VACHERON CONSTANTIN Overseas Dual Time และ Traditionnelle Complete Calendar Collection Excellence Platine นาฬิการุ่นล่าสุดประจำปี 2018 เผยโฉมให้ชมกันก่อนถึงงาน SIHH 2018
ตามธรรมเนียมของหลายๆ แบรนด์ที่เข้าร่วมจัดแสดงนาฬิกาในงานประจำปีที่เจนีวา SIHH นั้น มักจะมีการเผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ๆ บางรุ่นออกมาให้ชมกันก่อนเริ่มงานเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย VACHERON CONSTANTIN ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ทำเช่นนั้นอยู่เสมอ และก่อนที่งาน SIHH ประจำปี 2018 จะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม ทางแบรนด์ก็ได้เผยโฉมนาฬิกาที่จะจัดแสดงในงานมาให้ชมกันก่อน 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ Overseas Dual Time และ Traditionnelle Complete Calendar Collection Excellence Platine
Overseas Dual Time
หลังจากที่เปิดตัวเจเนอเรชั่นใหม่ของนาฬิกา Overseas ในหลากหลายรูปแบบและฟังก์ชั่นไปเมื่อปี 2016 มาในครั้งนี้ทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัวฟังก์ชั่นใหม่มาเป็นทางเลือกเพิ่มเติม นั่นก็คือ ฟังก์ชั่นดูอัลไทม์ ที่สามารถแสดงเวลาได้สองไทม์โซน จากการทำงานของกลไกอินเฮ้าส์ คาลิเบอร์ 5110 DT ที่ทางแบรนด์พัฒนาขึ้นมาใหม่
คาลิเบอร์ 5110 DT เป็นกลไกแบบขึ้นลานอัตโนมัติ กำลังสำรอง 60 ชั่วโมง ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นดูอัลไทม์ ที่ออกแบบให้แสดงค่าเวลาที่สอง (โฮมไทม์) แบบ 12 ชั่วโมง ด้วยเข็มกลางปลายศร จุดเด่นของกลไกเครื่องใหม่นี้ก็คือ การปรับตั้งค่าเวลาทั้งสองค่าได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และเหมาะกับการใช้งานเป็นที่สุด เพราะทั้งเข็มสั้นสำหรับชั่วโมงโลคอลไทม์ และเข็มโฮมไทม์นั้นปรับตั้งได้ด้วยเม็ดมะยมเดียวกันโดยปรับเลื่อนได้ทั้งไปข้างหน้าและย้อนกลับ (ดึงเม็ดมะยมขึ้นมาจังหวะแรก เป็นการปรับตั้งเข็มโลคอลไทม์ที่จะกระโดดเป็นจังหวะละ 1 ชั่วโมง อย่างอิสระ, ดึงเม็ดมะยมขึ้นมาจังหวะที่สอง เป็นการปรับตั้งเข็มโฮมไทม์ซึ่งจะเคลื่อนสัมพันธ์กับเข็มนาที และเข็มขนาดเล็กปลายศรที่ชี้แสดงกลางวัน/กลางคืน) ขณะที่ฟังก์ชั่นวันที่ซึ่งแสดงด้วยเข็มขนาดเล็กบนวงหน้าปัดตำแหน่ง 6 นาฬิกานั้นถูกออกแบบให้ปรับตั้งด้วยปุ่มกดแบบมีเกลียวล็อคป้องกันการกดโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา โดยเข็มวันที่นี้จะเคลื่อนสัมพันธ์กับเข็มโลคอลไทม์
กลไกเครื่องนี้บรรจุอยู่ในตัวเรือนขนาด 41 มม. ที่กันน้ำได้ 150 เมตร ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับรุ่น Overseas แบบบอกเวลามาตรฐานสามเข็มพร้อมฟังก์ชั่นวันที่ โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติพื้นฐานอันยอดเยี่ยมของนาฬิกา Overseas เจเนอเรชั่นใหม่ ทั้งรูปทรงและลักษณะการตกแต่ง ความโดดเด่นของขอบตัวเรือนดีไซน์เฉพาะตัว การติดตั้งวงแหวนเหล็กอ่อนไว้ภายในตัวเรือนเพื่อป้องกันสนามแม่เหล็ก เม็ดมะยมแบบขันเกลียว ฝาหลังแบบผนึกกระจกแซฟไฟร์ หน้าปัดแล็กเกอร์ขัดซาตินลายซันเบิร์สต์ รูปทรงของเข็มและหลักชั่วโมงทองคำ 18 เค เคลือบสารเรืองแสง และโรเตอร์ทองคำ 22 เค ตกแต่งเป็นลักษณะของ “วินด์ โรส” ตลอดจนสายนาฬิกาที่ให้มาถึง 3 เส้น 3 รูปแบบ ทั้งสายสตีล สายหนังจระเข้ มิสซิสซิพเพียนซิส และสายยาง โดยเป็นสายที่ติดตั้งตัวล็อคระบบ อีซี่-ฟิต ที่ออกแบบให้ถอดและติดตั้งกับตัวเรือนได้อย่างสะดวกง่ายดายเป็นที่สุดโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ
Overseas Dual Time เปิดตัวมาพร้อมกัน 3 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีน้ำเงิน, เวอร์ชั่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล หน้าปัดโทนสีเงิน และเวอร์ชั่นตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ หน้าปัดโทนสีเงิน ซึ่งสายหนังจระเข้กับสายยางที่ให้มาก็จะเป็นสีน้ำเงิน สีดำ หรือสีน้ำตาล เพื่อให้เข้ากับสีของหน้าปัดของแต่ละเวอร์ชั่น (ยกเว้นเวอร์ชั่นตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ ที่มีมาให้เพียง 2 สาย คือ สายหนังจระเข้ กับสายยาง) และแน่นอนว่าทุกเรือนจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน ฮอลล์มาร์ค ออฟ เจนีวา มาเป็นที่เรียบร้อยอันเป็นคุณสมบัติประจำตัวของนาฬิกา VACHERON CONSTANTIN ในปัจจุบัน ด้วยคุณลักษณะอันยอดเยี่ยมทั้งหมดนี้ Overseas Dual Time จึงเป็นนาฬิกาสไตล์สปอร์ตหรูอีกรุ่นหนึ่งที่นักเดินทางไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด
Overseas Dual Time Ref. 7900V/110A-B334 ตัวเรือนสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีน้ำเงิน
Overseas Dual Time Ref. 7900V/110A-B333 ตัวเรือนสเตนเลสสตีล หน้าปัดโทนสีเงิน
Overseas Dual Time Ref. 7900V/000R-B336 ตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ หน้าปัดโทนสีเงิน
Traditionnelle Complete Calendar Collection Excellence Platine
คอลเลคชั่น Excellence Platine คือคอลเลคชั่นนาฬิกาสุดพิเศษ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตแบบจำนวนจำกัดซึ่ง VACHERON CONSTANTIN สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการความเหนือระดับกว่าคอลเลคชั่นปกติ โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 2006 และทยอยออกรุ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีตั้งแต่นาฬิกาแบบเรียบง่ายฟังก์ชั่นพื้นฐานไปจนถึงนาฬิกาฟังก์ชั่นซับซ้อนรูปแบบต่างๆ ซึ่งทุกรุ่นล้วนมีลักษณะเฉพาะตัวของคอลเลคชั่น Excellence Platine ร่วมกัน นั่นก็คือ ใช้ตัวเรือนวัสดุสูงค่า แพลตินั่ม 950, ใช้หน้าปัดวัสดุแพลตินั่ม 950 ที่ตกแต่งแบบแซนด์บลาสต์ซึ่งมีระบุ “Pt950” ตัวเล็กๆ อยู่ระหว่างตำแหน่ง 4 กับ 5 นาฬิกา และมาพร้อมกับสายหนังจระเข้ มิสซิสซิพเพียนซิส สีน้ำเงินเข้มที่เย็บตะเข็บด้วยแพลตินั่ม 950 และเส้นไหม พร้อมตัวล็อคสายแบบบานพับวัสดุแพลตินั่ม 950
สำหรับปี 2018 นี้ ทางแบรนด์เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ของคอลเลคชั่นเหนือระดับนี้ด้วยรุ่น Traditionnelle Complete Calendar Collection Excellence Platine แสดงเวลาแบบสามเข็มที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นอมตะ “คอมพลีท คาเลนดาร์” แสดงวันที่ วัน เดือน และมูนเฟสกับเอจออฟเดอะมูน อย่างครบครัน โดยจำกัดจำนวนการผลิตไว้เพียงแค่ 100 เรือนเท่านั้น และมีการสลักหมายเลขประจำเรือนไว้บนขอบฝาหลังด้วย ลักษณะโดยรวมของรุ่นนี้มากับความคลาสสิกร่วมสมัยตามธรรมเนียมการประดิษฐ์นาฬิกาของชาวเจนีวา ทั้งตัวเรือนแบบเล่นระดับ ฝาหลังแบบขอบฟลุ้ต สเกลนาทีแบบรางรถไฟ เข็มชั่วโมงกับนาทีทรงดอฟีน และหลักชั่วโมงทรงบาตอง ตลอดจนการปาดเหลี่ยมบนเข็มและหลักชั่วโมงทองคำ 18 เค ขณะที่ตัวเลขและอักษรต่างๆ นั้นใช้เป็นสีน้ำเงิน และเสริมคุณลักษณะเฉพาะรุ่นด้วยจานมูนเฟสที่ทำจากแพลตินั่ม อีกทั้งยังงามคลาสสิกด้วยช่องแสดงค่าปฏิทิน มูนเฟส และลักษณะการแสดงวันที่ด้วยเข็มกลางสีน้ำเงินเล่มเรียว ที่วางตำแหน่งได้อย่างสมดุลย์เป็นอย่างยิ่ง
Traditionnelle Complete Calendar Collection Excellence Platine (Ref. 4010T/000P-B345)
ตัวเรือนของรุ่นนี้มาในขนาด 41 มม. หนา 10.72 มม. พร้อมฝาหลังผนึกกระจกแซฟไฟร์เพื่อให้มองเห็นความงดงามของกลไกอินเฮ้าส์ คาลิเบอร์ 2460 QCL ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 40 ชั่วโมง ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทองคำ 22 เค โดยฟังก์ชั่นมูนเฟสของกลไกเครื่องนี้มีความแม่นยำสูงซึ่งต้องการการปรับตั้งเพียงครั้งเดียวในรอบ 122 ปีเท่านั้น และแน่นอนว่านาฬิการุ่นนี้ได้รับรองมาตรฐาน ฮอลล์มาร์ค ออฟ เจนีวา มาเป็นที่เรียบร้อย
By: Viracharn T.
