ่นโมทิฟโรสโกลด์ที่ใช้ร้อยสลับล้วนรองรับความประณีต และละเอียดละออในการสลักลายกิโยเช่ เพื่อให้เหลี่ยมมุมที่เรียงสลับกับริ้วร่องสะท้อนแสง ที่ตกกระทบก่อประกายสุกสว่างเป็นจังหวะต่อเนื่องไม่จบสิ้น ร่วมกันทำให้คอลเลคชั่น Alhambra เป็นบทสะท้อนทุกมวลความชำนาญเหนือชั้น ในการสรรค์สร้างเครื่องประดับชั้นสูงของเมซง จากขั้นตอนการเจียระไนไปจนถึงขึ้นโครงสร้างตัวเรือน และจากกระบวนการฝังอัญมณีขึ้นตัวเรือนไปสู่งานฝีมือการขัดแต่ง ผลงานแต่ละชิ้นล้วนอาศัยการร่วมงานของช่างฝีมือหัตถศิลป์หลากแขนง เพื่อสืบสานมาตรฐานต่างๆ ของเมซง โดยคาร์เนเลียนแต่ละชิ้นจะผ่านการตัดเจียรอย่างประณีต ระมัดระวัง และดำเนินการขัดผิวอย่างละเอียด
ส่วนโมทิฟทองคำสลักลายกิโยเช่ ก็อาศัยงานฝีมืออันทรงค่าในการฝังลูกปัดอัญมณีเม็ดเดี่ยว ลงตรงกึ่งกลางอย่างโดดเด่น โดยสัณฐานกลมกลึงของลูกปัดทอง บนปลายเขี้ยวหนามเตยรายล้อมรอบแผ่นโมทิฟทั้งหมดเหล่านี้ จะได้รับการตกแต่งในทุกแง่มุม และทุกรายละเอียดโดยช่างผู้มากด้วยประสบการณ์ ก่อนดัดพับลงมาเพื่อยึดบรรดาแผ่นโมทิฟประดับทั้งหลายให้เข้าที่ แล้วจึงดำเนินการขัดผิวทั้งชิ้นงานเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อทวีความงดงามของแต่ละชิ้นส่วน ที่จะนำไปร้อยและประกอบเป็นเครื่องประดับ จากการคัดเลือกไปจนถึงการจัด และปรับรูปทรงสู่กระบวนการตรวจสอบจนถึงการควบคุมคุณภาพ ผลงานอันทรงคุณค่าตามแบบฉบับแต่ละชิ้น จึงต้องอาศัยขั้นตอนไม่น้อยกว่าสิบห้าลำดับในการผลิตแต่ละครั้ง